xs
xsm
sm
md
lg

“ข้าวขาว-ข้าวนึ่ง” จ่อขึ้นอีก ขู่ฟันเจ้าของโก่งค่าเช่าที่นา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้ประกอบการชี้ราคาข้าวถุงในระยะสั้นจะชะลอตัว ไม่ปรับขึ้นราคารุนแรง ส่งสัญญาณเตือนราคาข้าวขาวและข้าวนึ่งมีแนวโน้มขยับขึ้นอีก จี้รัฐทุ่มงบ 2 แสนล้านทำระบบชลประทานสมบูรณ์แบบ ขณะที่ครม.ไฟเขียว ยุทธศาสตร์ 12 ปีดันไทยเป็นฐานรองรับอาหารโลกและพลังงานแพงเป็นวาระแห่งชาติ ปัดฝุ่นกฎหมายดัดหลังเจ้าของที่ดินเอาเปรียบลักไก่ขึ้นค่าเช่าที่ดินเกษตรกรรม

นายสุเมธ เหล่าโมราพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด กล่าวว่า สถานการณ์ราคาข้าวในประเทศน่าจะชะลอตัว เชื่อว่าไม่มีการปรับขึ้นราคารุนแรงในช่วง 15-30 วัน เนื่องจากทั้งกระทรวงพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือจากสมาคมโรงสี ผู้ประกอบการข้าวถุงและห้างโมเดิร์นเทรด ให้ช่วยประคับประคองไม่ให้ราคาข้าวสูงเกินจริง แต่เชื่อว่าแนวโน้มราคาข้าวยังสูงในครึ่งปีหลังนี้

โดยธุรกิจข้าวถุงที่ขายผ่านโมเดิร์นเทรดคิดเป็น 15-20% ของปริมาณข้าว แต่ส่วนใหญ่ถึง 80% โรงสีจะขายข้าวผ่านพ่อค้าคนกลาง (ยี่ปั้ว) ซึ่งก็ได้มีการปรับราคาขาย ส่วนปัญหาข้าวถุงที่จำหน่ายในห้างโมเดิร์นเทรดไม่เพียงพอต่อความต้องการ

ซี.พี.เองจะไม่ปรับขึ้นราคาข้าวถุงนับจากนี้ถึง พ.ค.51 จะยังไม่รับออร์เดอร์ใหม่ รวมทั้งจะไม่เข้าร่วมการประมูลข้าวในฟิลิปปินส์ล็อตใหม่ด้วย เพราะต้องการกันข้าวไว้จำหน่ายในประเทศมากกว่า โดยซี.พี.เองก็มีสต็อกข้าวในมือไม่มาก คิดเป็นไม่เกิน 1 เดือนของกำลังการผลิตรวม

ปัจจุบันต้นทุนราคาข้าวสารหอมมะลิที่ขายออกจากฤดูการเก็บนี้อยู่ที่กก.ละ 35-38 บาท ยังไม่มีค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงคุณภาพและบรรจุถุง ถ้าบรรจุถุง 5 กก.จะอยู่ที่ 175 บาทเป็นอย่างต่ำ เมื่อรวมค่าใช้จ่ายในการประกอบการแล้ว ทำให้ข้าวถุงหอมมะลิขายปลีกเฉลี่ยอยู่ที่ 190-195 บาท ส่วนข้าวขาวอยู่ถุงละ 170-180 บาท ในช่วง1-2 สัปดาห์นี้ ราคาข้าวหอมมะลิและข้าวปทุมธานีตลาดส่งออกเริ่มชะลอตัว เนื่องจากต่างประเทศรอดูสถานการณ์ตลาดอยู่ แต่ราคาข้าวขาว และราคาข้าวนึ่งกลับมีสัญญาณหลังจากการประมูลข้าวที่ฟิลิปปินส์ว่าน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยประเมินว่าราคาข้าวที่ฟิลิปปินส์จะประมูลซื้อล็อตใหม่อีก 5 แสนตันในเดือนพ.ค. อาจจะปรับขึ้นไปถึง1,300- 1,400 เหรียญสหรัฐ/ตัน สูงกว่าราคาที่เพิ่งประมูลในรอบนี้ที่เวียดนามเสนอขายในราคาสูงสุดที่ 1,200 เหรียญสหรัฐ/ตัน รวมทั้งการประมูลข้าวจากอิรักและบังคลาเทศ ทำให้แนวโน้มราคาข้าวน่าจะปรับตัวขึ้นอีก

ค้านคุมราคาข้าวทำขาดแคลนระยะยาว

ส่วนแนวคิดการคุมราคาข้าวเหมือนกับรัฐบาลจีนและเวียดนามที่รัฐบาลเข้ามาอุดหนุนเพื่อไม่ให้ประชาชนในประเทศเดือดร้อนนั้น ไม่เห็นด้วย ควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด เพราะนโยบายคุมราคาข้าวนี้เป็นการแก้ไขปัญหาระยะสั้น แต่จะเกิดการขาดแคลนในระยะยาว เนื่องจากเกษตรกรอาจเปลี่ยนการเพาะปลูกข้าวไปเป็นพืชเกษตรชนิดอื่นที่ได้ราคาดีกว่าการปลูกข้าว

"วันนี้การกักตุนแบบน่าเกลียดคงไม่มี แต่มีการสร้างสต็อกให้เพียงพอกับการขายทั้งผู้ส่งออกและโรงสี มีการปรับเปลี่ยนการทำธุรกิจโดยมีการไล่ซื้อข้าวเพื่อเก็บสต็อกให้เพียงพอที่จะขาย ส่งผลให้เกิดความต้องการข้าวดันให้ราคาในประเทศปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ส่วนราคาข้าวจะสูงยั่งยืนแค่ไหนคงไม่สามารถคาดการณ์ได้ ดังนั้นเกษตรกรไม่ควรประมาท"

ส่วนสต็อกข้าวของรัฐบาลอีก 2.1 ล้านตัน ควรเก็บไว้เพื่อเป็นความมั่นคงด้านอาหารในประเทศ เพราะความไม่ชัดเจนของการเพาะปลูกและการเก็บเกี่ยวยังมีอยู่ รวมทั้งยังมีผลทางจิตวิทยาที่ช่วยกดราคาข้าวในประเทศไม่ให้สูงไปมากกว่านี้

นายมนตรี คงตระกูลเทียน ประธานกลุ่มผู้บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วมกลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า จากวิกฤตราคาพืชการเกษตรที่เกิดขึ้นในโลก นับเป็นโอกาสที่ดีของไทย จำเป็นที่ภาครัฐต้องหันมาส่งเสริมและลงทุนระบบชลประทานอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งจะใช้เงินลงทุน 2 แสนล้านบาทในการนำน้ำจากแม่น้ำธรรมชาติในช่วงน้ำหลากมากักเก็บไว้ใช้ในการเพาะปลูก รวมทั้งมีการทบทวนการสร้างเขื่อนขึ้นมาใหม่

"ซีพี" ยอดขายทะลักคาดทั้งปีเพิ่มเท่าตัว

นายสุเมธ กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทฯเคยตั้งเป้าหมายที่จะขายข้าวให้ได้ 6.5 แสนตัน สูงกว่าปีที่แล้ว 40% จากปีที่แล้ว แต่ล่าสุดมีออร์เดอร์เข้ามากเกินกำลังการผลิต ทำให้ทั้งปีเชื่อว่าจะมียอดขายสูงถึง 9 แสนตัน แบ่งเป็นส่งออก 5 แสนกว่าตัน และ ขายในประเทศ 3 แสนตันส่งผลให้ยอดขายของซี.พี.อินเตอร์เทรดปีนี้ทะลุ 1 หมื่นล้านบาท และในกลางปีหน้า โรงงานปรับปรุงคุณภาพจะแล้วเสร็จทำให้ซี.พี.มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอีก 1 ล้านตัน จะทำให้รายได้ขยายตัวเพิ่มขึ้น

ในปีนี้สต็อกข้าวโลกมีอยู่เพียง 77 ล้านตันคิดเป็น 17%ของความต้องการบริโภคข้าวทั่วโลกที่มีสูงถึง 450 ล้านตัน ซึ่งเป็นอัตราสต็อกข้าวอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำมาก เมื่อหลายประเทศผู้ส่งออกมีปัญหาปริมาณการผลิตข้าวลดลง ทำให้คำสั่งซื้อไหลเข้าไทยมากขึ้น ทำให้ไทยส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนเฉลี่ยส่งออกเดือนละ 6-7 แสนตัน เป็นเดือนละ 1.1 ล้านตัน

ห้างโบ้ยผู้ผลิตไม่ส่งข้าว

นางสาวจริยา จิราธิวัฒน์ รองประธานฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้ความต้องการข้าวถุงของประชาชนยังสูงต่อเนื่องและเพิ่มขึ้น 10-25% ต่อวัน ซึ่งไม่สอดคล้องกับจำนวนข้าวถุงที่ผู้ผลิตจัดส่งให้ห้าง หรือได้จำนวนข้าวเพียง 50% จากที่ได้สั่งซื้อ 100% อีกทั้งจำนวนยี่ห้อที่จัดส่งมาให้ห้างจำหน่ายลดลงต่อเนื่องจากกว่า 20 ยี่ห้อในปี 2550 เหลือ 5-6 ยี่ห้อ

“เดิมการสั่งซื้อข้าวรอบหนึ่งใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ แต่ตอนนี้ต้องสั่งวันต่อวัน แต่มีการล็อคราคาขายไว้ทุก 2 สัปดาห์ที่จะไม่ปรับขึ้น ซึ่งยอมรับว่าผู้ผลิตได้ขอขึ้นราคามาแล้วประมาณ 10-30%”

การจำหน่ายข้าวถุงนั้นไม่ได้กำไร แต่เป็นสินค้าดึงลูกค้าเข้าห้างและซื้อสินค้าประเภทอื่นไปด้วย โดยทางห้างฯ ได้กำหนดให้ซื้อได้ไม่เกินคนละ 3 ถุง/ครั้ง และห้างฯ จะมีการข้าวจำหน่ายราคาต่ำกว่าหน้าถุง 2-12 บาทใน 2-3 ยี่ห้อ จนถึง 31 พ.ค.นี้ อาทิ ข้าวหอมมะลิ ป้ายข้างถุง (5 กก.) ราคา 200- 210 บาท ขายจริง 178-198 บาท ข้าวขาว 160-170 บาท เหลือ 152-168 บาท

แฉมีผู้ตุนข้าวในห้างไปขายต่อ

นายสมฤกษ์ พิรุฬห์ธรรม นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย กล่าวว่า ได้รับการยืนยันจากผู้ผลิตข้าวถุงว่า ยังผลิตป้อนห้างเหมือนปกติ ซึ่งความต้องการข้าวสูงกว่าปกติส่วนหนึ่งน่าจะเป็นการเวียนเทียนซื้อเพื่อนำไปขายต่อทำกำไร เพราะราคาในห้างกก.ละ 35 บาท แต่ซื้อนอกห้างราคา 40-45 บาท

“สมาคมฯ จะนำหนังสือขอให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาทบทวนการนำข้าว 1-2 แสนตันให้สหกรณ์ทั่วประเทศบรรจุถุงและจำหน่ายให้ประชาชน ซึ่งเป็นการลดความตึงตัวของความต้องการข้าว ประชาชนยังได้ราคาถูกตกกก.ละ 25 บาท ซึ่งไม่น่ากังวลเรื่องสต๊อกข้าวที่จะลดลง เพราะเป็น 10% ของข้าวที่เก็บไว้ แต่ช่วยลดความตึงตัวของความต้องการได้เป็นอย่างดีในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า จนกว่าข้าวใหม่ออกสู่ตลาดจริง”

ดันอาหารโลก-พลังงานแพง เป็นวาระแห่งชาติ

นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า ครม.เห็นชอบแผนยุทธศาสตร์ 12 ปี เพื่อรองรับวิกฤติอาหารและพลังงานโลกแพง ตามที่กระทรวงเกษตรฯเสนอ โดยกำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ พร้อมตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการเรื่องอาหารและพลังงาน (รองรับสถานการณ์วิกฤติอาหารและพลังงานโลก) เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ให้ชัดเจนโดยมีนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ เป็นประธาน ยังมีภาคเอกชนประกอบด้วย ผู้จัดการ ธกส. ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประธานสภาอุตสากรรมแห่งประเทศไทย ประธานชุมชนสหกรณ์การเกษตรและประเทศไทย ผู้จัดการ ปตท. จำกัด (มหาชน) ผู้จัดการ บริษัทบางจาก ปิโตเลียม เป็นกรรมการร่วม

อีกทั้งยังได้มอบหมายให้คณะกรรมการกฤษฎีกาไปหาแนวทางรองรับกรณีที่เจ้าของที่ดินที่เป็นพื้นที่การเกษตรได้แปรสภาพพื้นที่เกษตรเป็นรีสอร์ทหรือดำเนินการอื่น ๆ แทนการเกษตรเพราะได้ผลประโยชน์ที่ดีกว่า ว่าจะสามารถดำเนินการได้อย่างไรโดยไม่ผิดรัฐธรรมนูญในเรื่องการลิดรอนสิทธิของประชาชน เช่นอาจใช้กฎหมายผังเมืองเข้ามาบังคับใช้ เป็นต้น

นอกจากนี้ที่ประชุมยังมอบหมายให้ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.มหาดไทย ไปพิจารณาบังคับใช้กฎหมายเช่าที่ดินเพื่อการเกษตร 2524 อย่างจริงจัง หลังพบว่าเจ้าของที่ดินได้ฉวยโอกาสกรณีที่ราคาพืชผลเกษตรแพงขึ้น มาเรียกเก็บค่าเช่าที่ดินจากเกษตรกรผู้เช่าที่ดินเพิ่มขึ้น ซึ่งในกฎหมายเช่าที่ดินได้คุ้มครองสิทธิการเช่าของผู้เช่าอย่างเข้มงวดโดยกำหนดโทษสูงสุดคือจำคุก 1 ปี หรือปรับเป็นเงิน 50,000 – 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

จากพื้นที่การเกษตร 130 ล้านไร่ พบว่าในส่วนของภาคกลางมีเกษตรกรที่ต้องเช่าที่ดินทำกินมากถึง 62% ขณะที่ 45% ในภาคเหนือ ที่เช่าที่ดินทำกิน และ 10% เศษ ในภาคใต้และภาคอีสานที่เกษตรกร ต้องเช่าที่ดินทำกินเช่นกัน ซึ่งเกรงว่าเกษตรกรจะได้รับผลกระทบตามมาอีก

ปิ๊งเกษตรกรเช่าที่ราชพัสดุ แค่ 20 บาท

สำหรับยุทธศาสตร์ 12 ปี เพื่อรองรับวิกฤติอาหารและพลังงานโลกแพงนั้นได้กำหนดเป็น 3 ระยะ คือระยะสั้น 2 ปีแรกจะเป็นการกำหนดโครงสร้าง และพื้นที่ในการปลูกพืชเกษตรแต่ละชนิดให้ชัดเจน ส่วนระยะกลาง 5 ปี จะเน้นในเรื่องของการเพิ่มผลผลิต และระยะยาว 12 ปี ที่จะเห็นระยะการทำงานที่แท้จริง โดยคาดว่าทั้งหมดจะใช้เงินในการดำเนินงานประมาณ 10,000 ล้านบาท

ในแผนยุทธศาสตร์เบื้องต้นจะมีพื้นที่ปลูกพืชพลังงานทดแทนประมาณ 20 ไร่ ส่วนพื้นที่ปลูกข้าวนั้นเชื่อว่าในฤดูกาลผลิตหน้าจะมีพื้นที่ปลูกข้าวเพิ่มขึ้นเป็น 60 ล้านไร่ จากปัจจุบันที่ปลูกอยู่ในพื้นที่ 57 ล้านไร่ และมีผลผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 30 ล้านตันข้าวเปลือก และยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าเกษตรกรจะหันมาปลูกข้าวในพื้นที่นาร้างที่มีอยู่ 7-8 แสนไร่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนเท่าใด”

ในที่ประชุม ร.ต.(หญิง) ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมช.คลัง ระบุว่า ทางกรมธนารักษ์มีพื้นที่ราชพัสดุพร้อมที่จะให้เกษตรกรเช่าทำกินโดยคิดค่าเช่าที่ถูกมากเพียงปีละ 20 บาท ซึ่งจะให้กรมธนารักษ์ไปสำรวจและจัดทำรายละเอียดเพื่อรองรับให้ชัดเจนต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น