xs
xsm
sm
md
lg

อย่าหวังสปิริตจากรัฐบาลหุ่น!

เผยแพร่:   โดย: ราวี เวียงพยัคฆ์

หลังจากที่คณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) มีมติให้ตั้งข้อกล่าวหาการจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง กทม.มูลค่า 6,700 ล้านบาท นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ก็ประกาศหยุดปฏิบัติหน้าที่ในการทำงานในหน้าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครทันที

นายอภิรักษ์ แถลงว่า “ประเด็นสำคัญที่ผมยุติบทบาทครั้งนี้ ก็เพื่อแสดงสปิริตให้เห็นในทางการเมือง ผมสบายใจ และผมคิดว่าอันนี้จะเป็นแนวทางที่จะทำให้นักการเมืองแสดงความชัดเจนในการดำเนินการ และเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในกระบวนการที่ตนเองจะต้องไปต่อสู้ ถือเป็นแนวทางในจุดยืนทางการเมืองของผมเอง ไม่อยากให้มองไปว่าจะไปเกี่ยวข้องกับใคร หรือว่าในกรณีอื่น...”

แม้นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน จะได้บอกไว้ชัดเจนว่า ไม่อยากให้มองไปว่า การหยุดการปฏิบัติหน้าที่จะไปเกี่ยวข้องกับใคร

แต่ใครที่มีผลกระทบกับเรื่องนี้ก็สะดุ้งอยู่ดี

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นหนึ่งในจำนวนผู้ที่ คตส. กล่าวหาร่วมกับนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน บอกว่า สำหรับตัวเขาจะไม่ยุติการทำหน้าที่ เพราะเขามิใช่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ขณะนี้เขาคือนายกรัฐมนตรีซึ่งมีภารกิจอันยิ่งใหญ่ คือ เดินทางไปสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว กัมพูชา พม่า กระทั่งอีกหลายเดือนข้างหน้าก็จะไปสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ก็เพื่อจะบอกชาวโลกเขาว่า ประเทศไทยของเราเป็นอย่างไร

ภาระของนายสมัคร สุนทรเวช คือการเป็นนายกรัฐมนตรี แก้ไขและจัดการกับปัญหาของประเทศชาติ ถ้าหากเขาดัดจริตลาออกหรือยุติบทบาทแล้ว ก็จะเกิดความเสียหายแก่ชาติบ้านเมือง

จะต้องหานายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรีกันใหม่

โดยตรรกะของนายสมัคร สุนทรเวช ก็คือประเทศชาติจะขาดเขาในฐานะนายกรัฐมนตรีไม่ได้

ทั้งที่ความเป็นจริง ประเทศไทยก็ดำรงมาช้านาน โดยที่ไม่มีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี

และรัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช ก็เพิ่งบริหารประเทศมาไม่ถึง 2 เดือนเสียด้วยซ้ำ

นายสมัคร สุนทรเวช เองก็รู้อยู่แก่ใจว่า กรณีรถและเรือดับเพลิงที่เป็นปัญหาให้ คตส. ต้องตรวจสอบนั้น เป็นกรณีที่นายสมัคร สุนทรเวช เซ็นสัญญาก่อนที่จะมีการเลือกตั้งเพียง 2 วันเท่านั้นเอง

ถ้านายสมัคร สุนทรเวช จะรอให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่เข้ามาพิจารณา และเซ็นสัญญา ตลอดจนเปิด L/C เอง เรื่องก็จะไม่เดือดร้อนถึงนายสมัคร

การเซ็นสัญญาซื้อรถและเรือดับเพลิง ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครครั้งนี้ นายสมัคร ก็รู้อยู่แก่ใจดีมิใช่หรือว่า การจัดซื้อจัดจ้างมูลค่า 8,000 ล้านบาท (รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ) จากบริษัท Steyr-Daimler-Puch Specialfahrzeug ของประเทศออสเตรีย เป็นการจัดซื้อจัดจ้างที่มีมูลค่ามหาศาล เสี่ยงต่อการที่จะถูกมองถึงความซื่อสัตย์สุจริตของผู้ที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างครั้งนี้

เป็นเรื่องที่จะต้องระมัดระวัง และจะต้องรักษาผลประโยชน์ของกรุงเทพมหานคร และเงินภาษีของประชาชน

ซึ่งก็คือผลประโยชน์ของประเทศชาติ

นายสมัคร สุนทรเวช เมื่อพ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครไปแล้ว ไม่รู้บ้างเลยหรือว่า การจัดซื้อจัดจ้างมูลค่ามหาศาลถึง 8,000 ล้านบาท (รวมค่าใช้จ่ายอื่นๆ) มีพฤติการณ์ที่ชวนให้ประชาชนทั้งหลายสงสัยว่า น่าจะไม่สุจริต เพราะรถที่ซื้อเป็นรถที่ประกอบขึ้นในประเทศไทย มีราคาคันละประมาณ 7.4 แสนบาท ส่งไปออสเตรียเพื่อไปติดอุปกรณ์เพิ่มเติม

ทำให้ราคาเพิ่มเป็นคันละ 5.8 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีอีกคันละ 1 ล้านบาท)

นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ไม่รู้สึกหน้าชากับข้อเท็จจริงที่ปรากฏต่อสาธารณชนนี้บ้างเลยหรือ จึงพูดออกมาว่า “จะไม่ดัดจริตแสดงความรับผิดชอบ”

ถ้าอย่างนั้น วันโน้นวันที่จะพ้นจากตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครไปทะลึ่งเซ็นสัญญาทำไม

ขอย้อนถามด้วยสำนวนของนายสมัครว่า “ถ้าไปเซ็นมีใครตายไหม?”

นายสมัคร สุนทรเวช คงไม่ตอบหรือตอบไม่ได้ ก็ขอตอบแทนเสียเลยว่า “น่าจะไม่มีใครตาย แต่อาจจะมีใครอดตาย!”

การยุติบทบาทของนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ก็เช่นเดียวกับการยุติบทบาทการทำหน้าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎร ของนายยงยุทธ ติยะไพรัช เมื่อ กกต.โดยเสียงส่วนใหญ่ให้ใบแดงนายยงยุทธ ติยะไพรัช และนำคดีสู่ศาลสถิตยุติธรรมให้พิจารณาต่อไป

ทั้งนายยงยุทธ และนายอภิรักษ์ ต่างก็ได้รับคำชมเชยในการกระทำของพวกเขา

จะมีก็แต่พรรคพลังประชาชนพรรคแกนนำรัฐบาลหุ่นขณะนี้เท่านั้น ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ว่า ดัดจริตบ้าง เอาม้ามาแลกขุนบ้าง ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่บ้าง ฯลฯ

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยนั้น ถึงกับบอกว่าอาจจะไม่อนุมัติให้นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ลากิจ

นี่เท่ากับการใช้อำนาจบาทใหญ่กระทำต่อกันอย่าว่าแต่นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อย่างถล่มทลายเลย ข้าราชการระดับเล็กๆ ลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราวเขาก็ได้รับการปฏิบัติจากผู้บังคับบัญชาดีกว่าที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง กำลังทำกับนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน

ชะรอย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จะลืมไปแล้วว่า การได้ลงสมัครรับเลือกตั้งได้เข้าสังกัดพรรคพลังประชาชน กระทั่งได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นั่นเพราะอะไร

หรือเพราะการได้ตำแหน่งแห่งที่เช่นนี้นี่เอง จะต้องตอบแทนบุญคุณกันให้สาหัสสากรรจ์
เช่นเดียวกับที่รัฐบาลหุ่นได้ตอบแทนบุญคุณ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทันทีทันใดที่ได้จัดตั้งรัฐบาลขึ้น และจะต้องตอบแทนบุญคุณกันไปเรื่อยๆ ให้สมกับที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้ช่วยอนุเคราะห์ให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และอื่นๆ จนสามารถชูคออยู่ในสังคมเวลานี้

อย่าได้ยุติบทบาทการเป็นนายกรัฐมนตรี อย่าได้หยุดตอบแทนบุญคุณอันใหญ่หลวงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ประชาชนทั้งหลายไม่เคยคิดเคยหวังจากรัฐบาลหุ่นนี้อยู่แล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น