วานนี้ ( 8 เม.ย.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เปิดโอกาสให้ นายบรรหาร ศิลปะอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย นายเกษม สรศักดิ์เกษม รองเลขาธิการพรรค ในฐานะประธานฝ่ายกฎหมายพรรค นายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรค นายอนุรักษ์ จุรีมาศ รองหัวหน้าพรรค นายอรรคพล สรสุชาติ สมาชิกพรรค และ นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รักษการหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ รองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย เข้าชี้แจงกรณีที่กกต.กำลังจะพิจารณายุบพรรค
ทั้งนี้หลังการชี้แจง นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต.กล่าวว่า ขณะที่กกต. ยังไม่มีการพิจารณาแค่รับฟังการชี้แจงของ 2 พรรค หลังจากนี้ก็จะมาตกหนักที่ตน ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ที่จะต้องทำความเห็นในเบื้องต้นว่าสมควรที่จะเสนอให้มีการยุบทั้ง 2 พรรคหรือไม่ ซึ่งที่ประชุมกกต. ได้มีการหารือกันว่าอยากจะทำเรื่องนี้ให้เสร็จโดยเร็วก่อนสงกรานต์ จึงมีมติให้ตนทำความเห็นส่งในวันที่ 11 เม.ย. ซึ่งหากตนมีความเห็นว่าไม่ควรยุบทั้ง 2 พรรคก็ไม่จำเป็นที่ต้องเสนอให้ที่ประชุมกกต.ให้ความเห็นชอบ แต่หากเห็นว่า สมควรให้ส่งยุบพรรคก็ต้องเสนอต่อที่ประชุม โดยตามกฏหมายกำหนดว่าให้เป็นมติ เสียงข้างมาก
อย่างไรก็ตามในการประชุมวันที่ 11 เม.ย ไม่สามารถยืนยันได้ว่า เมื่อตน ส่งความเห็นให้ที่ประชุมแล้ว กกต.จะสามารถมีมติได้หรือไม่ แต่ส่วนตัวคิดว่า ถ้าไม่มีปัญหาอะไรมาก็น่าจะส่งมติได้เลย
ด้านนายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวว่า การรับฟังการชี้แจงครั้งนี้ถือว่ามีเหตุมีผลเพียงพอ และถ้านายทะเบียนพรรคการเมือง ทำความเห็นมาก็สามารถลงมติได้เลย ซึ่งการพิจารณาของกกต.จะไม่นำประเด็นทางการเมืองหรือคำทำนายของโหรที่ระบุว่า บ้านเมืองจะเกิดวิกฤตมาพิจารณา แต่ประเด็นที่ต้องนำมาประกอบการใช้ดุลพินิจ คือ ข้อเท็จจริงและหลักกฎหมายเป็นหลัก หากจะพิจารณาก็ควรยึดหลักธรรมะที่ว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วมากกว่า
อย่างไรก็ตามหลังการเข้าชี้แจงของ 2 พรรคการเมือง นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวด้วยสีหน้าสดใสว่า ในการชี้แจงได้นำที่ปรึกษากฎหมาย ที่ยังมีความคิดเห็นแย้งมาชี้แจงเพิ่มเติมร่วมกับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งพานักวิชาการอิสระ 2 คน มาเสนอข้อมูลทางรัฐศาสตร์ที่ยังมีปัญหาและอยากฝากให้กกต.พิจารณาด้วย ซึ่งกกต.ก็ระบุว่าจะพิจารณาตามความเหมาะสม โดยถือว่าการชี้แจงครั้งนี้ได้ชี้แจงอย่างชัดเจนแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าชี้แจงแล้วมั่นใจหรือไม่ว่ากกต.จะไม่ส่งเรื่องยุบพรรค นายบรรหาร กล่าวว่า ตอบไม่ได้ แต่ก็มีความมั่นใจในระดับหนึ่ง เพราะถือว่าเราได้ ชี้แจง ข้อมูลครบถ้วนแล้ว ซึ่งต้องขอขอบคุณกกต.ที่เปิดโอกาสให้มาทาง พรรคชาติไทยมาชี้แจง
ส่วนนายเกษม กล่าวว่า ทางพรรคชาติไทยตีความว่า ตามมาตรา 103 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้ซึ่ง ส.ว นั้นน่าจะเป็นคนละคนกันในการทำผิด โดยการตีความกฎหมาย ไม่ควรนำกฎหมายทั้ง 2 วรรคมาตีความรวมกัน แต่ควรตีความแค่วรรคใดวรรคหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้ทางพรรคเห็นว่า การกระทำความผิดน่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว และหากกกต. เห็นว่าควรส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค ก็คงต้องสู้ไปตามกระบวนการกฎหมาย เรื่องนี้ไม่น่าจะมีปัญหา
ส่วนนางอนงค์วรรณ กล่าวว่า กกต. สนใจในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของ กรรมการบริหารพรรค และสอบถามเกี่ยวกับข้อบังคับพรรค ในกรณีที่หัวหน้าพรรค ไม่อยู่ใครจะปฏิบัติหน้าที่แทน ซึ่งตนก็ชี้แจงว่าเป็นหน้าที่ของรองหัวหน้าพรรค คนที่หนึ่ง และหลังจากชี้แจงแล้วก็รู้สึกสบายใจ ไม่ว่ามติออกมาอย่างไรก็ยอมรับ แต่ตนก็หวังว่า กกต. จะไม่ส่งเรื่องยุบพรรคมัชฌิมาธิปไตยไปยังศาลรัฐธรรมนูญ
วันเดียวกัน อาจารย์วิสาระ ประนมกรณ์ นักพยากรณ์ชื่อดัง ทำนายดวงของ พรรคการเมืองไทยแต่ละพรรคว่า พรรคพลังประชาชน เกิดวันจันทร์ที่ 9 พ.ย.2541 อายุ 10 ปี เกิดข้างแรม เดือนพ.ย. ปีขาล อายุ10 ปี ใน พ.ศ.2551 พรรคพลังประชาชน ผู้คนในพรรคมีสติปัญญาในการพูด จะพูดแบบนักธุรกิจ พูดแบบนักการเมือง พูดแบบง่ายๆ เบี่ยงๆ เรียบๆ เคียงๆ พูดไม่เสียเปรียบใคร มีแต่ได้เปรียบคน ผู้คนในพรรคจะจัดฉากสร้างภาพ โฆษณาชวนเชื่อ สามารถจะพูดได้ทุกเรื่อง ทุกอย่างที่ไม่ใช่ความจริง เพื่อให้ตัวเองได้ผลประโยชน์ ในยามคับขันสามารถเอาตัวรอดได้ ในด้านสุขภาพจิตของคนในพรรคจะมีเรื่องกระแทกกระทั้นเข้ามาและจะหาทางออกให้กับพรรคไม่ได้ในช่วงนี้ เพราะจะมีแต่เรื่องมากดดัน
หน้าที่จะรับผิดชอบคือเรื่องเงิน เรื่องงาน มีข่าวร้ายลอยมาที ก็จะเสียเงินที จะเจอความสับปลับ หลอกลวงจากผู้อื่น หรือตนเอง จะแก้ปัญหาด้วยเงินตราก็คงไม่จบ จุดอ่อนในปีนี้เจอแต่ความวู่วาม และสับสน คนที่มาเกี่ยวข้อง ถ้าเค้าเกิดหวาดระแวงกะทันหัน จะทำให้เสียโอกาส และเสียใจตามมา
เดือนเม.ย.และ พ.ค. ถึง ก.ค.จะอยู่กับตัวเลขลางร้าย จะใช้อารมณ์เข้าไป เป็นเรื่องตัดสิน จะไม่ประสบความสำเร็จ จะล้มเหลว เรื่องเก่าจะถูกรื้อฟื้น จะยืนหยัดอยู่ไม่ได้ ผลสุดท้ายก็ต้องถูกเปลี่ยนแปลงไป ถ้าพรรคเกิดในวันที่ 9 พ.ย.2541 จริง ก็จะเป็นไปตามเลขรหัสเข้าไปตัดสิน ถ้าไม่ได้เกิดในวันที่นี้ เหตุการณ์ก็จะเปลี่ยนแปลงไปอีกแบบหนึ่ง
ส่วนพรรคชาติไทย เกิดวันที่ 21 พ.ย. 2517 อายุ 34 ปี เกิดข้างขึ้น เลขรหัสของพรรคจะมีการเปลี่ยนแปลงแบบสับสน สิ่งที่หวังจะพลิกล็อคออกไปนอกทาง ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี เหมือนคนเมา เดือนเม.ย.นี้ หน้าที่การงานความเป็นอยู่ จำเป็นจะต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิงอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าจะต้องเข้าใจผิดกัน แต่ก็ต้องรักษาหน้าเอาไว้ ไม่ให้ความสัมพันธ์นั้นต้องขาดสะบั้นลงเร็วนัก ถึงแม้จะต้านทานอย่างไร ก็จะทำให้เสียกำลังใจ ต้องถอยไปตั้งหลักไปพักเอาเรี่ยวเอาแรง สำหรับพรรคชาติไทย ถ้าเกิดวันที่ 21 พ.ย. 2517 จริง ก็จะเป็นไปตามเลขรหัสเข้าไปตัดสิน
ส่วนพรรคมัชฌิมาประชาธิปไตยนั้น เกิดวันที่ 28 ส.ค. 2550 อายุ 1 ปี เกิดข้างขึ้น เลขรหัสชีวิตพรรคปีนี้อายุ 1 ปีนั้น ตกเลขพระยาสิงห์เจ็บป่วย ต้องนอนเฝ้าถ้ำ จะออกมาโลนโผนไม่ได้ จะกลายเป็นเหยื่อพวกสัตว์เล็กสัตว์น้อย โดยไม่มีแรงจะต่อสู้ บริวารจะไม่มีวินัย ไม่มีเหตุผล จะได้คนที่ไม่มีคุณธรรมมาอยู่ร่วมชายคา เป็นที่น่ารำคาญ จะต้องอดทนฝืนพูดดีเข้าไว้เพื่อให้เขาทำหน้าที่ ที่ถูกต้อง
เลขรหัสของพรรค เดือนเม.ย. พ.ค. ถึงก.ค. ก็จะไปไม่รอด เพราะมีแต่เลขลางร้ายทำมุมไว้ 360 องศา พาให้อับเฉา
บทสรุปของทั้ง 3 พรรคที่กล่าวมาไปไม่รอด โดนยุบพรรคแน่นอน ถ้าเกิดในวันที่ 28 ส.ค. 2550 จริงก็จะเป็นไปตามเลขรหัสเข้าไปตัดสิน ถ้ายื้อเหตุการณ์ให้ถึง พ.ย. ก็จะไปรอด
ทั้งนี้หลังการชี้แจง นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต.กล่าวว่า ขณะที่กกต. ยังไม่มีการพิจารณาแค่รับฟังการชี้แจงของ 2 พรรค หลังจากนี้ก็จะมาตกหนักที่ตน ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ที่จะต้องทำความเห็นในเบื้องต้นว่าสมควรที่จะเสนอให้มีการยุบทั้ง 2 พรรคหรือไม่ ซึ่งที่ประชุมกกต. ได้มีการหารือกันว่าอยากจะทำเรื่องนี้ให้เสร็จโดยเร็วก่อนสงกรานต์ จึงมีมติให้ตนทำความเห็นส่งในวันที่ 11 เม.ย. ซึ่งหากตนมีความเห็นว่าไม่ควรยุบทั้ง 2 พรรคก็ไม่จำเป็นที่ต้องเสนอให้ที่ประชุมกกต.ให้ความเห็นชอบ แต่หากเห็นว่า สมควรให้ส่งยุบพรรคก็ต้องเสนอต่อที่ประชุม โดยตามกฏหมายกำหนดว่าให้เป็นมติ เสียงข้างมาก
อย่างไรก็ตามในการประชุมวันที่ 11 เม.ย ไม่สามารถยืนยันได้ว่า เมื่อตน ส่งความเห็นให้ที่ประชุมแล้ว กกต.จะสามารถมีมติได้หรือไม่ แต่ส่วนตัวคิดว่า ถ้าไม่มีปัญหาอะไรมาก็น่าจะส่งมติได้เลย
ด้านนายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวว่า การรับฟังการชี้แจงครั้งนี้ถือว่ามีเหตุมีผลเพียงพอ และถ้านายทะเบียนพรรคการเมือง ทำความเห็นมาก็สามารถลงมติได้เลย ซึ่งการพิจารณาของกกต.จะไม่นำประเด็นทางการเมืองหรือคำทำนายของโหรที่ระบุว่า บ้านเมืองจะเกิดวิกฤตมาพิจารณา แต่ประเด็นที่ต้องนำมาประกอบการใช้ดุลพินิจ คือ ข้อเท็จจริงและหลักกฎหมายเป็นหลัก หากจะพิจารณาก็ควรยึดหลักธรรมะที่ว่าทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วมากกว่า
อย่างไรก็ตามหลังการเข้าชี้แจงของ 2 พรรคการเมือง นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย กล่าวด้วยสีหน้าสดใสว่า ในการชี้แจงได้นำที่ปรึกษากฎหมาย ที่ยังมีความคิดเห็นแย้งมาชี้แจงเพิ่มเติมร่วมกับข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งพานักวิชาการอิสระ 2 คน มาเสนอข้อมูลทางรัฐศาสตร์ที่ยังมีปัญหาและอยากฝากให้กกต.พิจารณาด้วย ซึ่งกกต.ก็ระบุว่าจะพิจารณาตามความเหมาะสม โดยถือว่าการชี้แจงครั้งนี้ได้ชี้แจงอย่างชัดเจนแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่าชี้แจงแล้วมั่นใจหรือไม่ว่ากกต.จะไม่ส่งเรื่องยุบพรรค นายบรรหาร กล่าวว่า ตอบไม่ได้ แต่ก็มีความมั่นใจในระดับหนึ่ง เพราะถือว่าเราได้ ชี้แจง ข้อมูลครบถ้วนแล้ว ซึ่งต้องขอขอบคุณกกต.ที่เปิดโอกาสให้มาทาง พรรคชาติไทยมาชี้แจง
ส่วนนายเกษม กล่าวว่า ทางพรรคชาติไทยตีความว่า ตามมาตรา 103 วรรคหนึ่งและวรรคสอง ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้ซึ่ง ส.ว นั้นน่าจะเป็นคนละคนกันในการทำผิด โดยการตีความกฎหมาย ไม่ควรนำกฎหมายทั้ง 2 วรรคมาตีความรวมกัน แต่ควรตีความแค่วรรคใดวรรคหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้ทางพรรคเห็นว่า การกระทำความผิดน่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว และหากกกต. เห็นว่าควรส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค ก็คงต้องสู้ไปตามกระบวนการกฎหมาย เรื่องนี้ไม่น่าจะมีปัญหา
ส่วนนางอนงค์วรรณ กล่าวว่า กกต. สนใจในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของ กรรมการบริหารพรรค และสอบถามเกี่ยวกับข้อบังคับพรรค ในกรณีที่หัวหน้าพรรค ไม่อยู่ใครจะปฏิบัติหน้าที่แทน ซึ่งตนก็ชี้แจงว่าเป็นหน้าที่ของรองหัวหน้าพรรค คนที่หนึ่ง และหลังจากชี้แจงแล้วก็รู้สึกสบายใจ ไม่ว่ามติออกมาอย่างไรก็ยอมรับ แต่ตนก็หวังว่า กกต. จะไม่ส่งเรื่องยุบพรรคมัชฌิมาธิปไตยไปยังศาลรัฐธรรมนูญ
วันเดียวกัน อาจารย์วิสาระ ประนมกรณ์ นักพยากรณ์ชื่อดัง ทำนายดวงของ พรรคการเมืองไทยแต่ละพรรคว่า พรรคพลังประชาชน เกิดวันจันทร์ที่ 9 พ.ย.2541 อายุ 10 ปี เกิดข้างแรม เดือนพ.ย. ปีขาล อายุ10 ปี ใน พ.ศ.2551 พรรคพลังประชาชน ผู้คนในพรรคมีสติปัญญาในการพูด จะพูดแบบนักธุรกิจ พูดแบบนักการเมือง พูดแบบง่ายๆ เบี่ยงๆ เรียบๆ เคียงๆ พูดไม่เสียเปรียบใคร มีแต่ได้เปรียบคน ผู้คนในพรรคจะจัดฉากสร้างภาพ โฆษณาชวนเชื่อ สามารถจะพูดได้ทุกเรื่อง ทุกอย่างที่ไม่ใช่ความจริง เพื่อให้ตัวเองได้ผลประโยชน์ ในยามคับขันสามารถเอาตัวรอดได้ ในด้านสุขภาพจิตของคนในพรรคจะมีเรื่องกระแทกกระทั้นเข้ามาและจะหาทางออกให้กับพรรคไม่ได้ในช่วงนี้ เพราะจะมีแต่เรื่องมากดดัน
หน้าที่จะรับผิดชอบคือเรื่องเงิน เรื่องงาน มีข่าวร้ายลอยมาที ก็จะเสียเงินที จะเจอความสับปลับ หลอกลวงจากผู้อื่น หรือตนเอง จะแก้ปัญหาด้วยเงินตราก็คงไม่จบ จุดอ่อนในปีนี้เจอแต่ความวู่วาม และสับสน คนที่มาเกี่ยวข้อง ถ้าเค้าเกิดหวาดระแวงกะทันหัน จะทำให้เสียโอกาส และเสียใจตามมา
เดือนเม.ย.และ พ.ค. ถึง ก.ค.จะอยู่กับตัวเลขลางร้าย จะใช้อารมณ์เข้าไป เป็นเรื่องตัดสิน จะไม่ประสบความสำเร็จ จะล้มเหลว เรื่องเก่าจะถูกรื้อฟื้น จะยืนหยัดอยู่ไม่ได้ ผลสุดท้ายก็ต้องถูกเปลี่ยนแปลงไป ถ้าพรรคเกิดในวันที่ 9 พ.ย.2541 จริง ก็จะเป็นไปตามเลขรหัสเข้าไปตัดสิน ถ้าไม่ได้เกิดในวันที่นี้ เหตุการณ์ก็จะเปลี่ยนแปลงไปอีกแบบหนึ่ง
ส่วนพรรคชาติไทย เกิดวันที่ 21 พ.ย. 2517 อายุ 34 ปี เกิดข้างขึ้น เลขรหัสของพรรคจะมีการเปลี่ยนแปลงแบบสับสน สิ่งที่หวังจะพลิกล็อคออกไปนอกทาง ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรดี เหมือนคนเมา เดือนเม.ย.นี้ หน้าที่การงานความเป็นอยู่ จำเป็นจะต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิงอยู่ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าจะต้องเข้าใจผิดกัน แต่ก็ต้องรักษาหน้าเอาไว้ ไม่ให้ความสัมพันธ์นั้นต้องขาดสะบั้นลงเร็วนัก ถึงแม้จะต้านทานอย่างไร ก็จะทำให้เสียกำลังใจ ต้องถอยไปตั้งหลักไปพักเอาเรี่ยวเอาแรง สำหรับพรรคชาติไทย ถ้าเกิดวันที่ 21 พ.ย. 2517 จริง ก็จะเป็นไปตามเลขรหัสเข้าไปตัดสิน
ส่วนพรรคมัชฌิมาประชาธิปไตยนั้น เกิดวันที่ 28 ส.ค. 2550 อายุ 1 ปี เกิดข้างขึ้น เลขรหัสชีวิตพรรคปีนี้อายุ 1 ปีนั้น ตกเลขพระยาสิงห์เจ็บป่วย ต้องนอนเฝ้าถ้ำ จะออกมาโลนโผนไม่ได้ จะกลายเป็นเหยื่อพวกสัตว์เล็กสัตว์น้อย โดยไม่มีแรงจะต่อสู้ บริวารจะไม่มีวินัย ไม่มีเหตุผล จะได้คนที่ไม่มีคุณธรรมมาอยู่ร่วมชายคา เป็นที่น่ารำคาญ จะต้องอดทนฝืนพูดดีเข้าไว้เพื่อให้เขาทำหน้าที่ ที่ถูกต้อง
เลขรหัสของพรรค เดือนเม.ย. พ.ค. ถึงก.ค. ก็จะไปไม่รอด เพราะมีแต่เลขลางร้ายทำมุมไว้ 360 องศา พาให้อับเฉา
บทสรุปของทั้ง 3 พรรคที่กล่าวมาไปไม่รอด โดนยุบพรรคแน่นอน ถ้าเกิดในวันที่ 28 ส.ค. 2550 จริงก็จะเป็นไปตามเลขรหัสเข้าไปตัดสิน ถ้ายื้อเหตุการณ์ให้ถึง พ.ย. ก็จะไปรอด