เปิดใจ “อภิรักษ์” คำต่อคำ เผยต้องการแสดงสปิริตให้เห็นทางการเมือง ลั่นในชั้นนี้ยังไม่มีความผิด เตรียมข้อมูลชี้แจงข้อกล่าวหา ส่วน “หมัก” เป็นเรื่องการตัดสินใจส่วนบุคคล
“ผมทำงานให้กับพี่น้องประชาชนชาวกรุงเทพมหานคร ก็ได้มีความตั้งใจและทุ่มเทในการทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ร่วมกับข้าราชการทุกคน และในวันนี้เป็นวันที่ผมเองถูกกล่าวหา เพื่อความสบายใจ ความโปร่งใสในกระบวนการการตรวจสอบ ผมเองได้ตัดสินใจและได้หารือกับทางพรรคประชาธิปัตย์ ท่านหัวหน้าพรรค ตลอดจนรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหาคร คณะที่ปรึกษา ตลอดจนข้าราชการชั้นผู้ใหญ่แล้ว ก็เห็นควรที่จะได้ยุติบทบาท โดยตัดสินใจที่จะมอบหมายให้รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดร.วัลลภ สุวรรณดี ได้รักษาราชการในตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผมเองก็จะได้ดำเนินการในเรื่องของการรับทราบการแจ้งข้อกล่าวหา และมีความมั่นใจในกระบวนการที่จะไปต่อสู้ในการที่จะชี้แจงข้อกล่าวหาทั้งหมด เพื่อให้มีความชัดเจน เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานของการต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมมีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมเสมอมา ก็ถือโอกาสนี้ในการเรียนชี้แจงให้กับพี่น้องประชาชนได้รับทราบ ตลอดจนท่านสื่อมวลชนด้วยครับ
จริงๆ ผมต้องเรียนว่า ในกระบวนการวันนี้ที่มีการแจ้งข้อกล่าวหา จริงๆ แล้วยังถือว่าเป็นกระบวนการที่เพิ่มเริ่มต้น กระบวนการถัดไปก็คือคณะกรรมการ คตส.ต้องแจ้งให้ผู้ที่ถูกกล่าวหา ซึ่งรวมทั้งผมด้วย ไปรับทราบข้อกล่าวหา หลังจากรับทราบข้อกล่าวหาแล้วก็เป็นกระบวนการที่ผมต้องชี้แจง เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ผมได้ดำเนินการไปเป็นไปด้วยความสุจริตและถูกต้องในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา แล้วหลังจากนั้น คณะกรรมการ คตส.ก็จะได้ให้อนุฯ ไต่สวนได้มีการพิจารณาไต่สวนในกระบวนการการชี้แจง อันนั้นถึงจะเป็นกระบวนการที่จะมีการชี้มูลความผิด
ผมคิดว่า ประเด็นสำคัญที่มีการยุติบทบาทก็คือ เพื่อแสดงสปิริตให้เห็นทางการเมือง และผมคิดว่านี่จะเป็นแนวทางที่จะทำให้นักการเมืองได้แสดงความชัดเจนในการดำเนินการ และเกิดความโปร่งใสในกระบวนการที่ตัวเองจะต้องไปต่อสู้ ซึ่งนี่ก็ถือว่าเป็นแนวทางในจุดยืนทางการเมืองของผมเอง ก็ไม่อยากให้ไปมองว่าเกี่ยวข้องกับใคร หรือในกรณีอื่น
ผมเรียนว่า จริงๆ ในชั้นนี้ผมยังไม่มีความผิด และจริงๆ แล้วกระบวนการก่อนที่จะไปถึงจุดที่มีการชี้มูลความผิดหรือเปล่า ก็เป็นกระบวนการที่ผมมีโอกาสที่จะไปชี้แจงข้อกล่าวหาตามข้อมูล ข้อเท็จจริงที่อยู่ในกระบวนการนั้น เพียงแต่ว่าในกระบวนการการดำเนินการในครั้งนี้ ผมมีความเชื่อมั่นว่าถ้าผมได้ยุติบทบาทในการทำหน้าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งถูกกล่าวพาดพิง
และในขณะเดียวกัน ตัวองค์กรกรุงเทพมหานคร ในฐานะเจ้าพนักงานก็จำเป็นที่จะต้องดำเนินการในสิ่งที่ คตส.อาจจะได้มีการแถลงออกมาว่าในกระบวนการการสอบสวนแล้วมีความผิดหรือมีผลในทาง AOU หรือสัญญา จากที่ปรากฏเป็นข่าว เพราะฉะนั้นนี่ก็จะเป็นสิ่งที่จะช่วยทำให้การดำเนินการชี้แจงข้อกล่าวหาของผมเป็นไปด้วยความโปร่งใส และพี่น้องประชาชนได้มีความมั่นใจว่า ผู้ที่เขาได้เคยให้ความไว้วางใจและเลือกเข้ามาทำหน้าที่ ได้มีจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจนในการที่จะต่อสู้กับข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้น
จริงๆ มาตรา 55 ก็เป็นอย่างที่ผมได้เรียน มาตรา 55 จะเกิดขึ้นก็คือมีการชี้มูลความผิดแล้ว ซึ่งวันนี้ยังไม่ถึงจุดนั้น วันนี้ยังเป็นจุดที่มีการแจ้งข้อกล่าวหา และยังมีกระบวนการที่จะไปรับทราบข้อกล่าวหา และมีกระบวนการ เข้าใจว่าประมาณ 15 วันที่จะมีกระบวนการในการไปชี้แจงแล้วจึงจะพิจารณา โดยคณะอนุกรรมการไต่สวนถึงจะมีการชี้แจงอีกครั้ง
ยุติบทบาทก็คือ ไม่ทำหน้าที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และมอบหมายให้ท่านรองผู้ว่าฯ วัลลภ สุวรรณดี ได้ปฏิบัติราชการแทน ซึ่งก็แปลว่าในการปฏิบัติราชการ การทำงานของกรุงเทพมหานคร ก็ยังดำเนินการไปอย่างเต็มที่ ในการแก้ไขปัญหาดูแลทุกข์สุของพี่น้องประชาชน ทั้งในส่วนของฝ่ายทีมงานผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ทีมคณะที่ปรึกษา และฝ่ายข้าราชการประจำ ซึ่งนำโดยท่านปลัด รองปลัดฯ
คำว่ายุติบทบาทก็คงแปลว่ายุติบทบาท และผมก็จะใช้เวลาในช่วงนี้ในการที่จะดำเนินการเพื่อที่จะทำความจริงให้ปรากฏ ที่จะต้องต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรม เพื่อที่จะได้แสดงให้สังคมและพี่น้องประชาชนได้เห็นถึงสิ่งที่ได้ดำเนินการไป และผมเรียนนิดเดียวว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนที่ผมจะรับตำแหน่งในเดือนกันยายน ปี 2547 ซึ่งได้เคยปรากฏเป็นข่าวหลายครั้งแล้ว และกรอบระยะเวลาที่ผมได้ดำเนินการในช่วงนั้นก็เป็นกรอบเวลาที่มีเงื่อนไขในการกำหนดไว้ ทั้งใน AOU และสัญญาซื้อเสียง และกระบวนการที่ดำเนินการต่อตามสัญญาที่มีผล ซึ่งได้มีการตั้งคณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบ ซึ่งมีทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งภายในและภายนอกของกรุงเทพมนานคร เราก็ได้มีกระบวนการตรวจสอบและสอบถามไปยังทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ฉะนั้น ก็อยากเรียนให้เห็นว่าจนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาจนถึงวันนี้ ทาง คตส.ก็ได้รับพิจารณาเรื่องนี้เมื่อประมาณต้นปี 2550 หรือต้นปีที่แล้ว และใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ปี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็ได้มีกระบวนการในการทำหนังสือสอบถาม ทั้งในส่วนของคณะกรรมการ คตส.ก็ดี อัยการสูงสุด หรือแม้แต่คณะกรรมการ 7 หน่วยงาน ที่กระทรวงมหาดไทยได้ตั้งขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา ฉะนั้นอันนี้ก็เป็นกระบวนการที่ผมอยากได้ใช้เวลาในการพิจารณารวบรวมข้อมูลในการไปชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งที่ผ่านมาก็ยังไม่มีโอกาสที่จะได้ถูกกล่าวหาในประเด็นนี้
รองฯ วัลลภ ก็เป็นรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อันดับที่ 1 ซึ่งโดยปกติเวลาผู้ว่าราชการไม่ได้ปฏิบัติราชการ ก็ต้องมีรักษาราชการแทนอยู่แล้วก็ปฏิบัติหน้าที่เหมือนตามปกติครับ เวลาผู้ว่าฯ ไม่ได้ปฏิบัติราชการ ก็สามารถปฏิบัติราชการ โดยการรักษาการในตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ถามว่ามีใครแนะนำหรือไม่ ไม่มีใครแนะนำนะครับ เป็นเรื่องที่ผมเองได้ทบทวนในบทบาทของตัวเอง และทบทวนในสิ่งที่พี่น้องประชาชนเคยให้ความไว้วางใจ และอย่างที่เรียนว่าในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ก็ได้ทุ่มเททำงานด้วยความตั้งใจ ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และในวันนี้วันที่ตัวเองถูกกล่าวหาก็อยากได้ใช้โอกาสในฐานะของประชาชนที่มีสิทธิตามรัฐธรรมนูญในากรที่จะไปต่อสู้ข้อกล่าวหา และเพื่อสร้างแนวทางในทางการเมืองให้กับสังคมได้รับทราบ
จริงๆ เรื่องนี้ถ้าหลายคนติดตามคงเห็น มันมีกระบวนการตรวจสอบมานาน และมีรายงานข่าวในส่วนที่จะมีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องหรือเปล่า และจริงๆ แล้วต้องเรียนว่าโดยข้อเท็จจริงในช่วงหลังจะเห็นว่ารายชื่อที่มีการพิจารณาก็อาจจะไม่มีด้วยซ้ำไปเอาเป็นว่าได้มีโอกาสไปรับทราบข้อกล่าวหาและได้ชี้แจงตามสิ่งที่ควรจะเป็น
มีความมั่นใจมาโดยตลอด เพราะว่าในกระบวนการที่เคยไปชี้แจง ในครั้งแรกและครั้งเดียว ที่มีการได้ไปชี้แจง ก็ไปให้ข้อมูลในกระบวนการที่ผมเองเข้าไปเกี่ยวข้อง ตั้งแต่เริ่มรับตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อต้นเดือนกันยายน ปี 2547
จากข้อมูลที่ปรากฏเป็นข่าว รายละเอียดของการวินิจฉัยก็ค่อนข้างแตกต่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของผลการวินิจฉัยที่เกี่ยวข้องกับ AOU ในเรื่องของสัญญา ซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้เลยไปถึงจุดนั้น เพราะฉะนั้นก็อยากทราบว่าในประเด็นที่มีการได้วินิจฉัยในลักษณะนั้น มันมีความเกี่ยวโยงกับตัวผม ซึ่งจากข่าวก็จะระบุแค่ในกรณีมาตรา 157 ส่วนรายละเอียดก็ได้ทำจดหมายไปแล้วในวันนี้
ผมไม่ได้มองถึงคนอื่นนะครับ เพราะเรื่องนี้เป็นการกล่าวหากับตัวผมเองโดยตรง เพราะฉะนั้น ผมเป็นผู้ว่าฯ ที่มาจากการเลือกตั้ง ประชาชนได้เลือกและให้ความไว้วางใจ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ผมคิดว่าได้มีความตั้งใจมาโดยตลอดว่าถ้าวันหนึ่งโดนเข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ก็พร้อมที่จะแสดงสปิริตในเรื่องนี้
ผมก็เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย และมีความเชื่อมั่นในคณะกรรมการ คตส. และหวังว่าสังคมไทยจะมีที่พึ่งให้กับกระบวนการทางการให้ความยุติธรรม เพราะฉะนั้นก็คงมีความมั่นใจในการที่จะต่อสู้ด้วยข้อมูลข้อเท็จจริงที่มีอยู่
กรณีคุณสมัคร สุนทรเวช ผมคิดว่านั่นเป็นเรื่องการตัดสินใจส่วนบุคคล ผมก็เคารพการตัดสินใจของแต่ละคน แต่ในส่วนของผมเองที่การตัดสินใจครั้งนี้ก็จะเป็นแนวทางในการทำงานทางการเมืองของผมทั้งในวันนี้และอนาคตด้วย”
