วานนี้ (9 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศหลังนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 71/2551 ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงข้อกล่าวหาวินัยร้ายแรง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เพิ่มเติมอีก 4 ประเด็น และมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 73/2551 ให้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ออกจากราชการไว้ก่อน นั้น เรื่องนี้กลายเป็นหัวข้อวิพากษ์วิจารณ์ของเหล่าข้าราชการตำรวจ
สำหรับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ นั้นหลังจากที่ได้รับคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ก.พ. ที่ผ่านมา ก็ยังคงมานั่งที่ห้องสำนักงานชั้น 7 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติทุกวัน แต่หลังจากถูกคำสั่งปลด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่ได้เดินทางมาแต่อย่างใด และได้ยกเลิกภารกิจ เป็นประธานการประชุมศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม เมื่อวานนี้ด้วย โดยให้เหตุผลว่าติดภารกิจ
ด้านพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ถึงกรณีถูกคาดการณ์ว่าจะขึ้นเป็นผบ.ตร. คนต่อไป โดย พล.ต.อ.พัชรวาท ไม่ตอบคำถาม ส่วนคำถามที่ว่านายกรัฐมนตรีได้ทาบทามไว้แล้วหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า คงตอบไม่ได้เหมือนกัน เมื่อถามว่าเกรงว่าจะมีปัญหาในการทำงานหรือไม่ รรท.ผบ.ตร. กล่าวว่า เป็นตำรวจขึ้นมาถึงระดับนี้ ต้องพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ขณะเดียวกันเมื่อถามว่าส่วนตัวพร้อมที่จะรับตำแหน่ง ผบ.ตร.เต็มตัวหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ต้องถามผู้สื่อข่าวว่า ตนจะพร้อมหรือไม่
พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะเลขานุการ ก.ต.ช. กล่าวว่าตนได้ทำหนังสือเชิญประชุม ก.ต.ช.ไปแล้ว กำหนดวันที่ 11 เม.ย. เวลา 15.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเป็นวาระทั่วไป ส่วนมีวาระเสนอตั้งผบ.ตร.คนใหม่หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่านายกรัฐมนตรี จะเสนอต่อก.ต.ช.หรือไม่ เพราะเป็นอำนาจนายกรัฐมนตรีที่จะเสนอชื่อ ผู้มารับตำแหน่ง ผบ.ตร. และให้ก.ต.ช.มีมติอนุมัติ
ทั้งนี้ ตามขั้นตอนกฎหมาย หากมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีให้ ผบ.ตร. ออกจากราชการไว้ก่อน ก.ต.ช.ก็สามารถดำเนินการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ได้เลย ถือว่าคำสั่งให้ออกจากราชการมีผลแล้ว ซึ่งตามกฎหมายก็ต้องเสนอโปรดเกล้าฯโดยหลังจากนี้ ก็ต้องเสนอโปรดเกล้าฯให้ ผบ.ตร. คนก่อนออกจากตำแหน่ง และเสนอโปรดเกล้าฯ ตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ เพื่อให้สมบูรณ์ครบถ้วนตามกฎหมาย โดยสามารถเสนอโปรดเกล้าฯไปพร้อมๆ กันก็ได้ หรือไม่พร้อมกันก็ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุม ก.ต.ช.ในวันที่ 11 เม.ย. ซึ่งนายสมัคร จะเป็นประธานนั้น คาดว่าจะมีวาระพิจารณาแต่งตั้ง ผบ.ตร. คนใหม่ แทนพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ด้วย โดยมีรายงานว่า ผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อให้มาดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. คือ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองผบ.ตร. งานความมั่นคง อาวุโสอันดับหนึ่ง แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการกระแสข่าวลือว่าตำแหน่งนี้อาจมีตัวสอดแทรกคือ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.สส. แต่หากพิจารณาอันดับอาวุโสของนายพลไม้บรรทัดผู้นี้ ซึ่งอยู่รั้งท้าย โอกาสที่จะได้รับการเสนอชื่อ จึงเป็นไปได้ยาก
อย่างไรก็ตาม หากย้อนดูประวัติการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ที่ผ่านมา ไม่เคยมีการข้ามอาวุโสแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งหากมีการพลิกผัน ผู้ที่น่าจะได้รับการพิจารณาก่อนคือ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ
นอกจากนี้หากพิจารณาถึงคุณสมบัติของ พล.ต.อ.พัชรวาท แล้ว จะเห็นว่าค่อนข้างราบเรียบ ประกอบกับอุปนิสัยส่วนตัวที่ค่อนข้างเก็บตัวด้วยแล้ว ทำให้ไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่หากพูดถึงสายสัมพันธ์กับฝ่ายการเมือง และฝ่ายทหาร โดยเฉพาะฝ่ายทหาร ถือว่าแนบแน่นในระดับหนึ่งอาจเป็นเพราะพล.ต.อ.พัชรวาท เป็นน้องชายร่วมสายเลือด ของ”บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงมองกันว่าหากพล.ต.อ.พัชรวาท เป็น ผบ.ตร. จะสามารถประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆได้ดี
นอกจากนี้ มีการวิเคราะห์กันว่า การวางตัว พล.ต.อ.พัชรวาท ให้เป็นผบ.ตร เพื่อขัดตาทัพ เพื่อรอการกลับมาของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ เพราะ พล.ต.อ.พัชรวาท มีอายุราชการเหลือเพียง 1 ปี เท่านั้น ขณะที่รองผบ.ตร.คนอื่นๆ จะทยอยเกษียณกันไปตั้งแต่ปี 51- 52 ซึ่งหาก พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กลับมาก็จะกลายเป็นรองผบ.ตร. อาวุโสอันดับ 1 และรอเวลาเพียง 1 ปี ก็เตรียมตัวก้าวขึ้นเป็นผบ.ตร.ต่อไป
สำหรับ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ นั้นหลังจากที่ได้รับคำสั่งให้ไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 ก.พ. ที่ผ่านมา ก็ยังคงมานั่งที่ห้องสำนักงานชั้น 7 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติทุกวัน แต่หลังจากถูกคำสั่งปลด พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ไม่ได้เดินทางมาแต่อย่างใด และได้ยกเลิกภารกิจ เป็นประธานการประชุมศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาพลังแผ่นดินเชิงคุณธรรม เมื่อวานนี้ด้วย โดยให้เหตุผลว่าติดภารกิจ
ด้านพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ถึงกรณีถูกคาดการณ์ว่าจะขึ้นเป็นผบ.ตร. คนต่อไป โดย พล.ต.อ.พัชรวาท ไม่ตอบคำถาม ส่วนคำถามที่ว่านายกรัฐมนตรีได้ทาบทามไว้แล้วหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า คงตอบไม่ได้เหมือนกัน เมื่อถามว่าเกรงว่าจะมีปัญหาในการทำงานหรือไม่ รรท.ผบ.ตร. กล่าวว่า เป็นตำรวจขึ้นมาถึงระดับนี้ ต้องพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
ขณะเดียวกันเมื่อถามว่าส่วนตัวพร้อมที่จะรับตำแหน่ง ผบ.ตร.เต็มตัวหรือไม่ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ต้องถามผู้สื่อข่าวว่า ตนจะพร้อมหรือไม่
พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะเลขานุการ ก.ต.ช. กล่าวว่าตนได้ทำหนังสือเชิญประชุม ก.ต.ช.ไปแล้ว กำหนดวันที่ 11 เม.ย. เวลา 15.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล โดยเป็นวาระทั่วไป ส่วนมีวาระเสนอตั้งผบ.ตร.คนใหม่หรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่านายกรัฐมนตรี จะเสนอต่อก.ต.ช.หรือไม่ เพราะเป็นอำนาจนายกรัฐมนตรีที่จะเสนอชื่อ ผู้มารับตำแหน่ง ผบ.ตร. และให้ก.ต.ช.มีมติอนุมัติ
ทั้งนี้ ตามขั้นตอนกฎหมาย หากมีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีให้ ผบ.ตร. ออกจากราชการไว้ก่อน ก.ต.ช.ก็สามารถดำเนินการแต่งตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ได้เลย ถือว่าคำสั่งให้ออกจากราชการมีผลแล้ว ซึ่งตามกฎหมายก็ต้องเสนอโปรดเกล้าฯโดยหลังจากนี้ ก็ต้องเสนอโปรดเกล้าฯให้ ผบ.ตร. คนก่อนออกจากตำแหน่ง และเสนอโปรดเกล้าฯ ตั้ง ผบ.ตร.คนใหม่ เพื่อให้สมบูรณ์ครบถ้วนตามกฎหมาย โดยสามารถเสนอโปรดเกล้าฯไปพร้อมๆ กันก็ได้ หรือไม่พร้อมกันก็ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุม ก.ต.ช.ในวันที่ 11 เม.ย. ซึ่งนายสมัคร จะเป็นประธานนั้น คาดว่าจะมีวาระพิจารณาแต่งตั้ง ผบ.ตร. คนใหม่ แทนพล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ด้วย โดยมีรายงานว่า ผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อให้มาดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. คือ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองผบ.ตร. งานความมั่นคง อาวุโสอันดับหนึ่ง แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการกระแสข่าวลือว่าตำแหน่งนี้อาจมีตัวสอดแทรกคือ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รอง ผบ.ตร.สส. แต่หากพิจารณาอันดับอาวุโสของนายพลไม้บรรทัดผู้นี้ ซึ่งอยู่รั้งท้าย โอกาสที่จะได้รับการเสนอชื่อ จึงเป็นไปได้ยาก
อย่างไรก็ตาม หากย้อนดูประวัติการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ที่ผ่านมา ไม่เคยมีการข้ามอาวุโสแม้แต่ครั้งเดียว ซึ่งหากมีการพลิกผัน ผู้ที่น่าจะได้รับการพิจารณาก่อนคือ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ จเรตำรวจแห่งชาติ
นอกจากนี้หากพิจารณาถึงคุณสมบัติของ พล.ต.อ.พัชรวาท แล้ว จะเห็นว่าค่อนข้างราบเรียบ ประกอบกับอุปนิสัยส่วนตัวที่ค่อนข้างเก็บตัวด้วยแล้ว ทำให้ไม่เป็นที่รู้จักมากนัก แต่หากพูดถึงสายสัมพันธ์กับฝ่ายการเมือง และฝ่ายทหาร โดยเฉพาะฝ่ายทหาร ถือว่าแนบแน่นในระดับหนึ่งอาจเป็นเพราะพล.ต.อ.พัชรวาท เป็นน้องชายร่วมสายเลือด ของ”บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงมองกันว่าหากพล.ต.อ.พัชรวาท เป็น ผบ.ตร. จะสามารถประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆได้ดี
นอกจากนี้ มีการวิเคราะห์กันว่า การวางตัว พล.ต.อ.พัชรวาท ให้เป็นผบ.ตร เพื่อขัดตาทัพ เพื่อรอการกลับมาของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ เพราะ พล.ต.อ.พัชรวาท มีอายุราชการเหลือเพียง 1 ปี เท่านั้น ขณะที่รองผบ.ตร.คนอื่นๆ จะทยอยเกษียณกันไปตั้งแต่ปี 51- 52 ซึ่งหาก พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ กลับมาก็จะกลายเป็นรองผบ.ตร. อาวุโสอันดับ 1 และรอเวลาเพียง 1 ปี ก็เตรียมตัวก้าวขึ้นเป็นผบ.ตร.ต่อไป
