“พ่อเนวิน” กระย่องกระแย่งขึ้นนั่งเก้าอี้ทั่นประธานสภาผู้แทนฯ สมใจ มติที่ประชุมลับลงมติหนุน 283 คะแนน ส่วน “บัญญัติ” ได้ 158 คะแนน ด้าน “ปลาไหล” สร้างปรากฏการณ์ใหม่งดออกเสียง 12 เสียง ขณะที่บางส่วนได้เทเสียงให้ฝ่ายค้านด้วย
วันนี้ (12 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรจะเริ่มขึ้นในเวลา 09.00 น. โดยมีวาระด่วนเป็นการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร แทน นายยงยุทธ ติยะไพรัช ที่ลาออกไป โดยการลงมติจะเป็นการลงคะแนนลับ และถือเป็นเอกสิทธิ์ของ ส.ส.ที่จะตัดสินใจโดยไม่จำเป็นต้องทำตามมติพรรค
ทั้งนี้ พรรคพลังประชาชนได้เสนอชี่อ นายชัย ชิดชอบ ประธานวิปรัฐบาลเข้าชิงตำแหน่ง ขณะที่ฝ่ายค้านเสนอชื่อ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน รองประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์เข้าแข่งขัน ขณะเดียวกัน มีกระแสข่าวความไม่พอใจจากพรรคชาติไทย หลังผลประชุมนัดพิเศษเมื่อค่ำวานนี้ ระบุว่าจะงดออกเสียงหรือปล่อยให้ฟรีโหวตในวันลงมติเพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรด้วย ขณะเดียวกันในช่วงเช้าวันนี้พรรคชาติไทยยังยืนยันที่จะงดออกเสียง
ด้าน นายชัย ชิดชอบ ซึ่งเป็นผู้จะได้รับการเสนอชื่อให้ชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ มั่นใจว่าการลงมติในการประชุมวันนี้จะไม่มีปัญหา เพราะผู้ใหญ่ในพรรคได้ประสานกับพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว และไม่ติดใจกับท่าทีของนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย
อย่างไรก็ตาม นายชัย ยืนยันว่า พร้อมทำหน้าที่แม้จะอายุมากแล้ว และการเป็นประธานนั้นต้องอยู่ในที่ประชุมเป็นเวลานาน ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมเพื่อลงมติก็จะทราบว่าผลการลงคะแนนจะเป็นอย่างไร
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทย กล่าวว่า การงดออกเสียงเลือกนายชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ของพรรคชาติไทย คงไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของรัฐบาล เพราะเป็นเรื่องของสภาฯ ต้องแยกออกจากกันระหว่างรัฐบาลกับสภาฯ
“สาเหตุที่พรรคไม่ต้องการออกเสียง เพราะลูกพรรคหลายคนรู้สึกว่า พรรคพลังประชาชนเรียกประชุมสภาฯ เร่งรีบเกินไป ซึ่งต้องเห็นใจเราด้วย ในส่วนของสภาฯ ลูกพรรคไม่ค่อยพอใจ และพรรคก็มีคนรุ่นใหม่เยอะ จึงเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง และที่นายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคไม่พอใจเรื่องนี้ เพราะไม่ได้รับการติดต่อล่วงหน้า อยู่ดีๆ ก็มาเรียกประชุม ทุกอย่างเลยดูฉุกเฉินไปหมด” พล.ต.สนั่น กล่าว
อย่างไรก็ตาม พล.ต.สนั่น กล่าวว่า คงบอกไม่ได้ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่ขณะนี้เรื่องเลือกประธานสภาฯ ที่ประชุมพรรคชาติไทยของดออกเสียงก่อน แต่ไม่ถึงขนาดยกมือสวน เพราะจะเป็นการเสียหาย เนื่องจากเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เดินทางมาร่วมประชุมสภาฯ เวลา 09.50 น.เพื่อร่วมลงมติเลือกประธานสภาฯ และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ว่าพรรคชาติไทยงดออกเสียงจะมีผลกระทบต่อรัฐบาลหรือไม่
ขณะที่ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน รองประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นผู้ที่พรรคจะเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับเสียงสนับสนุน แม้ว่าพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคจะมีท่าทีไม่พอใจกับการเสนอชื่อนายชัย ชิดชอบ แต่การเสนอชื่อของพรรคประชาธิปัตย์เพื่อยืนยันว่า พรรคฯ มีบุคลากรพร้อมทำหน้าที่ได้ พร้อมกันนี้ ขอเรียกร้องให้ ส.ส.คำนึงถึงภาพลักษณ์ของตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร และใช้อิสระในการตัดสินใจ
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการลงมติในทางลับปรากฏออกมาว่า นายชัยได้รับเลือกไปด้วยคะแนน 283 เสียง ขณะที่ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน จากพรรคประชาธิปัตย์ ได้ 158 คะแนน ขณะเดียวกันมีสมาชิกงดออกเสียง 12 คน ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า มี ส.ส.จากพรรคชาติไทยบางส่วนจากทั้งหมดจำนวน 34 คน ได้เทเสียงให้นายบัญญัติด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมสภาผู้แทนฯ วาระพิเศษในวันนี้ ปรากฏว่านายบรรหารไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย โดยอ้างว่าติดภารกิจ ซึ่งบางกระแสบอกว่าอยู่ที่ต่างจังหวัด ขณะที่บางกระแสบอกว่าไปชี้แจงเรื่องคดียุบพรรค
สำหรับบรรยากาศการประชุมสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่เช้า ที่มี นาย สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่งทำหน้าที่ประธานที่ประชุม
ทันทีที่เริ่มประชุมนาย อลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ได้สอบถามถึงกรณีสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรใช้วิธีส่งเอสเอ็มเอสนัดประชุมเมื่อวันเสาร์ที่10 พ.ค.ที่ผ่านมาเวลา 16.10 น.ว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนอะไรที่ต้องใช้วิธีนัดประชุมเช่นนี้และส.ส.จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นการส่งข้อความจากสำนักงานเลขาธิการสภาฯจริงๆ ที่สำคัญการเสนอชื่อบุคคลเป็นประธานสภาฯครั้งนี้ก็เสนอชื่อคนที่อาจมีปัญหาต้องมัวหมองต้องคดีรุกที่ดินรถไฟจึงไม่ควรให้สภาผู้แทนราษฎรต้องมาเป็นภาระอีกเพราะตนเคยท้วงติงกรณีที่ประธานสภาฯอาจมีปัญหาไปแล้วและต่อมาก็เกิดเหตุอย่างนั้นขึ้นจริงๆ
ขณะที่นาย สุทัศน์ เงินหมื่น ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ ได้สอบถามว่าในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพฤหัสที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมาตนและส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ได้รอฟังอยู่ว่ารองประธานสภาฯจะนัดประชุมในวันใดพอตกเย็นก็ทราบว่าจะมีการเรียกประชุมในวันพุธที่ 14 พ.ค.จึงอยากรู้ว่าเหตุใดจึงมีการเปลี่ยนแปลงรีบเร่ง
ด้านนาย สมศักดิ์ ชี้แจงว่า ตอนแรกตนตั้งใจจะเรียกประชุมในวันจันทร์ที่ 12 พ.ค.แต่ก็มีส.ส.หลายคนท้วงติงว่าไม่สะดวกเพราะพรรคพลังประชาชนจะต้องเรียกประชุมในวันอาทิตย์ จึงตัดสินใจให้ไปประชุมเป็นวันพุธที่14 พ.ค. แต่พอส.ส.บางคนในพรรคพลังประชาชนรับทราบก็ไม่เข้าใจ และกลัวว่าตนจะไปทำอะไรที่ไม่ดีไม่ชอบที่ยืดเวลาออกไป ในที่สุดเพื่อให้เกิดความสบายใจแก่ทุกฝ่ายจึงเลื่อนประชุมมาเป็นวันที่ 12 พ.ค.และได้ลงนามเรียกประชุมด่วนตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา
จากนั้นที่ประชุมได้เข้าสู่วาระเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรทันที โดยนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เสนอชื่อนาย บัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นประธานสภาฯ ขณะที่นาย นิสิต สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคพลังประชาชนเสนอชื่อนาย ชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภาฯ
จากนั้นนาย สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ รองประธานสภา ซึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้ให้ที่ประชุมลงคะแนนลับด้วยการเขียนชื่อผู้ที่ต้องการให้เป็นประธานสภาฯลงในกระดาษใส่ซองจดหมาย แม้ว่าส.ส.พรรคประชาธิปัตย์จะพยายามประท้วงขอให้เปลี่ยนเป็นการทำเครื่องหมายหน้าชื่อแทนโดยให้เหตุผลว่าการเขียนชื่อทำให้มีการตรวจสอบลายมือได้ง่ายแต่นายสมศักดิ์ไม่อนุญาต
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าทันทีที่มีการลงคะแนนส.ส.ของพรรคชาติไทยก็เริ่มเดินเข้าห้องประชุมโดยไม่มีบุคคลสำคัญ เช่น นาย บรรหาร ศิลปะอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย น.ส. กัญจนา ศิลปอาชา ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทย และ นาย ยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร เข้าประชุม
ภายหลังการนับคะแนนเสร็จสิ้น นายสมศักดิ์ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่ามีผู้เลือกนาย ชัย ชิดชอบ เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 283 คน เลือกนายบัญญัติ จำนวน 158 คน งดออกเสียง 12 จากผู้เข้าประชุมทั้งสิ้น 454 คน อย่างไรก็ตาม นาย บุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม พรรคประชาธิปัตย์ ได้ท้วงติงถึงผลรวมคะแนน เนื่องจากได้คะแนนรวมกัน 453 ขณะที่มีผู้ร่วมประชุมจำนวน 454 ซึ่งเท่ากับมีเสียงหายไป1 เสียงและขอให้ชี้แจง แต่นายสมศักดิ์กลับสั่งปิดการประชุมทันทีเมื่อเวลา 12.00 น.
อย่างไรก็ตามในส่วนคะแนนของนายบัญญัตินั้น เป็นที่น่าสังเกตว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่มีจำนวนทั้งหมด 164 คน แต่มาร่วมประชุม156 คน ทำให้เป็นที่กังขากันว่า เสียงอีก 2 คะแนนที่โหวตให้นายบัญญัตินั้นมาจากส.ส.คนไหนในฝ่ายรัฐบาล
/0110
