ศาลแพ่งยกฟ้องคดี “สมัคร” เรียกค่าเสียหาย 1.9 พันล้านบาท “นาม-ประเสริฐ”ให้สัมภาษณ์ละเมิดโจทก์คดีรถดับเพลิงฉาว ระบุจำเลยปฎิบัติหน้าที่ในฐานะ คตส.ไมได้สังกัดหน่วยงานรัฐ พร้อมให้โจทก์จ่ายค่าทนายแทนจำเลยรวม 6 หมื่นบาท ด้านองค์คณะผู้พิพากษาคดีทุจริตหวยบนดิน เลือก “รุ่งโรจน์ รื่นเริงวงศ์” เป็นเจ้าของสำนวน นัดฟังคำสั่งรับ-ไม่รับคดี 14 พ.ค.
นายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา ศาลแพ่งได้พิจารณายกคำฟ้องกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช ในฐานะโจทก์ ฟ้องตน เป็นจำเลยที่ 1 และนายประเสริฐ บุญศรี ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบ คดีการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง เป็นจำเลยที่ 2 ฐานละเมิด โดยอ้างว่า ตนและนายประเสริฐ ให้สัมภาษณ์ว่าพบหลักฐานสำคัญว่านายสมัคร ซื้อสินค้าแพงกว่าความเป็นจริงถึง 1.9 พันล้าน ทำให้สาธารณชนเข้าใจนายสมัคร ผิดว่าเป็นการกระทำโดยทุจริต ฉ้อราษฎร์บังหลวง แสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และขาดความเชื่อถือศรัทธาในตัวโจทก์ ทั้งที่จำเลยทั้งสองทราบดีว่านายสมัคร ไม่มีพฤติการดังกล่าวแต่อย่างใด โดยนายสมัครได้เรียกค่าเสียหายจากตนและนายประเสริฐ คนละ 164 ล้านบาท
นายนาม กล่าวว่า พร้อมกันนี้ศาลยังสั่งให้นายสมัคร จ่ายค่าทนายให้กับตน 5 หมื่นบาท และนายประเสริฐ 1 หมื่นบาทด้วย โดยศาลพิเคราะห์ว่าตน และนายประเสริฐ ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นกรรมการคตส.ตามประกาศคปค.ฉบับที่ 30 ซึ่งมีฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ตามบัญญัติไว้ในพ.ร.บ.ความผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 มาตรา 4 (1) ซึ่งไม่ได้สังกัดหน่วยงานของรัฐ ดังนั้นนายสมัคร จึงไม่มีอำนาจฟ้องตน ให้รับผิดกับนายสมัครเป็นการส่วนตัว
นายนาม กล่าวถึงความคืบหน้าในการไต่สวนคดีรถดับเพลิงว่า ล่าสุดนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม. ได้ส่งหนังสือแจ้งมาว่าไม่ติดใจคัดค้านรายชื่อคณะอนุกรรมการไต่สวน ดังนั้นภายในสัปดาห์นี้คณะอนุกรรมการฯ จะทำหนังสือแจ้ง ข้อกล่าวหาให้นายอภิรักษ์ รับทราบ และจะนัดให้เข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อไป
ประธาน คตส. กล่าวด้วยว่า สำหรับการสืบพยานที่นายสมัคร สุนทรเวช หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาอ้างถึงนั้น ขณะนี้คณะอนุกรรมการไต่สวนฯได้สอบพยาน เกือบหมดแล้ว เหลือเพียง 2 ปาก คืออดีตเอกอัครราชทูตออสเตรีย และอดีตทูตพาณิชย์ออสเตรีย ซึ่งพยานทั้งสองปากดังกล่าวตรงกับพยานที่นายโภคิน พลกุล อดีตรมว.มหาดไทย หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาคดีดังกล่าวอ้างถึงด้วย โดยนายโภคิน ระบุมาด้วยว่าจะขอนำพยานทั้งสองปากเข้าให้ปากคำกับคตส.ด้วยตัวเอง
นายรักเกียรติ วัฒนพงษ์ เลขานุการแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่ง ทางการเมืองในศาลฎีกา เปิดเผยว่า วานนี้ (25มี.ค.) มีการประชุมภายใน ขององค์คณะผู้พิพากษา คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 และ 3 ตัว ( หวยบนดิน ) หมายเลขดำที่ 1/ / 2551 ที่ค คตส. ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี , คณะรัฐมนตรี ( ครม.) และผู้บริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล รวม 47 คน เพื่อเลือกผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน ทั้งนี้ที่ประชุมผู้พิพากษาทั้ง 9 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ นายรุ่งโรจน์ รองประธานศาลฎีกา เป็นเจ้าของสำนวน
นายรักเกียรติ กล่าวว่า หลังจากนี้ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน จะได้พิจารณา คำฟ้องเพื่อมีคำสั่งต่อไป ว่าจะประทับรับฟ้องหรือไม่ ซึ่งศาลฎีกาฯ นัดคู่ความฟังคำสั่งในวันที่ 14 พ.ค.นี้ เวลา 10.00 น.
ส่วนข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำเนินคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาณของผู้ดำรง ตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2543 ข้อ 4 ให้สิทธิ์คู่ความสามารถยื่นคำร้องคัดค้านรายชื่อผู้พิพากษา ที่เป็นอ งค์คณะได้นั้น นับตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. ซึ่งที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ได้เลือกองค์คระผู้พิพากษา จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีปรากฏว่ามีคู่ความรายใดยื่นคำร้องคัดค้านองค์คณะพิพากษาคนใด
ด้าน นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่าจากกระแสข่าวที่ว่า คู่ความคดีหวยบนดิน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ถูก คตส. ฟ้อง จะยื่นหนังสือต่อนายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาให้อัยการ เป็นผู้ว่าความแก้ต่างคดีให้นั้น จนถึงขณะนี้สำนักงานอัยการสูงสุด ยังไม่เคยได้รับหนังสือจากคู่ความรายใด และเนื่องจากคดีหวยบนดิน ศาลฎีกาฯ ยังไม่ได้มีคำสั่งว่าจะรับฟ้องหรือไม่ โดยจะนัดฟังคำสั่งในวันที่ 14 พ.ค. จึงเชื่อว่าเวลานี้คู่ความจะรอฟังคำสั่งศาลก่อน และหากศาลมีคำสั่งรับฟ้อง จึงอาจจะมีคู่ความยื่นหนังสือเข้ามา ซึ่งอัยการจะรับเป็นผู้ว่าความแก้ต่างคดีให้หรือไม่ อัยการสูงสุดจะต้องพิจารณาหนังสือที่ร้องขอเข้ามาอย่างรอบคอบอีกครั้ง ว่าเป็นความ เหมาะสม และสมควรหรือไม่ที่อัยการจะไปแก้ต่างใน คดีที่มี คตส. เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องเจ้าหน้ารัฐ ทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
นายนาม ยิ้มแย้ม ประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา ศาลแพ่งได้พิจารณายกคำฟ้องกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช ในฐานะโจทก์ ฟ้องตน เป็นจำเลยที่ 1 และนายประเสริฐ บุญศรี ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบ คดีการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง เป็นจำเลยที่ 2 ฐานละเมิด โดยอ้างว่า ตนและนายประเสริฐ ให้สัมภาษณ์ว่าพบหลักฐานสำคัญว่านายสมัคร ซื้อสินค้าแพงกว่าความเป็นจริงถึง 1.9 พันล้าน ทำให้สาธารณชนเข้าใจนายสมัคร ผิดว่าเป็นการกระทำโดยทุจริต ฉ้อราษฎร์บังหลวง แสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และขาดความเชื่อถือศรัทธาในตัวโจทก์ ทั้งที่จำเลยทั้งสองทราบดีว่านายสมัคร ไม่มีพฤติการดังกล่าวแต่อย่างใด โดยนายสมัครได้เรียกค่าเสียหายจากตนและนายประเสริฐ คนละ 164 ล้านบาท
นายนาม กล่าวว่า พร้อมกันนี้ศาลยังสั่งให้นายสมัคร จ่ายค่าทนายให้กับตน 5 หมื่นบาท และนายประเสริฐ 1 หมื่นบาทด้วย โดยศาลพิเคราะห์ว่าตน และนายประเสริฐ ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเป็นกรรมการคตส.ตามประกาศคปค.ฉบับที่ 30 ซึ่งมีฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ตามบัญญัติไว้ในพ.ร.บ.ความผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 มาตรา 4 (1) ซึ่งไม่ได้สังกัดหน่วยงานของรัฐ ดังนั้นนายสมัคร จึงไม่มีอำนาจฟ้องตน ให้รับผิดกับนายสมัครเป็นการส่วนตัว
นายนาม กล่าวถึงความคืบหน้าในการไต่สวนคดีรถดับเพลิงว่า ล่าสุดนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯกทม. ได้ส่งหนังสือแจ้งมาว่าไม่ติดใจคัดค้านรายชื่อคณะอนุกรรมการไต่สวน ดังนั้นภายในสัปดาห์นี้คณะอนุกรรมการฯ จะทำหนังสือแจ้ง ข้อกล่าวหาให้นายอภิรักษ์ รับทราบ และจะนัดให้เข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อไป
ประธาน คตส. กล่าวด้วยว่า สำหรับการสืบพยานที่นายสมัคร สุนทรเวช หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาอ้างถึงนั้น ขณะนี้คณะอนุกรรมการไต่สวนฯได้สอบพยาน เกือบหมดแล้ว เหลือเพียง 2 ปาก คืออดีตเอกอัครราชทูตออสเตรีย และอดีตทูตพาณิชย์ออสเตรีย ซึ่งพยานทั้งสองปากดังกล่าวตรงกับพยานที่นายโภคิน พลกุล อดีตรมว.มหาดไทย หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาคดีดังกล่าวอ้างถึงด้วย โดยนายโภคิน ระบุมาด้วยว่าจะขอนำพยานทั้งสองปากเข้าให้ปากคำกับคตส.ด้วยตัวเอง
นายรักเกียรติ วัฒนพงษ์ เลขานุการแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่ง ทางการเมืองในศาลฎีกา เปิดเผยว่า วานนี้ (25มี.ค.) มีการประชุมภายใน ขององค์คณะผู้พิพากษา คดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 และ 3 ตัว ( หวยบนดิน ) หมายเลขดำที่ 1/ / 2551 ที่ค คตส. ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี , คณะรัฐมนตรี ( ครม.) และผู้บริหารสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล รวม 47 คน เพื่อเลือกผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน ทั้งนี้ที่ประชุมผู้พิพากษาทั้ง 9 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ นายรุ่งโรจน์ รองประธานศาลฎีกา เป็นเจ้าของสำนวน
นายรักเกียรติ กล่าวว่า หลังจากนี้ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน จะได้พิจารณา คำฟ้องเพื่อมีคำสั่งต่อไป ว่าจะประทับรับฟ้องหรือไม่ ซึ่งศาลฎีกาฯ นัดคู่ความฟังคำสั่งในวันที่ 14 พ.ค.นี้ เวลา 10.00 น.
ส่วนข้อกำหนดเกี่ยวกับการดำเนินคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาณของผู้ดำรง ตำแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2543 ข้อ 4 ให้สิทธิ์คู่ความสามารถยื่นคำร้องคัดค้านรายชื่อผู้พิพากษา ที่เป็นอ งค์คณะได้นั้น นับตั้งแต่วันที่ 13 มี.ค. ซึ่งที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ได้เลือกองค์คระผู้พิพากษา จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีปรากฏว่ามีคู่ความรายใดยื่นคำร้องคัดค้านองค์คณะพิพากษาคนใด
ด้าน นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่าจากกระแสข่าวที่ว่า คู่ความคดีหวยบนดิน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ถูก คตส. ฟ้อง จะยื่นหนังสือต่อนายชัยเกษม นิติสิริ อัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาให้อัยการ เป็นผู้ว่าความแก้ต่างคดีให้นั้น จนถึงขณะนี้สำนักงานอัยการสูงสุด ยังไม่เคยได้รับหนังสือจากคู่ความรายใด และเนื่องจากคดีหวยบนดิน ศาลฎีกาฯ ยังไม่ได้มีคำสั่งว่าจะรับฟ้องหรือไม่ โดยจะนัดฟังคำสั่งในวันที่ 14 พ.ค. จึงเชื่อว่าเวลานี้คู่ความจะรอฟังคำสั่งศาลก่อน และหากศาลมีคำสั่งรับฟ้อง จึงอาจจะมีคู่ความยื่นหนังสือเข้ามา ซึ่งอัยการจะรับเป็นผู้ว่าความแก้ต่างคดีให้หรือไม่ อัยการสูงสุดจะต้องพิจารณาหนังสือที่ร้องขอเข้ามาอย่างรอบคอบอีกครั้ง ว่าเป็นความ เหมาะสม และสมควรหรือไม่ที่อัยการจะไปแก้ต่างใน คดีที่มี คตส. เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องเจ้าหน้ารัฐ ทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ