xs
xsm
sm
md
lg

“สมัคร”แจงข้าวแพงเรื่องธรรมดา ปชป.อัด”มิ่ง”เปิดช่องเก็งกำไร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“สมัคร”ชี้ราคาข้าวพุ่งสูง เป็นไปตามอุปสงค์-อุปทาน ให้คนกินเสียสละเพื่อชาวนามีรายได้เพิ่ม แย้มกำลังเร่งแก้ปัญหาเรื่องรายได้ เหตุรายได้กับรายจ่ายห่างกันมาก แต่ยังขออุบรายละเอียด เตือนพ่อค้าเถื่อน แอบผลิตปุ๋ยปลอมออกขายระวังโดนจับ ส่วนผู้ประกอบการอัดพาณิชย์ขาดการจัดการที่ดีและไม่จริงจังต่อการแก้ปัญหาข้าว ขณะที่รัฐมนตรีเงาพาณิชย์ พรรค ปชป.ซัด “มิ่งขวัญ” แก้ปัญหาราข้าวผิดทาง เปิดช่องนายทุนกักตุนเก็งกำไรข้าว ชี้ อินโดฯ ถึงขั้นประหารชีวิต แต่ไทยกลับนิ่งเฉย จี้ ปล่อยงบกรมการข้าว พัฒนาปรับปรุงพันธุ์

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวในรายการ “สนทนาประสาสมัคร”ถึงเรื่องข้าวกับเรื่องปุ๋ยว่า ข้าวไม่มีปัญหา เป็นเรื่องของ Supply Demand อุปสงค์ อุปทาน แต่ถ้าราคาสูงเกินไป เขาก็ว่าเราปั่นราคา อย่างไรก็ตามราคานั้นสูงขึ้นไปอยู่ และเราได้ทำระบบแล้วว่าให้การซื้อขายเก็บทยอยกันมา ข้าวที่เก็บไว้ขายออกไป ทางนี้ก็ซื้อข้าวเก็บทยอย แต่ว่าเขาก็ยังอยากจะบอกว่า เขาอยากจะเก็บข้าวนาปีเป็นข้าวดีกว่า ก็สุดแท้แต่ แต่ว่าข้าวประมาณ 2 ล้านจะอยู่ในความปลอดภัยแน่นอนไม่มีปัญหา

ทั้งนี้ นาย มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ฝากบอกมา คือได้ไปคำนวณตัวเลข โดยผลิตข้าวเปลือกได้ปีละ 30 ล้านตัน สีเป็นข้าวสารแล้วถือว่า 20 ล้านตันโดยประมาณ และกิน 9 ล้านตัน ขาย 9 ล้านตัน เหลือ 2 ล้านตันคือสำรองไว้ แต่จริง ๆ แล้วหลังจากที่นายมิ่งขวัญไปเอานักวิชาการมาประชุมกันพบว่า คนไทยกินแค่ 6.6 ล้านตันเท่านั้น ซึ่งเมื่อนำประชากรมาเฉลี่ยปรากฏว่าคนเรากินข้าวมื้อหนึ่งถ้ากินข้าวทุกมื้อ 100 กรัม คือขีดเดียว ให้ลองเอาข้าวสารไปใส่ ข้าวสาร 1 กิโลกรัมก็ 1,000 กรัม เอามา 1.10 กำมือเดียววาง 1 ขีด ลองดู นั่น 1 ขีด พอหุงมาแล้ว 1 จาน กินธรรมดาอย่างนั้น พูดง่าย ๆ ว่ากินมื้อละ 1 แต่เรากินมื้อละ 100 กรัม 1 ขีด กิน 3 มื้อ 3 ขีด 3 ขีด นี่จะบอกให้ฟังว่า แต่ก่อนนี้ขีดละ 6 สลึง เดี๋ยวนี้ขีดละ 3 บาท

“ที่พูดตรงนี้ไม่ใช่มาชักชวนอะไร มันเป็นส่วนย่อยที่ท่านทั้งหลายจะช่วยเสียสละตอนนี้หน่อยเพื่อชาวนา คือข้าวธรรมดากระสอบละ 1,100-1,200 บาท ข้าวสาร เดี๋ยวนี้ขาย 2,500 บาท แพงขึ้นมาเท่าตัว เมื่อเฉลี่ยลงมาแล้วก็ปรากฏว่า มื้อละ 1 ขีด วันละ 3 ขีดครับคนเรากินข้าว เพราะฉะนั้นมื้อละ 3 บาท แต่ก่อนกินมื้อละหกสลึง (1.50 บาท) ค่าข้าว เดี๋ยวนี้เป็น 3 บาท เท่านั้นละครับดูเหมือนตั้งเท่าตัว 100 เปอร์เซ็นต์ ถูกต้อง แต่ว่าเงิน 3 บาท จาก 1.50 บาท เป็น 3 บาท แล้วชาวนาจะได้ไปเท่าตัว คือชาวนาเคยขายข้าวได้เท่าไร ได้แพงขึ้น เคยขายข้าว 6,000, 7,000, 8,000 ประกัน เดี๋ยวนี้ขายได้ 15,000 ข้าวหอมมะลิขายเป็น 30,000 เพราะฉะนั้น เขาก็มีว่าเรื่องอย่างนี้ให้ผมช่วยบอกหน่อยว่าเรื่องการจะอดจะขาดไม่มีแน่นอน แต่อยากให้รู้ว่าการที่ท่านเสียสละหน่อย ตัวเลขทอนแล้วเล็กมาก กินข้าว 1 มื้อแต่ก่อนข้าวตักมาจานหนึ่ง 1.50 บาท เดี๋ยวนี้เป็น 3 บาทเท่านั้นละครับ ให้รู้ว่าเราเสียสละไม่มาก แต่ชาวนาจะได้ราคาแพงกว่าเดิมเท่าตัว เรื่องรายได้ผมเป็นคนนิยมไม่พูด แต่กำลังดำเนินการอยู่ว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไรเพราะรายได้กับรายจ่ายห่างกันมาก ก็ให้เข้าใจตรงนี้”นายกรัฐมนตรีกล่าว

นายสมัครกล่าวถึงเรื่องปุ๋ยว่า วันนี้เรากำลังเจรจากับประเทศที่ผลิตปุ๋ย เพื่อจะสั่งซื้อเข้ามา และจะไม่เอากำไรขายให้ชาวนา ราคายุติธรรม ส่วนเรื่องปุ๋ยปลอมนายธีระชัย แสนแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำล้งไปตรวจโดยขอหมายศาลไปตรวจที่สระบุรี

"ผมจะแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ จะไม่เอ่ยถึง เขาไปตรวจมีถุงอยู่แสนใบ พิมพ์หลายบริษัท อันนี้ยังไม่เรียกว่าทำปลอมหรอกครับ แต่ว่าไม่มีใบอนุญาต จะถูกต้องอย่างไรไม่ทราบได้ มีโน้นมีนี่ มีอะไร เอาปุ๋ยมาผสมแล้วขาย ไม่ถูกต้องครับ นี่ติดตาราง 5 ปี ไม่คุ้มค่าครับ รายนี้ยังไม่เรียกว่าปลอม แต่ว่าจัดการเอาอะไรมาผสมใส่ แล้วเอายี่ห้ออื่นเขา ปลอมยี่ห้อเขา อย่างนี้ไม่ถูกต้อง อย่างนี้กำลังตามดูอีก เพราะเรากำลังสนับสนุนปุ๋ยออแกนิกส์ ปุ๋ยอินทรีย์นี่ละครับ เพราะว่าข้อพิสูจน์อยู่แล้วว่าที่จังหวัดสุรินทร์ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ คือปุ๋ยอินทรีย์ใส่ไป 9-10 วันมันถึงจะเขียวขึ้นมา แต่ปุ๋ยเคมีใส่วันนี้ พรุ่งนี้มันเขียว แต่ว่าออกมาเหมือนกันเลยครับ เขาบอกได้ผลเหมือนกัน แต่ราคาเพียง 1 ใน 3 ราคาไม่ถึงครึ่งของราคาปุ๋ยเคมีที่ใช้อยู่”

“เมื่อสักครู่อ่านหนังสือพิมพ์บอกว่าชาวนาขายข้าวดีไม่เก็บไว้ทำพันธุ์เลย รัฐบาลก็ผลิตพันธุ์อยู่ แต่ว่าถ้าข้าวของชาวนาดีเก็บไว้เอง ดีกว่าไปซื้อข้าวพันธุ์มาปลูกนะครับ อะไรก็ตามแต่เรื่องนี้ก็เป็นที่เข้าใจกันดี รัฐบาลโดยกรมการข้าวก็ออกพันธุ์ใหม่ เขาบอกต้องเปลี่ยนพันธุ์เสมอ ตัวเพลี้ยก็ดี ใบเหี่ยวใบแห้งโรคจะได้ไม่รังควาน ก็เรียบร้อยนะเรื่องข้าวเรื่องปุ๋ย เขาตามจับนะครับต่อไปนี้ใครทำอะไรมิดีมิร้าย รัฐมนตรีจับเองนะครับ ตราที่ทำไว้แสนใบลองคิดดูสิครับ แล้วปุ๋ยอะไรต่าง ๆ อยู่มากมาย สำคัญว่าจะทำเป็นทำสูตรตรงนั้นหรือเปล่าที่ทำขายชาวบ้าน ไม่ยุติธรรมนะครับ ต้องมีใบอนุญาตครับ”นายกรัฐมนตรี กล่าว

*** ชี้ปัญหาข้าวรัฐขาดการจัดการที่ดี
แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการข้าว กล่าวถึงปัญหาราคาข้าวสารแพงว่าเกิดจากการบริหารจัดการที่ผิดพลาดของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเกิดจากความผิดพลาดมาตั้งแต่ตั้งตั้งแต่กรมการค้าภายใน ไม่มีการจัดการและตรวจสอบสต็อกข้าวอย่างจริงจัง และมีการลักลอบขโมยข้าวเป็นประจำ แถมเกิดปัญหาการกักตุนข้าวจากพ่อค้าคนกลาง ส่งผลให้ข้าวมีราคาแพง ซึ่งก่อนที่จะเกิดวิกฤติข้าวแพงกรมการค้าภายในได้ออกมาตรการบังคับห้ามห้างโมเดิร์นเทรดจำหน่ายข้าวถุงราคาถูก ทำให้ผู้บริโภคต้องซื้อข้าวถุงแพง โดยที่รัฐไม่มีมาตรการอะไรออกมาช่วยเหลือ ขณะที่ช่วงข้าวแพงและทราบดีกว่ามีกลุ่มผู้ผลิตข้าวถุงรายใหญ่เป็นผู้กักตุนข้าวไว้เอง ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันกับผู้ส่งออกข้าวรายเดียวกันกับผู้ผลิตข้าวถุง มีการกักตุนข้าวไว้ส่งออกเนื่องจากได้ราคาดีกว่าขายในประเทศ แต่กลับไม่มีการดำเนินการอะไร

“ข้าราชการกรมการค้าภายในไม่ใส่ใจในการแก้ปัญหาข้าวอย่างจริงจัง เช่น มาตรการห้ามห้างโมเดิร์นเทรดขายข้าวถูก แล้วต่อมาข้าวมีราคาแพงขึ้นแต่กลับปล่อยให้พ่อค้าคนกลางมีการกักตุน จึงอยากถามว่าทำไมไม่เรียกพ่อค้าคนกลางมาจัดการอะไรบ้าง แถมปล่อยให้มีการกักตุนจนตลาดข้าวปั่นป่วนแสดงให้เห็นว่าข้าราชการพาณิชย์ไม่สนใจกับการแก้ปัญหาข้าว”ผู้ประกอบการข้าวรายหนึ่ง กล่าว

***รมว.เงาซัด “มิ่ง” แก้ผิดทาง
นายสาธิต ปิตุเตชะ
ส.ส.ระยองในฐานะรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาราคาข้าวของนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รมว.พาณิชย์ว่า ในฐานะที่ตนเป็นรัฐมนตรีเงาช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เห็นว่าสถานการณ์ข้าวมีปัญหาอยู่มากเพราะความล้มเหลวในการบริหารงานของนายมิ่งขวัญ ที่เร่งส่งสัญญาณผิด กระทรวงพาณิชย์ไม่สามารถสร้างสมดุลราคาข้าวระหว่างต้นทาง คือข้าวเปลือก และราคาปลายทางคือข้าวสาร ที่ผู้บริโภคต้องการได้ และยังไม่มีอะไรมาการันตีว่าในอนาคตราคาข้าวจะมีคุณภาพและราคาดีต่อไปแบบนี้ เพราะขณะนี้ราคาพันธุ์ข้าวเพิ่มขึ้นถึง 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ราคาปุ๋ยรัฐบาลก็ไม่สามารถการันตีว่า จะไม่เพิ่มมากขึ้น

ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ได้รับการร้องเรียนจากกรรมกรผู้ใช้แรงงานว่า วันนี้เขาไปซื้อข้าวสารจากเดิมถุงละ 200 บาท เพิ่มราคาเป็นถุงละ 500 บาท ทั้งๆ ที่ราคาต้นทางคือข้าวเปลือกชาวนายังขายให้โรงสีในราคาเท่าเดิม คือข้าวที่มีความชื้น15 เปอร์เซ็นต์ ก็จะได้ตันละ13,500-13,300 บาท ถ้าข้าวสารที่เป็นข้าวปลายทางสูง ราคาข้าวเปลือกต้องสูงด้วย แต่วันนี้ข้าวถุง ข้าวสารข้าวขาว ราคาสูงกว่าปกติ ทั้งที่ราคาข้าวเปลือกเท่าเดิม ตนจึงฟันธงได้เลยว่า ราคาข้าวสารที่เพิ่มสูงขึ้นนั้นเกิดจากการกักตุน และการเก็งกำไรของพ่อค้าคนกลาง

นายสาธิต กล่าวอีกว่า ขณะนี้ชาวนาขายข้าวออกหมดแล้ว แม้แต้พันธุ์ข้าวก็ยังขาย เพราะชาวนาเดือดร้อน เป็นหนี้ แต่ราคาข้าวทั้งหมดไปตกอยู่ที่พ่อค้าคนกลาง ดังนั้นรัฐบาลต้องไปดูราคาขายข้าวถึงมือผู้บริโภคที่ราคาสูงเกินจริง ทำอย่างไรถึงจะลดลงมาได้ ต้องตรวจสอบการกักตุนของพ่อค้าคนกลางที่ทำเทคนิคว่า ข้าวกำลังจะขาดตลาด เพราะกรณีแบบนี้เคยมีเกิดขึ้นในประเทศอินโดนีเซีย แต่รัฐบาลของอินโดนีเซีย ออกกฏหมายชัดเจนวว่า ถ้าใครกักตุนข้าวต้องถูกประหารชีวิต รัฐบาลไทยจึงต้องเอาจริงกับเรื่องนี้

ส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหาพันธุ์ข้าวนั้น จากเดิมที่พันธุ์ข้าวมีราคา 120 บาทต่อถัง แต่ขณะนี้พันธุ์ข้าวไม่เพียงพอต่อความต้องการของชาวนา จึงทำให้ราคาสูงขึ้นเป็นถังละ 230 บาท ถือได้ว่าเพิ่ม 100% ดังนั้นรัฐต้องให้งบสนับสนุนกรมการข้าว เพื่อไปผลิตพันธุ์ข้าวให้เพียงพอต่อความต้องการของชาวนา ไม่ใช่ส่งสัญญาณว่า น้ำไม่เพียงพอต่อการปลูกข้าว แล้วห้ามชาวนาปลูกข้าว แต่รัฐเองต้องหาน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของชาวนา

"สิ่งที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนที่สุดอีกเรื่องคือ การกำหนดราคาข้าวโดยชาวนาเอง ซึ่งรัฐต้องเปิดให้ชาวนากำหนดทิศทางของราคาข้าวเองได้ และรัฐต้องค้ำประกันว่า ข้าวต่อตันต้องไม่ตำว่า 15,000-13,000 บาท เพราะถ้าชาวนาเดือดร้อน เศรษฐกิจของประเทศก็จะลำบาก" รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น