“อภิรักษ์” ประกาศตั้ง “วัลลภ สุวรรณดี” รักษาการผู้ว่าฯ กทม.ในช่วงประกาศยุติบทบาทชั่วคราว เผยต้องการแสดงสปิริตให้เห็นในทางการเมืองลั่นมั่นใจในกระบวนการยุติธรรม โชว์มารยาทการเมือง "ไม่รับเงินเดือน" ผู้ว่าฯ
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน แถลงข่าว ยุติหน้าที่ผู้ว่าฯ กทม.
จากกรณีที่ นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม.ประกาศยุติบทบาทการทำหน้าที่ในฐานะผู้ว่าฯ กทม.ตั้งแต่วันนี้ (13 มี.ค.)เป็นต้นไป หลังจาก คตส.มีมติชี้มูลความผิด กรณีมีส่วนเกี่ยวข้องการทุจริตรถและเรือดับเพลิงของ กทม. เพื่อให้กระบวนการตรวจสอบเป็นไปอย่างโปร่งใสและปราศจากการแทรกแซง พร้อมทั้งเตรียมทำหนังสือเพื่อสอบถามรายละเอียดข้อกล่าวหาจากทาง คตส.นั้น
เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น.นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้เปิดแถลงข่าวว่า ได้มอบหมายให้นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อันดับ 1 ปฏิบัติราชการแทน โดยทำหน้าที่เสมือนเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ทั้งนี้ การประกาศยุติบทบาทผู้ว่าฯ กทม.ต้องการทำให้เป็นแนวทางให้นักการเมืองได้ปฏิบัติ ทำให้เกิดความโปร่งใสในกระบวนการตรวจสอบ รวมทั้งเพื่อที่จะใช้เวลาในการชี้แจงข้อกล่าวหาของ คตส.
“ในชั้นนี้ผมยังไม่มีความผิด ซึ่งผมจะต้องไปชี้แจงข้อกล่าวหาให้คตส.ได้รับทราบ ผมเชื่อมั่นใจกระบวนการยุติธรรม และคตส.ว่าจะให้ความยุติธรรมกับผมได้ ความจริงผมตั้งใจเอาไว้นานแล้วว่า เมื่อใดก็ตามที่โดนกล่าวหาในกรณีนี้ก็จะแสดงสปิริตให้เห็น เนื่องจากผมได้รับความไว้วางใจจากประชาชนคนกรุงเทพฯ เลือกเข้ามา สำหรับการยุติบทบาทก็คือไม่ทำหน้าที่ผู้ว่าฯ กทม.” นายอภิรักษ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความมั่นใจในการเข้าชี้แจงข้อมูลต่อคตส.หรือไม่ นายอภิรักษ์ กล่าวว่า มีความมั่นใจมาโดยตลอดเพราะในกระบวนที่เคยได้ไปชี้แจงในครั้งแรกและครั้งเดียวก็ไปให้ข้อมูลในกระการบวนที่ตนเข้าไปเกี่ยวข้องตั้งแต่เริ่มรับตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.เมื่อต้นเดือนก.ย.2547 ส่วนเรื่องการยกเลิกสัญญากับทางสไตเออร์ฯเป็นเรื่องที่คตส.ที่จะต้องแจ้งข้อกล่าวหามาที่ตัวบุคลและไดแจ้งมาที่กทม.ในฐานะที่เป็นคู่สัญญา ซึ่งเรื่องการบอกเลิกสัญญาผู้ที่เกี่ยวข้องที่ดูแลจะได้วินิจฉัยในรายละเอียดที่คตส.แจ้งมาให้หน่วยงานได้รับทราบ ส่วนระงับหรือไม่รับงับต้องตรวจสอบในข้อกฎหมายอีกครั้ง
ต่อข้อถามที่ว่า มองเป็นเรื่องการเมืองหรือไม่เพราะที่ผ่านมาหลุดพ้นจากการถูกกล่าวหามาโดยตลอด นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้มองอย่างนั้นเพียงแต่อยากทราบในรายละเอียดเพราะจากข้อมูลที่ปรากฏเป็นข่าวรายละเอียดข้อมูลของการวินิจฉัยก็ค่อนข้างแตกต่างโดยเฉพาะอย่างยิ่งผลการวินิจฉัยที่เกี่ยวข้องกับเอโอยู และสัญญาซึ่งที่ผ่านมาไม่ได้ไปถึงตรงจุดนั้น ดังนั้นจึงอยากทราบว่าในประเด็นที่ได้มีการวินิจฉัยมีการเกี่ยวโยงกับตนเองอย่างไร จากข่าวระบุแค่มาตรา 157
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า กังวลว่าจะมีการแทรกแซงจากฝ่ายรัฐบาลในการตรวจสอบเรื่องนี้หรือไม่เพราะพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู นายอภิรักษ์ กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย และมีความเชื่อมั่นในคตส.แลหวังว่าสังคมไทยจะมีพึ่งให้กับกระบวนการของการให้ความยุติธรรมซึ่งมีความมั่นใจที่จะต่อสู้ด้วยข้อมูลข้อเท็จจริงที่มีอยู่โดยมีนายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ประธานทีมที่ปรึกษาทางด้านกฎหมายของตนเป็นเข้ามาช่วยดูแลในเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามด้วยว่า จากมาตรฐานที่ทางพรรคปชป.สร้างขึ้นและที่ตัวผู้ว่าฯแสดงให้สังคมดู นายสมัคร สุนทรเวช นายกฯ ซึ่งถูกชี้มูลคงวามผิดในเรื่องดังกล่าวร่วมด้วยจะต้องแสดงสปิริตแบบนี้หรือไม่ นายอภิรักษ์ กล่าวว่า คิดว่าเป็นการตัดสินใจของแต่ละบุคคล แลตนก็เคารพการตัดสินใจของแต่ละคน ในส่วนตนเองคิดว่าการตัดสินใจครั้งนี้เป็นแนวทางในการทำงานทางการเมืองของตนทั้งในวันนี้และในอนาคต ส่วนจะลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.อีกหรือไม่นั้นคงยังไม่ได้นัดสินใจในตอนนี้ และไม่คิดว่าการตัดสินใจเข้ามาเล่นการเมืองและต้องถูกกล่าวหาเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด และขณะนี้รู้สึกสบายใจ ส่วนอนาคตยังไม่คิดถึงเพราะจะต้องชี้แจงข้อกล่าวหาก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากที่แถลงข่าวเสร็จนายอภิรักษ์ ได้ลงไปพบปะประชาชน และข้าราชการกทม. ส.ส.-ส.ก. กทม.พรรคประชาธิปัตย์ ที่มาให้กำลังใจหลายร้อยคนซึ่งแต่ละคนได้นำดอกกุหลาบสีแดงมามอบให้ผู้ว่าฯกทม. พร้อมกันนี้นายอภิรักษ์ ได้กล่าวขอบคุณด้วยเสียงอันสั่นเครือซึ่งมีใจความว่า ขอยืนยันว่าที่ผ่านมาได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ของคุณคะแนนเสียงทั้ง 911,441 คะแนนที่มอบให้ซึ่งตนและพรรคประชาธิปัตย์เชื่อมั่นในสิ่งที่ตัวเองได้ดำเนินการมาโดยตลอด และขอยืนยันว่าตน พรรคประชาธิปัตย์ ส.ส. ส.ก. ส.ข. และสมาชิกพรรคทุกคนพร้อมทำงานการเมืองเพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติต่อไป ทั้งนี้ในระหว่างการรับมอบดอกไม้นายอภิรักษ์ มีน้ำตาคลอตลอดเวลา ขณะเดียวกันได้มีแฟนคลับของนายอภิรักษ์ หลั่งน้ำตาออกมาด้วยความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้านนายทวีศักดิ์ กล่าวว่า จากนี้ไปทีมกฎหมายจะได้จัดเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมทั้งหมดอย่างรอบด้าน แต่ต้องรอดูข้อกล่าวหาทางคตส.ได้ด้วยว่าเป็นอย่างไรเพราะตอนนี้ตนยังไม่ทราบในรายละเอียด ส่วนจะหลุดพ้นจากข้อกล่าวหาหรือไม่นั้นตนไม่อยากคาดคะเนว่าจะแพ้หรือชนะ แต่ยืนยันว่าที่ผ่านมาเราได้ดำเนินการทุกขั้นตอนที่ชอบด้วยสัญญา ส่วนจะเกี่ยวข้องกับทางการเมืองหรือไม่อันนี้ตนไม่ค่อยมีข้อมูลเบื้องหน้าเบื้องหลังว่าเป็นอย่างไร
ด้านนายอนันต์ ศิริภัสราภรณ์ รองปลัดกทม. กล่าวว่า หากทางคตส.ได้ส่งเอกสารข้อมูลต่างๆมาให้กับกทม.แล้ว ขั้นตอนต่อไปกทม.จะต้องสอบถามไปยังอัยการสูงสุด(อสส.) เพื่อให้ตีความว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป จะตัดสินใจทันทีคงไม่ได้ ซึ่งในขณะนี้ที่ปรึกษาทางด้านกฎหมายที่กทม.ได้ขอจากทางอสส.ได้มาแล้วก็จะต้องปรึกษาหารือในข้อกฎหมายให้รอบด้านอย่างรอบคอบ ไม่ใช่โมฆะวันนี้ หรือพรุ่งนี้ก็มีค่าเท่ากันต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร เพื่อไม่ให้กทม.เสียผลประโยชน์ ทั้งนี้หากโครงการจัดซื้อรถ-เรือ และอุปกรณ์ดับเพลิง ยุติจริงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องเข้ามาหารือในรายละเอียดใหม่
ทั้งนี้ นอกจากยุติการทำหน้าที่ผู้ว่าฯ กทม.แล้ว นายอภิรักษ์ยังประกาศไม่รับเงินเดือนผู้ว่าฯ กทม.อีกด้วย
