xs
xsm
sm
md
lg

ข้าวถุงราคาพุ่ง-ขาดตลาด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทุกข์ซ้ำเติมครัวเรือนไทย ข้าวหอมมะลิถุง 5 กก.ราคาพุ่งเป็น 210 บาท แถมห้างยังจำกัดการซื้อ ขนาดข้าวถุงพาณิชย์ยี่ห้อ อคส. ยังจ่อขึ้นตาม ผู้ผลิตตีแสกหน้า “มิ่งขวัญ” อย่าโชว์แต่ข่าวดีต่อหน้าสื่อ เผยห้างยังไม่ลดค่ากำไรหลังร้าน ทำให้ปรับลดราคาข้าวถุงไม่ได้จนกระทั่งวันนี้ บางยี่ห้อจ่อทะลุถุงละ 200 บาท ส่วนห้างค้าปลีกยันข้าวถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับพ่อค้าคนกลาง ด้านประธานหอฯ มหาสารคามจวกรัฐบาลห่วงแต่แก้รัฐธรรมนูญ

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ แจ้งว่า ขณะนี้สถานการณ์จำหน่ายข้าวบรรจุถุงอยู่ในภาวะที่ไม่ปกติ เนื่องจากพบว่า ยังมีจำหน่ายไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยเฉพาะห้างค้าปลีกรายใหญ่ที่ผิดปกติไม่มีข้าวถุงวางจำหน่ายให้ประชาชน ปล่อยให้จุดขายข้าวถุงเป็นพื้นที่โล่งกว้าง ซึ่งเมื่อสอบถามพนักงานได้คำตอบว่า ผู้ประกอบการข้าวถุงหลายรายชะลอส่ง หรือบางรายที่ส่งให้ แต่ลดลง ทำให้ไม่มีข้าวขายเพียงพอ โดยข้าวถุงที่วางจำหน่ายส่วนใหญ่เป็นข้าวเหนียว ส่วนข้าวหอมมะลิ และข้าวขาว เหลือให้เลือกเพียง 1-2 ยี่ห้อเท่านั้น แต่มีราคาปรับขึ้นมากจากช่วงสงกรานต์ โดยข้าวหอมมะลิบรรจุถุง 5 กิโลกรัมจาก 145-150 บาท ขึ้นเป็น 210 บาท ส่วนข้าวขาวขึ้นจาก 110-120 เป็น 160 บาท

นอกจากนี้ ยังพบว่าห้างค้าปลีกทุกแห่งห้ามให้ลูกค้าซื้อข้าวถุงเกินกำหนด เช่น เทสโก้ โลตัส ให้เพียง 3 ถุงต่อคน ลดจากเดิมที่ให้ 6 ถุง โดยให้เหตุผลว่าต้องการกระจายข้าวถุงให้ถึงมือลูกค้ามากที่สุด ขณะเดียวยังพบว่าข้าวถุงบางยี่ห้อไม่มีการติดป้ายราคาที่หน้าถุง หรือบางรายนำป้ายกระดาษไปติดทับป้ายราคาเดิม ซึ่งราคาเก่ากับราคาใหม่ต่างกันถึง 40-50 บาทต่อถุง

อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่ข้าวถุงที่ขาดแคลน ยังพบว่าในห้างค้าปลีกไม่มีน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวดวางจำหน่ายในหลายที่ โดยเฉพาะห้างเทสโก้ โลตัส หลายสาขาไม่มีจำหน่าย เหลือแต่น้ำมันปาล์ม น้ำมันสกัดเมล็ดทานตะวัน และรำข้าวเท่านั้น โดยพนักงานห้างชี้แจงว่า ผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองไม่ส่งสินค้าเข้ามา เพราะมีต้นทุนการผลิตสูง

ขณะที่ข้าวบรรจุถุงของกระทรวงพาณิชย์ ที่ผลิตโดยองค์การคลังสินค้า (อคส.) โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิบรรจุถุงละ 5 กก. ก็มีการขาดแคลนเช่นเดียวกัน มีการจำกัดโควตาการซื้อให้เพียงคนละ 3 ถุง และจะมีการปรับราคาขึ้นจาก 150 บาท เป็น 160 บาทในสัปดาห์นี้ เป็นการปรับขึ้นราคาครั้งที่ 2 ในรอบ 2 เดือน ที่ก่อนหน้านี้ราคา 135 บาท

ก่อนหน้านี้ เมื่อ 8 เม.ย. ที่ผ่านมา นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ได้เรียกสมาคมโรงสีข้าวไทย สมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย และห้างค้าปลีกรายใหญ่ อาทิ เทสโก้ โลตัส คาร์ฟูร์ แม็กโคร และบิ๊กซี เข้าประชุมเพื่อแก้ปัญหาข้าวถุงแพง และขาดตลาด พร้อมกับประกาศว่าจะลดราคาข้าวถุงทันที 3-10% ได้ภายใน 1 สัปดาห์จากช่วงนั้นที่ข้าวขาว 5% ถุง 5 ก.ก. 110-120 บาท ข้าวหอมมะลิ 140-160 บาท แต่ถึงขณะนี้ผ่านร่วม 2 สัปดาห์แล้ว ข้าวถุงยังไม่ปรับราคาลงแถมยังขึ้นราคาอีก และยังจำหน่ายแบบจำกัดจำนวนซื้อด้วย

ชี้ห้างค้าปลีกยังไม่ลดกำไรหลังร้าน

นายสมฤกษ์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม นายกสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย กล่าวว่า ขณะนี้ ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ยังไม่ยอมเจรจาลดค่ากำไรหลังร้าน (แบ็ก มาร์จิน) ที่เรียกเก็บจากผู้ผลิตข้าวถุงลง 3-10% อย่างที่รับปากกับนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เพื่อทำให้ราคาขายปลีกข้าวถึงในห้างค้าปลีกปรับลดลงในช่วง 2 เดือน หรือตั้งแต่เดือนเม.ย.-พ.ค.นี้ จึงส่งผลให้ราคาขายปลีกข้าวถุงในห้างยังเป็นราคาขายที่ได้ปรับขึ้นไปแล้ว 10% ตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มว่า ราคาข้าวถุงขนาดบรรจุ 5 กิโลกรัมบางยี่ห้อมีโอกาสทะลุถุงละ 200 บาทอย่างแน่นอน เพราะราคาวัตถุดิบข้าวปัจจุบันผันผวนมาก และเปลี่ยนแปลงทุกวัน

“สัปดาห์ก่อน ผมซื้อข้าวขาว 5% ที่กิโลกรัมละ 28.50 บาท ซึ่งสูงมากเมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้ที่ภาวะราคายังอยู่ในระดับปกติ โดยอยู่ที่กิโลกรัมละกว่า 10 บาทเท่านั้น ประกอบกับ ข่าวการประมูลข้าว 500,000 ตันของฟิลิปปินส์ ที่มีการเสนอราคาขายสูงมาก จึงทำให้ราคาข้าวในตลาดปรับตัวสูงขึ้น และตลาดชะลอคำสั่งซื้อเพื่อรอดูผลการประมูลที่จะออกใน 1-2 วันนี้” นายสมฤกษ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม สมาคมเสนอให้รัฐบาลพิจารณานำข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลประมาณ 100,000-200,000 ตัน จากทั้งสิ้น 2.1 ล้านตัน มาทำข้าวถุงราคาต่ำกว่าท้องตลาดประมาณ 20% ขายให้ประชาชน โดยให้สหกรณ์การเกษตร หรือชุมนุมสหกรณ์ เป็นผู้ปรับปรุงคุณภาพ บรรจุถุง และขาย ซึ่งนอกจากจะช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน และทำให้ประชาชนหาซื้อข้าวถุงได้ง่ายขึ้นแล้ว จากปัจจุบัน ที่ผู้ผลิตผลิตมากเท่าไรก็ยังไม่พอขายแล้ว ยังจะทำให้กลุ่มสหกรณ์มีรายได้ และเป็นการสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน เชื่อว่า ไม่น่าจะกระทบกับการสำรองข้าวเพื่อความมั่นคงของประเทศ เพราะเอาออกมาปริมาณน้อยมาก

ค้าปลีกยักษ์แจงขึ้นกับพ่อค้าคนกลาง

แหล่งข่าวจากห้างค้าปลีกยักษ์ กล่าวถึงปัญหาราคาข้าวถุงที่ยังไม่ลดราคาลงทันที เนื่องจากมีขั้นตอนทางบัญชี ที่ยังมีรายการสต็อกข้าวซึ่งต้องใช้เวลาในการเคลียร์ตัวเลขต่างๆ จึงไม่สามารถลดราคาได้ทันที ส่วนราคาข้าวถุงนั้นจะแพงหรือถูกนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับห้างค้าปลีกเป็นหลัก แต่ขึ้นอยู่กับพ่อค้าคนกลางที่ขายข้าวถุง เพราะกลุ่มผู้ผลิตข้าวถุงนั้นเป็นกลุ่มเดียวกันกับพ่อค้าที่ส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศ ซึ่งการส่งออกข้าวตลาดต่างประเทศตอนนี้ได้กำไรดี และแนวโน้มราคาข้าวที่ส่งออกไปยังสามารถทำกำไรได้ดีกว่าขายในประเทศ

“ข้าวจะถูกจะแพงไม่ได้ขึ้นอยู่กับห้างค้าปลีก เพราะผู้กำหนดราคาข้าวส่วนใหญ่ต้องยอมรับว่าเป็นพ่อค้าคนกลางเป็นผู้กำหนด ซึ่งตอนนี้ตลาดโลกราคาข้าวมีความต้องการสูงทำให้ราคาพุ่งสูงเพราะมีความต้องการข้าวมาก จึงทำให้พ่อค้าคนกลางตุนข้าวเพื่อส่งออกมากกว่าที่จะขายในประเทศ”แหล่งข่าวคนเดียวกัน กล่าว

ผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองยันผลิตเต็มที่

นายเศรษฐสรร เศรษฐการุณย์ นายกสมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าว กล่าวว่า จากการติดตามสมาชิกผู้ประกอบการน้ำมันถั่วเหลืองที่อยู่ในสมาคมฯทั้งหมด ยังมีการผลิตและจัดส่งน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวดไปให้ห้างค้าปลีกตามปกติ หรือปริมาณผลิตสัปดาห์ละ 1,850 ตัน หรือเดือนละ 7,400 ตัน ซึ่งใกล้เคียงกับความต้องการบริโภคของครัวเรือนต่อเดือน และกระจายส่งไปให้ทุกห้างค้าปลีกอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อไม่ให้กระจุกตัวอยู่ห้างใดห้างหนึ่ง

“กรณีที่มีผู้ร้องเรียนว่าน้ำมันถั่วเหลืองในห้างค้าปลีกบางแห่งหายไปจากชั้นวาง อาจเป็นช่วงรอยต่อของการจัดส่งสินค้า เพราะต้องยอมรับว่าขณะนี้ราคาน้ำมันถั่วเหลืองกับน้ำมันปาล์มห่างเพียงแค่ขวดละ 2 บาท ทำให้ผู้บริโภคเลือกซื้อน้ำมันถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีรอบการซื้อเร็วขึ้น”นายเศรษฐสรร กล่าว

จวกรัฐบาลห่วงแต่แก้ รธน.

นายสุทิน พรมงคลชัย ประธานหอการค้าจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า สภาพเศรษฐกิจโดยรวมในจังหวัดมหาสารคาม ระยะนี้ยังไม่ดีขึ้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากความผันผวนของราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องรายวัน แม้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมามีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมากและเกิดการจับจ่ายใช้สอยทำให้มีเงินสะพัดนับ 10 ล้านบาท แต่ก็เป็นช่วงระยะเวลาอันสั้น ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจของจังหวัดมหาสารคามกว่าร้อยละ 60 พึ่งพิงด้านการศึกษา ซึ่งระหว่างนี้อยู่ในช่วงปิดภาคเรียน ทำให้เศรษฐกิจยิ่งซบเซาลงไป

"ที่ผ่านมารัฐบาลยังไม่มีนโยบายแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรมออกมา จึงอยากให้หันมาใส่ใจปากท้องของประชาชนบ้าง ไม่ใช่มัวแต่ให้ความสนใจที่จะแก้รัฐธรรมนูญเพียงอย่างเดียว จุดที่น่าสนใจแม้พืชผลการเกษตรจะมีราคาสูงขึ้น แต่ผลผลิตส่วนใหญ่ไม่ได้อยู่ในมือเกษตรกร อีกทั้งเกษตรกรได้รับผลกระทบจากผลพวงของราคาน้ำมัน รวมถึงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคหลายรายการที่มีราคาสูงขึ้น ซ้ำเติมผู้ประกอบอาชีพภาคการเกษตรที่มีอยู่ กว่าร้อยละ 70 ของจำนวนประชากรทั้งจังหวัดจะต้องแบกรับภาระต้นทุนสูงขึ้นในฤดูการผลิตที่ใกล้ถึงนี้" นายสุทิน กล่าว และย้ำว่า การจัดหาเมล็ดพันธุ์ดี ปุ๋ยเคมีและปัญหาค่าแรงภาคการเกษตรที่นับวันยิ่งขาดแคลนแรงงานมากขึ้นเรื่อยๆ

เร่งลงทุนชลประทานหนุนปลูกข้าว

น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่า ในช่วงที่ข้าวมีราคาสูงรัฐบาลจะเร่งการลงทุนในโครงการระบบชลประทาน เพื่อให้มีน้ำเพียงพอเพื่อให้ชาวนานั้น สามารถปลูกข้าวได้เพิ่มเพราะปัจจุบันแม้ไทยจะส่งออกข้าวได้ถึงปีละ 9-10 ล้านตัน แต่ก็ยังถือว่าไม่มาก จึงต้องมีการส่งเสริมให้มีการเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้กับเกษตรกรเพื่อให้ส่งออกได้เพิ่มอีก 2- 3 เท่า จากปัจจุบัน หากส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นได้จะเป็นการสร้างรายได้ให้กับเศรษฐกิจฐานรากมากขึ้น และมั่นใจว่าการส่งออกข้าวของไทยที่มากขึ้นจะไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณข้าวในตลาดโลก และไม่ทำให้ราคาข้าวตกลงอย่างแน่นอน เพราะแนวโน้มข้าวยังเป็นสิ่งที่มีความต้องการสูง
กำลังโหลดความคิดเห็น