นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล โดยเชื่อว่าเป้าหมายอยู่ที่การแก้มาตรา 237 เรื่องการยุบพรรค เนื่องจากมีกรรมการบริหารพรรคอาจจะทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง จึงมีความพยายามที่จะแก้ปัญหาในมาตราดังกล่าว เพื่อไม่ให้มีผลต่อการยุบพรรค ซึ่งเรื่องนี้พรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วย เพราะการแก้รัฐธรรมนูญต้องแก้เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ไม่ใช่เพื่อตนเอง หรือมีผลย้อนหลังเพื่อช่วยคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
ส่วนการแก้มาตรา 309 เกี่ยวกับเรื่องประกาศและคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) นายจุรินทร์ เห็นว่ามีเป้าหมายครอบคลุมคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่อยู่ในคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ซึ่งการตัดประเด็นที่ระบุว่า “ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ” อาจมีการตีความเข้าข้างว่า การดำเนินคดีของ คตส.อาจไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ 2550 อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตราอื่นๆ ด้วย เพื่อเป็นตัวพ่วงให้เห็นว่ามีการแก้ไขที่ครอบคลุมเท่านั้น
นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า การแก้รัฐธรรมนูญต้องแก้เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ไม่ใช่แก้เพื่อตนเอง หรือมีผลย้อนหลังเพื่อช่วยทำผิดให้เป็นถูก หรือช่วยบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีพูดชัดว่า จะแก้รัฐธรรมนูญในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของวาระรัฐบาล แต่ตอนนี้มาเร่งแก้ หลังมีกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรถูกให้ใบแดง ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าพรรคพลังประชาชนจะถูกยุบ สะท้อนเจตนาชัดเจนว่า แก้รัฐธรรมนูญเพื่อแก้ปัญหายุบพรรค
ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะมีการประชุมคณะทำงานเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ที่มีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือในประเด็นดังกล่าว
ส่วนการแก้มาตรา 309 เกี่ยวกับเรื่องประกาศและคำสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (คปค.) นายจุรินทร์ เห็นว่ามีเป้าหมายครอบคลุมคดีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ที่อยู่ในคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ซึ่งการตัดประเด็นที่ระบุว่า “ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ” อาจมีการตีความเข้าข้างว่า การดำเนินคดีของ คตส.อาจไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ 2550 อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตราอื่นๆ ด้วย เพื่อเป็นตัวพ่วงให้เห็นว่ามีการแก้ไขที่ครอบคลุมเท่านั้น
นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า การแก้รัฐธรรมนูญต้องแก้เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ไม่ใช่แก้เพื่อตนเอง หรือมีผลย้อนหลังเพื่อช่วยทำผิดให้เป็นถูก หรือช่วยบุคคลกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีพูดชัดว่า จะแก้รัฐธรรมนูญในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของวาระรัฐบาล แต่ตอนนี้มาเร่งแก้ หลังมีกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรถูกให้ใบแดง ซึ่งหลายฝ่ายคาดว่าพรรคพลังประชาชนจะถูกยุบ สะท้อนเจตนาชัดเจนว่า แก้รัฐธรรมนูญเพื่อแก้ปัญหายุบพรรค
ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะมีการประชุมคณะทำงานเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ที่มีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือในประเด็นดังกล่าว