"มิ่งขวัญ" ปัดฝุ่นโครงการเมดอินไทยแลนด์ ลั่นผลักดันเป็นวาระแห่งชาติ โหมกระแสไทยทำไทยใช้ไทยเจริญ ปะรูรั่วเงินตราต่างประเทศ หลังโครงการธงฟ้าล้มเหลวไม่เป็นท่า และโดนสั่งระงับในที่สุด
วันนี้ (9 มิ.ย.) นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า รัฐบาลได้เตรียมจัดให้โครงการเมดอินไทยแลนด์ เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อช่วยแก้ปัญหาค่าครองชีพและลดค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน โดยต้องการปลุกกระแสให้คนไทยหันมาใช้สินค้าบริการในประเทศ เพื่อลดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ หลังจากที่ผ่านมาไทยต้องสูญเสียเงินตราออกนอกประเทศต่อปีเป็นจำนวนมหาศาลและส่งผลให้ไทยต้องขาดดุลการค้า
"เมดอินไทยแลนด์จะเป็นยุทธศาสตร์ชาติอย่างหนึ่งที่จะช่วยแก้ไขปัญหาดุลการค้าและลดภาระประชาชนในประเทศ โดยงานแรกสั่งให้กรมส่งเสริมการส่งออก ทบทวนแผนการจัดงานเมดอินไทยแลนด์ที่เคยโด่งดังเมื่อ 20 ปีก่อน กลับมาโปรโมทสินค้าไทยให้ยิ่งใหญ่อีกครั้ง เพื่อใช้เป็นโครงการนำร่องปลุกกระแสให้คนไทยตื่นตัวบริโภคสินค้าในประเทศ"
นอกจากนี้ รัฐบาลจะเชิญบริษัทในประเทศที่รับจ้างผลิตสินค้าให้กับแบรนด์ดังระดับโลก นำสินค้ามาตรฐานสากลทุกประเภทมาจำหน่ายในงานเมดอินไทยแลนด์ แต่ทั้งนี้ต้องได้รับอนุญาตจากบริษัทแม่ในด้านลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาให้เรียบร้อยก่อน เพื่อให้คนไทยได้ใช้ของดีมีคุณภาพในราคาถูก รวมทั้งยังช่วยสนับสนุนผู้ผลิตในประเทศได้ผลิตสินค้าที่มีมาตรฐานสากลด้วย
นายมิ่งขวัญ ยังกล่าวว่า ได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ทั่วโลกทบทวนแผนการส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ และจัดหาตลาดใหม่โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่กำลังขยายตัวทางเศรษฐกิจหรือเศรษฐีใหม่ รวมถึงทบทวนการใช้ระบบการค้าแลกเปลี่ยน (บาร์เตอร์เทรด)ในการเพิ่มการค้าระหว่างประเทศให้มากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ดี สำหรับเป้าหมายการส่งออกปีนี้ที่ตั้งไว้ 12.5% นั้น ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่มีผลต่อการขยายตัวของการส่งออก คือ ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและส่งผลกระทบต่อค่าครองชีพและเงินเฟ้อให้สูงขึ้นตาม
