“สมชัย” ชี้ช่องหากรัฐบาลปรับแก้ รธน.มาตรา 309 แม้จะไม่กระทบต่อการทำหน้าที่ขององค์กร กกต.แต่หากแก้ ม.237 กกต.ต้องยุติสอบยุบพรรค มฌ.-ชท.ทันที พร้อมเป็นห่วง คตส.อาจกระทบ เพราะไม่มี กม.ให้ความคุ้มครอง
วันนี้ (1 เม.ย.) นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ฝ่ายสืบสวนสอบและวินิจฉัย กล่าวกรณีพรรคร่วมรัฐบาล มีมติยกเลิกรัฐธรรมนูญ ม.309 ว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อองค์กรอิสระอย่าง กกต.ที่แต่งตั้งขึ้นในสมัย คมช.ด้วยเช่นกัน และยืนยันว่า จะไม่ส่งผลกระทบต่อสำนวนผลการสอบสวนของ กกต.ที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล และพรรคพลังประชาชน ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ กกต.ขณะนี้ ทั้งเรื่องการให้ใบเหลืองใบแดง ส.ส., การมีมติห้ามอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยทั้ง 111 คน เคลื่อนไหว, การยุบพรรคชาติไทย, มัชฌิมาธิปไตย และอนาคตอาจส่งผลถึงการยุบพรรคพลังประชาชน หากศาลฎีกาชี้ขาดว่า นายยงยุทธ ติยะไพรัช ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง, เรื่องนอมีนี
“กกต.จะไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากมีกฎหมายรองรับ และทำหน้าที่ต่อไปได้ยังสามารถตรวจสอบสำนวนต่างๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบขณะนี้ได้ ไม่กระทบ กกต.แต่ในรัฐธรรมนูญไม่มีตรงไหนเขียนถึง คตส.ซึ่งน่าเป็นห่วงว่าจะได้รับผลกระทบ เพราะเป็นหน่วยงานลอยที่ไม่มีกฎหมายให้ความคุ้มครอง”
อย่างไรก็ตาม นายสมชัย ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นถึงการปรับแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 237 ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องยุบพรรคการเมือง ว่า ต่อไปไม่ต้องยุบพรรคหากกรรมการบริหารพรรคทำผิด โดยกล่าวเพียงว่า กกต.มีหน้าที่ปฏิบัติตามกฎหมายเลือกตั้งเท่านั้น แต่หากมีการปรับแก้รัฐธรรมนูญ และออกเป็นกฎหมายบังคับใช้แล้ว โดยมีเนื้อหาในการปรับแก้ชัดเจนว่าพรรคการเมืองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการกระทำของกรรมการบริหารพรรคก็จะส่งผลให้ กกต.ต้องยุติการสอบสวนเรื่องยุบพรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย ในขณะนี้ทันที ไม่ว่าจะมีผลบังคับใช้ทันที หรือย้อนหลัง แต่ทั้งหมดนี้จะต้องรอดูเนื้อหาการปรับแก้มาตรานี้ก่อน
