นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่า พรรคมีความเห็นต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญแตกต่างกัน 2 แนวทาง คือ 1. แก้เฉพาะบางมาตราซึ่งเบื้องต้นจะแก้ไขประมาณ 7 ประเด็น และ 2. แก้ไขทั้งฉบับ โดยส่วนตัวเห็นด้วยกับแนวทางของ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ และ รมว.คลัง ที่สนับสนุนให้แก้ไขทั้งฉบับ เพราะแม้การแก้ไขเพียงบางมาตราจะทำได้รวดเร็วแต่เป็นจุดอ่อนทางการเมือง เพราะไม่สามารถสลัดคำว่าประโยชน์ส่วนตัวออกไปได้ สิ่งที่ นพ.สุรพงษ์กล่าวนั้นถูกต้อง หากพรรคไม่ข้ามพ้นความกลัวของการยุบพรรคจะสู้อย่างไรก็แพ้ แม้ว่าพรรคจะมีความชอบธรรมในการแก้ไข เนื่องจากไม่ได้รับความยุติธรรม
นายจตุพร กล่าวอีกว่า เราต้องยืนยันการไม่ยอมรับร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ด้วยการแก้ไขทั้งฉบับ เพราะการแก้รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตยจะได้แรงสนับสนุนจากประชาชน จะเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กเป็นเกราะกำบังให้ เมื่อมีประชาชนโอบล้อมไม่มีวันแพ้ แต่การแก้ไขบางมาตราเท่ากับสลัดกำแพงนั้นออก ทั้งนี้ หลังจากการประชุมของคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลหรือวิปรัฐบาลในวันที่ 4 เม.ย. จะต้องส่งเรื่องกลับเข้าที่ประชุมพรรคอีกครั้งเพื่อลงมติ แต่ขณะนี้พรรคยังไม่มีมติใดๆ
นายจตุพร กล่าวอีกว่า เราต้องยืนยันการไม่ยอมรับร่างรัฐธรรมนูญ 2550 ด้วยการแก้ไขทั้งฉบับ เพราะการแก้รัฐธรรมนูญที่ไม่เป็นประชาธิปไตยจะได้แรงสนับสนุนจากประชาชน จะเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กเป็นเกราะกำบังให้ เมื่อมีประชาชนโอบล้อมไม่มีวันแพ้ แต่การแก้ไขบางมาตราเท่ากับสลัดกำแพงนั้นออก ทั้งนี้ หลังจากการประชุมของคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาลหรือวิปรัฐบาลในวันที่ 4 เม.ย. จะต้องส่งเรื่องกลับเข้าที่ประชุมพรรคอีกครั้งเพื่อลงมติ แต่ขณะนี้พรรคยังไม่มีมติใดๆ
