xs
xsm
sm
md
lg

“เลี้ยบ” ตะแบงโทษ รธน.ต้นเหตุ “ไชยา” ถูกชี้มูลถือหุ้นเกิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพปช.
เลขาฯ พลังแม้ว อ้างเหตุ “ไชยา” ถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดเพราะ รธน.ปี 50 เป็นต้นเหตุ ได้ทีอาศัยความเห็นแย้งพรรคร่วมแก้ รธน.ไม่ใช่ปัญหา อิดออด รมว.สธ.ยังไม่ต้องรีบร้อนโชว์สปิริต ชี้ถือเป็นเรื่องใหม่

วันนี้ (9 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติให้นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข ต้องพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากกระทำการขัดรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 269 ที่ไม่ได้แจ้งกรณีภรรยาถือหุ้นเกิน 5% ภายในเวลาที่กำหนดว่า ส่วนของพรรคพลังประชาชนเองยังไม่ได้มีการหารือกันในเรื่องนี้ เพราะเพิ่งจะทราบมติ ป.ป.ช.เมื่อวานนี้ (8 เม.ย.) ซึ่งต่อไปก็คงได้มีการหารือกันใน 1-2 วันนี้ ซึ่งในส่วนของ ป.ป.ช.ก็ต้องส่งเรื่องให้ 4 องค์กรเพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญ ระหว่างนี้ก็ต้องศึกษากระบวนการขั้นต่อไปว่าจะทำอย่างไร เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ที่ยังไม่เคยเกิดมาก่อนเพราะเป็นกติกาที่เกิดขึ้นในรัฐธรรมนูญปี 2550

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายไชยาควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกเลยหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายไชยา ก็ขอให้ตนได้คุยก่อนว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร มีเจตนาอย่างไรหรือไม่ หรือดูในข้อกฎหมายเนื่องจากเป็นกฎหมายใหม่จึงยังไม่ทันได้ทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ เมื่อถามว่าเหมาะสมหรือไม่ที่จะรอต่อสู้จนถึงขั้นศาลรัฐธรรมนูญ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า อย่างที่ตนบอกว่าเป็นเรื่องใหม่ขอให้มีการหารือกันก่อน

เมื่อถามกรณีที่แพทย์ชนบทออกมาจี้ให้แสดงความรับผิดชอบ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ก็เป็นเสียงสะท้อนส่วนหนึ่ง ก็ต้องรับฟัง เมื่อถามว่าจะส่งผลถึงวิกฤตศรัทธาตัว รมต.และรัฐบาลหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า กรณีนี้เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งแตกต่างจากกรณี รมต.ในรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี แต่กรณีนี้เกี่ยวข้องคู่สมรส ที่อาจจะเป็นเรื่องยังรับทราบกันยังไม่ทั่วถึงจึงมาพิจารณาร่วมกันก่อน แต่ทุกเสียงสะท้อนเป็นเรื่องที่เราต้องรับฟัง

ผู้สื่อข่าวถามถึงการแก้รัฐธรรมนูญที่พรรคร่วมรัฐบาล เช่นพรรคเพื่อแผ่นดินยังติดเงื่อนไขว่าต้องตั้งกรรมาธิการศึกษาตั้งแต่เริ่มต้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเราต้องไปทีละขั้น วันนี้เราเริ่มต้นตรงที่ว่ารัฐธรรมนูญปี 50 มีหลายมาตราที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ขณะนี้หลักการเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นคนจำนวนมากเห็นด้วยว่าควรมีการแก้ไข แต่เรื่องวิธีการก็เป็นเรื่องที่ต้องคุยกันต่อไปว่าจะทำอย่างไรให้มีการมีส่วนร่วมมากขึ้นจากทุกภาคส่วน

เมื่อถามว่า ในส่วนแกนนำพรรคร่วมได้มีการหารือกันบ้างหรือยัง นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ส่วนนี้ตนจะให้วิปรัฐบาลที่ได้มีการประสานกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลเข้ามาทำงานร่วมกัน เมื่อถามต่อว่าพรรคชาติไทยก็แสดงความเห็นว่าไม่ควรแตะมาตรา 309 ตรงนี้จะเป็นเงื่อนไขให้การแก้รัฐธรรมนูญไม่สำเร็จหรือไม่ นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ไม่หรอก เพราะก็มีความเห็นออกมาในหลายมาตรา ก็เป็นเรื่องที่เราจะไปคุยกันต่อในกระบวนการว่าเสียงส่วนใหญ่เห็นว่าควรแก้มาตรานั้นๆ อย่างไร ก็จะได้ทำไปตามนั้น

ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ระบุว่า พรรคร่วมรัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนในการแก้รัฐธรรมนูญ ทำให้ต่างชาติไม่มั่นใจสถานการณ์การเมืองของไทย นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ในทางตรงกันข้าม คือการที่เรามีทิศทางที่แน่นอนว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ตรงนี้เป็นสิ่งที่ต่างชาติจะเกิดความมั่นใจว่าเราได้พัฒนาเรื่องประชาธิปไตยให้รุดหน้าต่อไป วันนี้ทุกคนเห็นพ้องว่าควรแก้ ไม่เห็นมีใครบอกว่าไม่ควรแก้รัฐธรรมนูญเลย เพียงแต่ว่าจะแก้อย่างไรเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น