“มิ่งขวัญ”วอนผู้ประกอบการข้าวถุง- โรงสี-โมเดิร์นเทรด เร่งแก้ข้าวถุงแพง ขอความร่วมมือห้าง ให้เปลี่ยนเงื่อนไขการจ่ายเงิน จากเดิม 60-80 วัน มาเป็น 30 วัน แถมของยกเว้นค่าส่วนลดเป็นกรณีพิเศษ คาดสัปดาห์หน้าข้าวถุงลดลง 3-10 % ขณะที่ ครม.ไฟเขียว 300 ล้านบาทแรก ซื้อปุ๋ยนอก "หมัก" รับเจรจาเคาท์เตอร์เทรดอินโดฯ
นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุง สมาคมโรงสีข้าวไทย และผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรด โดยใช้เวลา 2 ช.ม.ว่า ที่ประชุมได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันว่า ผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรด จะเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการจ่ายเงินให้กับผู้ประกอบการข้าวถุง เพื่อให้มีเงินสดหมุนเวียนเพียงพอ โดยลดระยะเวลาการจ่ายเงินจากเดิม 60-80 วัน เหลือเพียง 30 วันหรือจ่ายเงินให้เร็วขึ้นใน 1 เดือน ภายใต้เงื่อนไขว่า ผู้ประกอบการข้าวถุงจะต้องส่งข้าวให้ครบตามจำนวนอย่างครบถ้วน
นอกจากนี้ผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรด จะยกเว้นค่าส่วนลด ค่าบริการการขาย หรือ ค่าโปรโมชั่น ให้กับผู้ประกอบการข้าวถุงเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งจะมีผลให้ต้นทุนของข้าวถุงนั้นลดลง ขณะเดียวกันผู้ประกอบการข้าวถุง ก็มีเงินสดเข้ามาหมุนเวียนเร็วขึ้น ส่วนราคาข้าวถุงจะลดลงได้เมื่อใด และเป็นจำนวนเท่าใด ต้องขึ้นอยู่กับการหารือระหว่างผู้ประกอบการข้าวถุง และโมเดิร์นเทรด ที่สำคัญยังมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ออกตรวจสอบราคาข้าวและดูแลปริมาณข้าวในแต่ละห้างอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ทั้ง 2 มาตรการจะดำเนินการเป็นเวลา 2 เดือนเริ่มตั้งแต่เม.ย. ไปจนถึง พ.ค.นี้ เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคไม่ให้ได้รับความเดือดร้อนจากราคาข้าวที่กำลังพุ่งสูงขึ้นอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งสมาคมโรงสีข้าวไทย และสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย ยังได้ยืนยันชัดเจนว่าจะมีปริมาณข้าวเพียงพอกับความต้องการแน่นอน ทั้งนี้เพราะเดือนมิ.ย. จะมีผลผลิตข้าวนาปรังออกมาอีก 6.5 ล้านตันข้าวเปลือก หรือ 4.2 ล้านตันข้าวสาร จึงทำให้มีปริมาณข้าวเพียงพอกับความต้องการในประเทศแน่นอน ไม่จำเป็นต้องแตกตื่นไปซื้อมากักตุน
ผู้ค้าข้าวถุงอ่อนข้อตาม“มิ่งขวัญ”
นายสมเกียรติ มรรคยาธ เลขาสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ข้าวมาบุญครอง กล่าวว่า จากการตกลงกันครั้งนี้ จะทำให้ราคาข้าวสารบรรจุถุงที่ขายอยู่ในห้าง ปรับลดลงเฉลี่ยถุงละ 3%-10% โดยข้าวมาบุญครอง ต่างเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะลดราคาข้าวลงเท่ากับมาร์จิ้นที่โมเดิร์นเทรดได้ลดลงให้เพื่อคืนให้กับผู้บริโภค ทั้งหมด แม้ว่าที่ผ่านมาจากการที่ราคาข้าวปรับขึ้นสูงมาก จะทำให้บริษัทต้องขาดทุนไปหลายสิบล้านบาท จนต้องปรับราคาข้าวสารขึ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา
โลตัสย้ำผู้ค้าข้าวถุงอย่าเบี้ยว
นายดามพ์ สุคนธทรัพย์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า ภายในสัปดาห์หน้าจะสามารถสรุปรายละเอียดของราคาจำหน่ายข้าวถุงที่จะวางขายให้กับประชาชนเป็นการทั่วไปได้ว่าจะปรับลดราคาจำหน่ายลงได้เท่าใด ขณะเดียวกันก็ต้องขอร้องให้ผู้ประกอบการข้าวถุงนั้นส่งข้าวถุงให้ตรงตามคำสั่งซื้อด้วย
แฉเบื้องหลังข้าวถุงแพง
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงปัญหาข้าวถุงมีราคาแพงว่าเกิดจากผู้ประกอบการข้าวถุงมีการกักตุนข้าว ซึ่งผู้กักตุนก็เป็นกลุ่มเดียวกันกับผู้ส่งข้าวออกไปยังต่างประเทศ เพราะมีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนการส่งออกเพิ่มขึ้น และลดปริมาณการส่งข้าวถุงไปยังห้างค้าปลีกน้อยลง ทำให้ตลาดข้าวถุงเกิดการขาดแคลน แต่จะอ้าเหตุผลเงื่อนไขการจ่ายเงินของห้างค้าปลีกว่า มีอายุการชำระเงินนาน ทำให้กระแสเงินสดมาหมุนเวียนได้เร็วขึ้น ซึ่งทำให้ นายมิ่งขวัญ ต้องขอความร่วมมือจากห้างโมเดิร์นเทรด เข้ามาช่วยแก้ปัญหาเงื่อนไขการชำระเงินดังกล่าว และต้องจับตาต่อไปว่า กลุ่มผู้ส่งออก หรือผู้ค้าข้าวถุงจะปฏิบัติตามเงื่อนไขตามที่ตกลงได้หรือไม่ ซึ่งต้องยอมรับว่าทางห้างโมเดิร์นเทรด ได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพื่อแก้ปัญหาข้าวขาดแคลนในท้องตลาด
“หมัก-มิ่ง-เลี๊ยบ” นั่งบอร์ดนโยบายข้าว
นางสาววีรินทร์ทิรา นาทองบ่อจรัส รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงว่า ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์ ยืนยันหลังพิจารณา ตรวจสอบองค์ประกอบ และอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่ปรับเปลี่ยนมาจาก คณะกรรมการนโยบายข้าว ซึ่งพบว่า สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 265 และ มาตรา 267 และ มติครม.เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 51 โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) แห่งพ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534
ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญ มาตรา 265 (1) ระบุว่า ส.ส. และ ส.ว.ต้องไม่ดำรงตำแหน่ง หรือหน้าที่ใดในหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือตำแหน่งสมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือข้าราชการส่วนท้องถิ่
ดังนั้นการแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน รมว.พาณิชย์ รมว.เกษตรฯ และรมว.คลัง จึงสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 1) ได้
ครม.ไฟเขียวซื้อปุ๋ยนอก300ล้าน
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ครม. เห็นชอบในหลักการอนุมัติงบประมาณ 300 ล้านบาทแรกเพื่อเข้าไปจัดการซื้อปุ๋ยจากนอกประเทศเพื่อแก้ปัญหาปุ๋ยราคาแพง โดยให้กระทรวงเกษตรฯและสำนักงบประมาณไปจัดสรรงบกลางขณะเดียวกัน นายสมัคร นายกรัฐมนตรี รับที่จะไปเป็นตัวกลางเพื่อติดต่อการนำเข้าปุ๋ยล๊อตใหญ่จากประเทศอินโดนีเซีย โดยให้กระทรวงเกษตรฯ ไปสอบราคาก่อนความต้องการ รวมทั้งจัดทำรายละเอียดว่าต้องการปุ๋ยชนิดใด และจำนวนเท่าใดก่อน
“อาจเป็นการดำเนินการแบบเคาท์เตอร์เทรด (การทำการค้าต่างตอบแทน) ไม่ใช่แบบบาร์เตอร์เทรด(แลกเปลี่ยนสินค้า) ขณะนี้ยังไม่ได้คิดว่าจะใช้สินค้าเกษตรตัวใด เพราะต้องดูว่าประเทศอินโดนีเซียต้องการสินค้าเกษตรตัวใด”
สำหรับงบประมาณ 300 ล้านบาทแรก คาดว่าจะได้ปริมาณปุ๋ยกว่า 20,000 ตัน ซึ่งกระบวนการทั้งหมดน่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 - 3 สัปดาห์ จากนั้นจะพิจารณานำเข้าล็อตใหญ่อีกครั้ง ขณะเดียวกันกรมวิชาการกษตร กระทรวงเกษตรฯ จะรับไปดำเนินการพัฒนาปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมีที่จะต้องลดปริมาณลงด้วย
นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุง สมาคมโรงสีข้าวไทย และผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรด โดยใช้เวลา 2 ช.ม.ว่า ที่ประชุมได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันว่า ผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรด จะเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการจ่ายเงินให้กับผู้ประกอบการข้าวถุง เพื่อให้มีเงินสดหมุนเวียนเพียงพอ โดยลดระยะเวลาการจ่ายเงินจากเดิม 60-80 วัน เหลือเพียง 30 วันหรือจ่ายเงินให้เร็วขึ้นใน 1 เดือน ภายใต้เงื่อนไขว่า ผู้ประกอบการข้าวถุงจะต้องส่งข้าวให้ครบตามจำนวนอย่างครบถ้วน
นอกจากนี้ผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรด จะยกเว้นค่าส่วนลด ค่าบริการการขาย หรือ ค่าโปรโมชั่น ให้กับผู้ประกอบการข้าวถุงเป็นกรณีพิเศษ ซึ่งจะมีผลให้ต้นทุนของข้าวถุงนั้นลดลง ขณะเดียวกันผู้ประกอบการข้าวถุง ก็มีเงินสดเข้ามาหมุนเวียนเร็วขึ้น ส่วนราคาข้าวถุงจะลดลงได้เมื่อใด และเป็นจำนวนเท่าใด ต้องขึ้นอยู่กับการหารือระหว่างผู้ประกอบการข้าวถุง และโมเดิร์นเทรด ที่สำคัญยังมอบหมายให้กรมการค้าภายใน ออกตรวจสอบราคาข้าวและดูแลปริมาณข้าวในแต่ละห้างอย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้ ทั้ง 2 มาตรการจะดำเนินการเป็นเวลา 2 เดือนเริ่มตั้งแต่เม.ย. ไปจนถึง พ.ค.นี้ เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภคไม่ให้ได้รับความเดือดร้อนจากราคาข้าวที่กำลังพุ่งสูงขึ้นอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งสมาคมโรงสีข้าวไทย และสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย ยังได้ยืนยันชัดเจนว่าจะมีปริมาณข้าวเพียงพอกับความต้องการแน่นอน ทั้งนี้เพราะเดือนมิ.ย. จะมีผลผลิตข้าวนาปรังออกมาอีก 6.5 ล้านตันข้าวเปลือก หรือ 4.2 ล้านตันข้าวสาร จึงทำให้มีปริมาณข้าวเพียงพอกับความต้องการในประเทศแน่นอน ไม่จำเป็นต้องแตกตื่นไปซื้อมากักตุน
ผู้ค้าข้าวถุงอ่อนข้อตาม“มิ่งขวัญ”
นายสมเกียรติ มรรคยาธ เลขาสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ข้าวมาบุญครอง กล่าวว่า จากการตกลงกันครั้งนี้ จะทำให้ราคาข้าวสารบรรจุถุงที่ขายอยู่ในห้าง ปรับลดลงเฉลี่ยถุงละ 3%-10% โดยข้าวมาบุญครอง ต่างเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และพร้อมที่จะลดราคาข้าวลงเท่ากับมาร์จิ้นที่โมเดิร์นเทรดได้ลดลงให้เพื่อคืนให้กับผู้บริโภค ทั้งหมด แม้ว่าที่ผ่านมาจากการที่ราคาข้าวปรับขึ้นสูงมาก จะทำให้บริษัทต้องขาดทุนไปหลายสิบล้านบาท จนต้องปรับราคาข้าวสารขึ้นล่าสุดเมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา
โลตัสย้ำผู้ค้าข้าวถุงอย่าเบี้ยว
นายดามพ์ สุคนธทรัพย์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า ภายในสัปดาห์หน้าจะสามารถสรุปรายละเอียดของราคาจำหน่ายข้าวถุงที่จะวางขายให้กับประชาชนเป็นการทั่วไปได้ว่าจะปรับลดราคาจำหน่ายลงได้เท่าใด ขณะเดียวกันก็ต้องขอร้องให้ผู้ประกอบการข้าวถุงนั้นส่งข้าวถุงให้ตรงตามคำสั่งซื้อด้วย
แฉเบื้องหลังข้าวถุงแพง
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงปัญหาข้าวถุงมีราคาแพงว่าเกิดจากผู้ประกอบการข้าวถุงมีการกักตุนข้าว ซึ่งผู้กักตุนก็เป็นกลุ่มเดียวกันกับผู้ส่งข้าวออกไปยังต่างประเทศ เพราะมีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนการส่งออกเพิ่มขึ้น และลดปริมาณการส่งข้าวถุงไปยังห้างค้าปลีกน้อยลง ทำให้ตลาดข้าวถุงเกิดการขาดแคลน แต่จะอ้าเหตุผลเงื่อนไขการจ่ายเงินของห้างค้าปลีกว่า มีอายุการชำระเงินนาน ทำให้กระแสเงินสดมาหมุนเวียนได้เร็วขึ้น ซึ่งทำให้ นายมิ่งขวัญ ต้องขอความร่วมมือจากห้างโมเดิร์นเทรด เข้ามาช่วยแก้ปัญหาเงื่อนไขการชำระเงินดังกล่าว และต้องจับตาต่อไปว่า กลุ่มผู้ส่งออก หรือผู้ค้าข้าวถุงจะปฏิบัติตามเงื่อนไขตามที่ตกลงได้หรือไม่ ซึ่งต้องยอมรับว่าทางห้างโมเดิร์นเทรด ได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพื่อแก้ปัญหาข้าวขาดแคลนในท้องตลาด
“หมัก-มิ่ง-เลี๊ยบ” นั่งบอร์ดนโยบายข้าว
นางสาววีรินทร์ทิรา นาทองบ่อจรัส รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงว่า ครม.เห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์ ยืนยันหลังพิจารณา ตรวจสอบองค์ประกอบ และอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่ปรับเปลี่ยนมาจาก คณะกรรมการนโยบายข้าว ซึ่งพบว่า สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ มาตรา 265 และ มาตรา 267 และ มติครม.เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 51 โดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) แห่งพ.ร.บ. ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534
ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญ มาตรา 265 (1) ระบุว่า ส.ส. และ ส.ว.ต้องไม่ดำรงตำแหน่ง หรือหน้าที่ใดในหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ หรือตำแหน่งสมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือข้าราชการส่วนท้องถิ่
ดังนั้นการแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน รมว.พาณิชย์ รมว.เกษตรฯ และรมว.คลัง จึงสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ตามที่คณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 1) ได้
ครม.ไฟเขียวซื้อปุ๋ยนอก300ล้าน
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ครม. เห็นชอบในหลักการอนุมัติงบประมาณ 300 ล้านบาทแรกเพื่อเข้าไปจัดการซื้อปุ๋ยจากนอกประเทศเพื่อแก้ปัญหาปุ๋ยราคาแพง โดยให้กระทรวงเกษตรฯและสำนักงบประมาณไปจัดสรรงบกลางขณะเดียวกัน นายสมัคร นายกรัฐมนตรี รับที่จะไปเป็นตัวกลางเพื่อติดต่อการนำเข้าปุ๋ยล๊อตใหญ่จากประเทศอินโดนีเซีย โดยให้กระทรวงเกษตรฯ ไปสอบราคาก่อนความต้องการ รวมทั้งจัดทำรายละเอียดว่าต้องการปุ๋ยชนิดใด และจำนวนเท่าใดก่อน
“อาจเป็นการดำเนินการแบบเคาท์เตอร์เทรด (การทำการค้าต่างตอบแทน) ไม่ใช่แบบบาร์เตอร์เทรด(แลกเปลี่ยนสินค้า) ขณะนี้ยังไม่ได้คิดว่าจะใช้สินค้าเกษตรตัวใด เพราะต้องดูว่าประเทศอินโดนีเซียต้องการสินค้าเกษตรตัวใด”
สำหรับงบประมาณ 300 ล้านบาทแรก คาดว่าจะได้ปริมาณปุ๋ยกว่า 20,000 ตัน ซึ่งกระบวนการทั้งหมดน่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 - 3 สัปดาห์ จากนั้นจะพิจารณานำเข้าล็อตใหญ่อีกครั้ง ขณะเดียวกันกรมวิชาการกษตร กระทรวงเกษตรฯ จะรับไปดำเนินการพัฒนาปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมีที่จะต้องลดปริมาณลงด้วย