“วัชรพล” เผยคณะทำงาน ตร.มีมติเอกฉันท์ให้ยกเลิกคำสั่งโยกย้าย 26 คำสั่งที่ลัดขั้นตอนกฎหมาย พร้อมเสนอ “พัชรวาท” พิจารณาส่งต่อ ก.ตร.เห็นชอบใน 2 อาทิตย์ ย้ำให้ทุกตำแหน่งกลับไปตำแหน่งเดิมก่อนพิจารณาแต่งตั้งใหม่ ส่วนนายตำรวจได้ตำแหน่งเลื่อนขึ้น 364 นาย เป็นผู้กำกับ-รองผู้กำกับ 120 นาย ที่สังกัด บช.ก.และบช.ส. ถือว่าได้รับสิทธิ์เลื่อนตำแหน่งได้
วันนี้ (8 เม.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.วัชรพล ประสารราชกิจ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษก ตร. เป็นประธานการประชุมคณะทำงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อพิจารณาตรวจสอบและแก้ไขคำสั่งแต่งตั้งโยกย้าย 26 คำสั่งที่มีปัญหา โดยมี พล.ต.ท.สุวัฒน์ จันทร์อิทธิกุล ผบช.สทส. พล.ต.ท.บรรจง ตันศยานนท์ ผบช.ก.ตร. พล.ต.ต.ชนาภัทร เชยสมบัติ ผู้บังคับการกองกำลังพล ผู้บังคับการกองกำลังพล และคณะกรรมการ เข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง
พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวภายหลังประชุมว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปเป็นเอกฉันท์ว่าคำสั่งแต่งตั้งทั้ง 26 คำสั่งดังกล่าวดำเนินการโดยลัดขั้นตอนกฎหมาย ทำให้คำสั่งที่มิชอบด้วยกฎหมาย จึงต้องให้ทุกอย่างกลับไปที่เดิม โดยที่ประชุมได้เสนอแนวทางแก้ไขออกมาเป็นแนวทางเดียวเท่านั้นคือ ให้ยกเลิกคำสั่ง และให้ที่ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งตาม 26 คำสั่งนี้กลับไปตำแหน่งเดิมก่อนที่จะได้รับการแต่งตั้งทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่น ตำแหน่งเดิมเป็น ผกก.1 ป.ย้ายเป็น ผกก.ฝ่ายปฏิบัติการ 10 ก็ให้กลับเป็น ผกก.1 ป.เหมือนเดิม
พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวต่อว่า จากคำสั่งทั้งหมดคัดออกมาพบว่ามีข้าราชการตำรวจที่ได้ตำแหน่งเลื่อนขึ้น 364 นาย โดย แบ่งเป็นตำแหน่งผู้กำกับการ 30 นาย รอง ผกก.90 นาย และสารวัตร 244 นาย ส่วนใหญ่ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) และกองบัญชาการตำรวจสันติบาล ซึ่งกลุ่มนี้ถือว่าได้รับสิทธิ์ให้เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาแล้ว ตร.ก็จะรักษาสิทธิ์ให้ เป็นผกก.แล้วก็ถือว่าเป็นไปเลย แต่จะต้องปรับเกลี่ยไปตำแหน่งอื่นๆ แทน
ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวว่า คณะทำงานได้เสนอให้กำหนดเป็นตำแหน่งประจำกองบังคับการ โดยต้องขออนุมัติคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) กำหนดตำแหน่งประจำขึ้นใหม่ทั้ง 364 ตำแหน่ง ยกตัวอย่างกองบังคับการปราบปรามที่ถูกแบ่งเป็นฝ่ายปฏิบัติการ 1-10 มี ผกก.10 ตำแหน่ง เมื่อแก้ไขและกำหนดตำแหน่งใหม่จะมี ผกก.เดิมที่มีอยู่แล้ว 6 ตำแหน่ง และเพิ่มตำแหน่ง ผกก.ประจำอีก 4 ตำแหน่ง
“อย่างไรก็ตาม การกำหนดตำแหน่งประจำและพิจารณาแต่งตั้งลงในส่วนนี้ได้เสนอให้ ตร.ตั้งคณะกรรมการที่ประกอบด้วยรักษาราชการแทน ผบ.ตร. และผู้บัญชาการหน่วยที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยมาพิจารณาแต่งตั้งบรรเทาความเสียหายให้ ขณะเดียวกัน ผมจะเป็นประธานคณะกรรมการอีกชุดพิจารณาผลกระทบด้านบุคลากร” พล.ต.ท.วัชรพลกล่าว
พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า แนวทางข้อเสนอแนะจากที่ประชุมวันนี้ทั้งหมดจะเสนอให้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รรท.ผบ.ตร.พิจารณา และนำเข้า ก.ตร.เพื่อพิจารณาเห็นชอบอีกครั้ง หาก ก.ตร.เห็นชอบตามนี้จึงจะดำเนินการต่อไปได้ โดยจะทำโดยเร็วที่สุดนำเข้า ก.ตร.ครั้งต่อไปซึ่งคงภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งตาม 26 คำสั่ง ขณะนี้ถือว่ายังคงต้องปฏิบัติหน้าที่ตามปกติไปก่อนจนกว่าจะมีการดำเนินการแก้ไขจาก ตร.อย่างเป็นรูปธรรม
พล.ต.ท.วัชรพล กล่าวว่า ขั้นต่อไปเมื่อแก้ปัญหาคำสั่งเหล่านี้แต่งตั้งให้ตำรวจทำงานได้อย่างเต็มที่แล้ว ตร.ก็จะพิจารณาปรับแก้กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการฯ ใหม่ให้สอดคล้อง ซึ่งจะทำไปพร้อมๆกับการปรับแก้ร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการฯ (โครงสร้าง ตร.) ที่ ตร.เคยเสนอแก้ไขไปก่อนหน้านี้ แล้วเรื่องไปอยู่ที่คณะกรรมการกฤษฎีกา โดยคาดว่าจะมีการส่งเรื่องกลับมาให้ ตร.พิจารณาในเร็วๆ นี้ และหากเป็นเช่นนั้น ตร.จะต้องนำกลับมาทบทวนและเสนอแก้ไขโครงสร้างกันอีกครั้งให้เหมาะสม โดยจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงกฎกระทรวงฯที่ต้องเพิ่มฝ่ายปฏิบัติการต่างๆ ลงไปในโครงสร้าง บช.ก.ด้วย เพื่อจะได้แต่งตั้งคนลงไปทำหน้าที่ได้อย่างถูกต้องในอนาคต ซึ่งก็ต้องอยู่ที่ดุลพินิจของ ก.ตร.ว่าจะเห็นด้วยตามที่เสนอหรือไม่
รายงานข่าวแจ้งว่าว่า จากเดิมการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่กำหนดเวลา 15.30 น.วันที่ 11 เมษายนนั้น แต่เนื่องจากนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร.ได้ติดภารกิจ จึงเลื่อนการประชุมไปไม่มีกำหนด