xs
xsm
sm
md
lg

แถลงการณ์ “อภิรักษ์” หลังประกาศยุติบทบาทผู้ว่าฯกทม.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แถลงการณ์ของ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กรณีการจัดซื้อรถดับเพลิงของกรุงเทพมหานคร ภายหลังประกาศยุติบทบาทผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ชั่วคราว

ตามที่ปรากฏเป็นข่างทางสื่อมวลชน ว่า คตส.เห็นควรแจ้งข้อกล่าวหาผมในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งผมจะได้มีหนังสือถึง คตส.เพื่อขอทราบรายละเอียดของข้อกล่าวหาดังกล่าวเพื่อนำมาพิจารณากำหนดแนวทางการดำเนินการต่อไป ถึงแม้ขณะนี้คตส.ยังไม่ได้ชี้มูลความผิด โดยผมยังมีสิทธิที่จะชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อไปได้ แต่เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นกรณีที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร ซึ่งผมดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดังนั้น เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อกระบวนการไต่ส่วนของ คตส.และเพื่อความโปร่งใสในการดำเนินการใดๆ ของกรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับกรณีนี้ผมจึงขอระงับการปฏิบัติหน้าที่ ในฐานะผู้ว่าฯ กทม.เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจของผมดังที่ได้เรียนไว้ข้องต้น และจะไปชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อ คตส.เพื่อแสดงความจริตของตนเอง โดยมอบหมายให้ นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการ กทม.รักษาราชการแทน

ทั้งนี้ กรณีการจัดซื้อรถดับเพลิงนี้ เกิดขึ้นก่อนที่ผมเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.เมื่อเดือนสิงหาคม 2547 เมื่อมีมูลที่ปรากฏในขณะนั้น ว่า อาจจะมีความไม่ชอบมาพากลในการดำเนินการ ผมก็ได้ดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าว ภายใต้ข้อจำกัดในเรื่องเวลาซึ่งเป็นข้อผูกพันที่กำหนดไว้ใน AOU และสัญญาซื้อขายที่กำหนดให้ต้องเปิดแอลซี ภายในเวลา 30 วัน ผมได้ตั้งคณะกรรมการประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในกรุงเทพฯและบุคคลภายนอก ร่วมกันพิจารณากรณีดังกล่าว รวมทั้งได้สอบถามไปยังกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งทุกหน่วยงานได้ยืนยันถึงความถูกต้อง และมีผลผูกพันของ AOU และสัญญาซื้อขาย รวมถึงคณะรัฐมนตรีได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวมาโดยลำดับ รวมระยะเวลาในการดำเนินการตรวจสอบประมาณ 4 เดือน ไม่มีข้อมูล หรือข้อเท็จจริงใดที่สามารถบ่งชี้ได้ว่า AOU ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างรัฐกับรัฐ และสัญญาซื้อขายซึ่งลงนามผูกพันตามโดยผู้มี่อำนาจของคู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่าย เป็นโมฆะ ไม่มีผลผูกพันตามกฎหมาย นอกจากนี้ AOU และสัญญาซื้อขายกำหนดไว้ชัดว่ากทม.จะต้องเปิดแอลซี การไม่ดำเนินการดังกล่าวย่อมทำให้ กทม.ตกเป็นฝ่ายผิดสัญญาและจะต้องรับผิดชอบในความเสียหายอันเกิดจากการไม่ปฏิบัติตามสัญญา

ต่อมาเมื่อ คตส.ได้รับกรณีดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของ คตส.เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2550 คตส.ได้ใช้เวลาในการพิจารณาคดีนานกว่า 1 ปี โดยตลอดระยะเวลาทีผ่านมาก็ยังไม่เคยปรากฏข้อมูลว่า คตส.มีความเห็นว่า AOU และสัญญาซื้อขายไม่มีผลบังคับ ซึ่งสอดคล้องกับแนวความเห็นของคณะกรรมการ 7 กระทรวง ซึ่งกระทรวงมหาดไทยตั้งขึ้น เพื่อตรวจสอบกรณีดังกล่าว รวมทั้งความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุด และแม้แต่ความเห็นของ คตส.เอง ซึ่งได้ตอบข้อหารือของ กทม.โดยมีความเห็นว่าสัญญายังมีผลผูกพันจนกว่าจะมีเหตุโมฆะ หรือโมฆียะ จนกระทั่งในการประชุม คตส.เมื่อวานนี้ จึงปรากฏความเห็นของ คตส.ว่า AOU และสัญญาเป็นโมฆะ ดังนั้น เมื่อย้อนไปพิจารณาถึงการดำเนินการของ กทม.ในการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวก่อนการดำเนินการเปิดแอลซีนั้น ย่อมเห็นได้ชัดว่า โอกาสที่ กทม.จะได้ข้อมูลบ่งชี้ถึงความไม่สมบูรณ์ของสัญญานั้นไม่อาจเป็นไปได้

เมื่อ คตส.เห็นควรจะแจ้งข้อกล่าวหาผมในกรณีดังกล่าว ผมก็คงต้องขอทราบคำวินิจฉัยดังกล่าวโดยละเอียด เพื่อนำมาพิจารณากำหนดแนวทางในการชี้แจงข้อกล่าวหาดังกล่าวในชั้นการดำเนินการชี้ข้อมูลและแจ้งข้อกล่าวหาของ คตส.เอง และในกระบวนการยุติธรรมในลำดับต่อไป ผมมีความเชื่อมั่นในความสุจริต และมั่นใจว่า จะสามารถชี้แจงข้อเท็จจริงแห่งความสุจริตของผมได้อย่างปราศจากของผม

จึงขอยืนยันกับพี่น้องประชาชน ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผมได้ปฎิบัติหน้าที่เป็นผู้ว่าฯกทม.ที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนชาวกทม.ผมได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โดยยึดถือประโยชน์ของพี่น้องประชาชน และกรุงเทพมหานคร เป็นสำคัญ


กำลังโหลดความคิดเห็น