เอเอฟพี – ออสเตรเลียอาจประกาศให้เลเซอร์ พอยน์เตอร์ เป็นอาวุธต้องห้าม หลังนักบินถูก “โจมตี” ต่อเนื่องเป็นชุดขณะนำเครื่องลงที่สนามบินซิดนีย์ ทั้งนี้เป็นการแถลงของเจ้าหน้าที่ทางการของออสเตรเลียแถลงเมื่อวันพุธที่ผ่านมา(2)
นอกจากนั้นยังเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว(28มี.ค.) กล่าวคือ เครื่องบิน 6 ลำต้องเปลี่ยนเส้นทางบินหลังจากที่มีผู้ยิงแสงเลเซอร์สีเขียวไปยังห้องนักบินเป็นเวลานานกว่า 15 นาที
“รัฐมนตรีมหาดไทยกำลังตรวจสอบว่าจะประกาศให้อุปกรณ์ดังกล่าวนี้เป็นอาวุธต้องห้ามได้หรือไม่” มอร์ริส เล็มมาผู้ว่าการรัฐนิวเซาท์เวลส์ ระบุ
“พวกที่ล้อเล่นคิดว่ามันตลก แต่มันไม่ตลกหรอกถ้าหากนักบินเกิดตาบอดขึ้นมากระทันหันแล้วทำให้เครื่องบินตก มันอาจทำให้คนตายนับสิบหรือนับร้อย ทั้งคนบนเครื่องและคนที่อยู่บนพื้นดิน มันอาจจะกลายเป็นฆาตกรรมหมู่ไปก็ได้”
บ๊อบ ดีบัส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า หน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาลกลางได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะในเรื่องวิธีการรับมือกับการโจมตีด้วยเลเซอร์บนเครื่องบิน ให้เสร็จภายในวันศุกร์ พร้อมกับยังระบุถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดล่าสุดเมื่อคืนวันอังคาร(1)ว่า
“การใช้เลเซอร์โจมตีเครื่องบินในเส้นทางระหว่างแคร์นส์ไปยังซิดนีย์เมื่อคืนนี้ ทำให้ยิ่งต้องเร่งนำเสนอประเด็นดังกล่าวต่อรัฐบาล”
นอกจากนั้นเขายังเสริมว่า “ตอนนี้เรากำลังรับมือกับพฤติกรรมเชิงทำลายล้างอย่างรุนแรงแบบใหม่อย่างแท้จริง”
ปีเตอร์ กิบสัน โฆษกสำนักงานด้านความปลอดภัยการบินพลเรือน กล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยมีการร่วมมือกันเมื่อวันศุกร์นั้นน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง
“ปกติแล้วเราจะเจอคนยิงเลเซอร์มาแค่รายเดียวแล้วมันก็หายไป” เขาเล่า “มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นราวห้าหรือหกครั้งต่อสัปดาห์ ดังนั้นเกือบทุกวันจะมีใครสักคนในออสเตรเลียใช้เลเซอร์ พอยน์เตอร์ยิงมาที่เครื่องบิน
“ที่แย่ก็คือมันไม่สนุกเลย มันอันตรายต่างหาก”
กิบสันกล่าววว่านักบินบางคนรายงานว่าเกิดอาการตาบอดชั่วขณะและรู้สึกไม่สบายหลังจากที่ถูกแสงเลเซอร์ดังกล่าวยิงเข้าใส่
“แสงนี้ทำให้คุณวิงเวียน และอาจจะทำให้คุณตาบอดชั่วครู่ได้ ถ้าหากแสงเข้าตาพอดี” เขาบอก
เลเซอร์ พอยน์เตอร์ เป็นอุปกรณ์พกพาขนาดพอๆ กับปากกาแท่งหนึ่ง ปกติจะใช้ชี้นำสายตาในการนำเสนองานตามโรงเรียนหรือในบริษัทธุรกิจต่างๆ
ความแรงของแสงเลเซอร์มีแตกต่างกันไป ในออสเตรเลียกำหนดให้ใช้ความแรงไม่เกินหนึ่งมิลลิวัตต์ แตก็มีการซื้ออุปกรณ์ดังกล่าวขนาดความแรงสูงถึง 50 มิลลิวัตต์ผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้
ผู้จัดจำหน่ายเลเซอร์ พอยน์เตอร์รายหนึ่งระบุว่า แม้จะเป็นความแรงสูงดังกล่าว ก็ทำให้นักบินตาบอดได้ยากมาก เพราะนักบินอยู่บนที่สูงมาก และขับเครื่องบินซึ่งมีควมเร็วสูงมากเช่นกัน เขาจึงเห็นว่าข้ออ้างเรื่องทำให้นักบินตาบอดนั้นออกจะเกินจริงไป
นอกจากนั้นยังเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว(28มี.ค.) กล่าวคือ เครื่องบิน 6 ลำต้องเปลี่ยนเส้นทางบินหลังจากที่มีผู้ยิงแสงเลเซอร์สีเขียวไปยังห้องนักบินเป็นเวลานานกว่า 15 นาที
“รัฐมนตรีมหาดไทยกำลังตรวจสอบว่าจะประกาศให้อุปกรณ์ดังกล่าวนี้เป็นอาวุธต้องห้ามได้หรือไม่” มอร์ริส เล็มมาผู้ว่าการรัฐนิวเซาท์เวลส์ ระบุ
“พวกที่ล้อเล่นคิดว่ามันตลก แต่มันไม่ตลกหรอกถ้าหากนักบินเกิดตาบอดขึ้นมากระทันหันแล้วทำให้เครื่องบินตก มันอาจทำให้คนตายนับสิบหรือนับร้อย ทั้งคนบนเครื่องและคนที่อยู่บนพื้นดิน มันอาจจะกลายเป็นฆาตกรรมหมู่ไปก็ได้”
บ๊อบ ดีบัส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า หน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาลกลางได้ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจัดทำข้อเสนอแนะในเรื่องวิธีการรับมือกับการโจมตีด้วยเลเซอร์บนเครื่องบิน ให้เสร็จภายในวันศุกร์ พร้อมกับยังระบุถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดล่าสุดเมื่อคืนวันอังคาร(1)ว่า
“การใช้เลเซอร์โจมตีเครื่องบินในเส้นทางระหว่างแคร์นส์ไปยังซิดนีย์เมื่อคืนนี้ ทำให้ยิ่งต้องเร่งนำเสนอประเด็นดังกล่าวต่อรัฐบาล”
นอกจากนั้นเขายังเสริมว่า “ตอนนี้เรากำลังรับมือกับพฤติกรรมเชิงทำลายล้างอย่างรุนแรงแบบใหม่อย่างแท้จริง”
ปีเตอร์ กิบสัน โฆษกสำนักงานด้านความปลอดภัยการบินพลเรือน กล่าวว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยมีการร่วมมือกันเมื่อวันศุกร์นั้นน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง
“ปกติแล้วเราจะเจอคนยิงเลเซอร์มาแค่รายเดียวแล้วมันก็หายไป” เขาเล่า “มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นราวห้าหรือหกครั้งต่อสัปดาห์ ดังนั้นเกือบทุกวันจะมีใครสักคนในออสเตรเลียใช้เลเซอร์ พอยน์เตอร์ยิงมาที่เครื่องบิน
“ที่แย่ก็คือมันไม่สนุกเลย มันอันตรายต่างหาก”
กิบสันกล่าววว่านักบินบางคนรายงานว่าเกิดอาการตาบอดชั่วขณะและรู้สึกไม่สบายหลังจากที่ถูกแสงเลเซอร์ดังกล่าวยิงเข้าใส่
“แสงนี้ทำให้คุณวิงเวียน และอาจจะทำให้คุณตาบอดชั่วครู่ได้ ถ้าหากแสงเข้าตาพอดี” เขาบอก
เลเซอร์ พอยน์เตอร์ เป็นอุปกรณ์พกพาขนาดพอๆ กับปากกาแท่งหนึ่ง ปกติจะใช้ชี้นำสายตาในการนำเสนองานตามโรงเรียนหรือในบริษัทธุรกิจต่างๆ
ความแรงของแสงเลเซอร์มีแตกต่างกันไป ในออสเตรเลียกำหนดให้ใช้ความแรงไม่เกินหนึ่งมิลลิวัตต์ แตก็มีการซื้ออุปกรณ์ดังกล่าวขนาดความแรงสูงถึง 50 มิลลิวัตต์ผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้
ผู้จัดจำหน่ายเลเซอร์ พอยน์เตอร์รายหนึ่งระบุว่า แม้จะเป็นความแรงสูงดังกล่าว ก็ทำให้นักบินตาบอดได้ยากมาก เพราะนักบินอยู่บนที่สูงมาก และขับเครื่องบินซึ่งมีควมเร็วสูงมากเช่นกัน เขาจึงเห็นว่าข้ออ้างเรื่องทำให้นักบินตาบอดนั้นออกจะเกินจริงไป
