“พลังแม้ว” เล่นบทคนขี้สงสาร อ้างเห็นใจ ชท.-มัชฌิมาฯ หลังที่ปรึกษากฎหมาย กกต.มีมติ 6-1 ให้เสนอยุบพรรค ส่วน พปช.คงไม่พ้นชะตากรรมเดียวกัน ฟูมฟาย ถ้าเป็นอย่างนี้ทุกพรรค ประเทศชาติถึงทางตัน
วานนี้ (26 มี.ค.) ร.ท.กุเทพ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลังประชาชน ให้สัมภาษณ์ภายหลังที่ปรึกษากฎหมาย กกต.มีมติ 6:1 ตามที่ กกต.สอบถามความเห็นกรณีพรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.มาตรา 103 วรรค 2 และรัฐธรรมนูญมาตรา 237 และเห็นสมควรให้ กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรค เนื่องจากการกระทำของกรรมการบริหารให้มีผลถึงพรรคด้วย ว่า เมื่อมีมติดังกล่าวออกมาทางพรรครู้สึกเห็นใจพรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย แต่ขณะเดียวกัน ก็รู้สึกเห็นใจ กกต.ด้วย เพราะก่อนหน้านี้ กกต.ก็บอกว่า ก็ไม่รู้ทำอย่างไร เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 237 รัดคอเอาไว้ ก็เลยต้องตัดสินออกมาอย่างนี้
“ในส่วนของพรรคพลังประชาชน ก็คงเป็นเรื่องที่เลี่ยงยาก แต่ก็มีคำถามตามมาว่าสังคมจะไปยังไง เมื่อเป็นอย่างนี้ทุกพรรค ต่อไปการเมืองประเทศชาติจะเป็นอย่างไร มันเป็นความสะใจหรืออย่างไรที่ได้กำจัดคนส่วนมากออกจากทุกพรรคการเมืองและประเทศชาติจะเป็นอย่างไร” ร.ท.กุเทพ กล่าว
สำหรับกรณีของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน ที่เกรงว่า อาจใช้เป็นกรณีเทียบเคียงกับทั้ง 2 พรรค ร.ท.กุเทพ กล่าวว่า ถือว่ากระบวนการในชั้นอนุกรรมการ และ กกต.ยังไม่ถือว่าสิ้นสุด เพราะยังต้องส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งพิจารณา เมื่อถึงตรงนั้นก็ต้องไปต่อสู้กันอีกครั้ง ทั้งนี้ พรรคยังเชื่อมั่นในความเป็นธรรม และดุลพินิจของศาลฎีกา ซึ่งท่านอาจให้ความเป็นธรรมกับเรา อย่างไรก็ดี สิ่งที่เราจะทำได้ตอนนี้คือเร่งแก้รัฐธรรมนูญให้ทันตามระยะเวลาที่ประกาศไปเท่านั้น