** พรรคพลังประชาชนและเครือข่าย “ทักษิณ ชินวัตร” พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ให้ “ประชาธิปัตย์” ได้เครดิตจากการประกาศยุติบทบาทผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ของ “อภิรักษ์ โกษะโยธิน” หลังจากถูก คตส.กล่าวหาว่ามีส่วนร่วมกระทำผิดในคดีจัดซื้อรถและเรือดับเพลิง กทม. จึงออกมาเหน็บแนมว่าการกระทำดังกล่าวของ “ผู้ว่าฯ อภิรักษ์” เป็นแค่เกมการเมือง ที่ต้องการส่งแรงกดดันไปถึง 3 รัฐมนตรีในรัฐบาล“สมัคร สุนทรเวช” ที่ถูก คตส.ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาในคดีหวยบนดิน เท่านั้น
** แต่ถ้ามองจากข้างนอกเข้าไป ก็จะเห็นว่า การกระทำของ พรรคพลังประชาชนนั่นหละ ที่เป็นเกมเสียยิ่งกว่า เป็นเกมที่จะอุ้ม 3 รัฐมนตรีที่ถูกกล่าวหาในคดีหวยบนดิน ให้ไม่ต้องแสดงความรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น ขณะเดียวกัน เป็นเกมที่จะทำให้การแสดงสิปิริตของ “อภิรักษ์”ครั้งนี้ ไม่ได้ส่งผลอะไรเลยในการสร้างคะแนนนิยมให้กับตัวเขาเองและพรรคประชาธิปัตย์ แม้ว่า หลายกระแสจะมองว่า นี่เป็นการสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมใหม่ๆ ให้กับการเมืองไทย ก็ตาม
** พรรคพลังประชาชนเอาจริงเอาจังกับเกมนี้ ถึงขนาดให้ “ชูศักดิ์ ศิรินิล” รมต.ประจำสำนักนายกฯ ออกมาขู่ว่า การประกาศยุติการที่หน้าที่ผู้ว่าฯ กทม.ของ “หล่อเล็ก” อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่อีกด้านหนึ่ง รองโฆษกฯ อดีตแกนนำ นปก.อย่าง “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ก็ออกมาตีกันว่า “อภิรักษ์” ไม่มีสิทธิที่จะลงสมัครผู้ว่า กทม.อีกสมัย ที่จะมีขึ้นในราวเดือน กรกฎาคมนี้ เพราะอ้างว่าช่วงนั้น น่าจะยังติดคดีอยู่ในศาล
** เมื่อถูกขู่ว่าจะเข้าข่ายละเว้นฯ “อภิรักษ์”ต้องป้องกันตัวเอง ด้วยการทำหนังสือถึง “เฉลิม อยู่บำรุง” รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุด เพื่อขอลากิจ 30 วัน แต่ล่าสุด “ดร.เหลิม”ใช้เหลี่ยมคูที่แพรวพราวไม่ยอมยอมเซ็นใบลา แถมจะทำหนังสือเรียกกลับให้มาทำงาน แต่ไม่วายเหน็บกลับว่า ถ้าจะแสดงสปิริตทำไมไม่ลาออกไปเลย ตนจะได้ไม่ต้องยุ่ง
** อีกด้านหนึ่ง “สมัคร สุนทรเวช” ถือคติ “ด้านได้อายอด” อาศัยเวลาในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ทางช่อง 11 ประชดประชันสื่อมวลชนที่เสนอข่าวชื่นชมสปิริต “ผู้ว่าฯ อภิรักษ์” พร้อมออกตัวแก้ต่างให้ 3 รัฐมนตรีเสร็จสรรพ และชักแม่น้ำทั้ง 5 มาอธิบายเหตุผลที่ตัวเองไม่ต้องลาออก กรณีถูก คตส.กล่าวหาในคดีรถดับเพลิงในกลุ่ม 5 คนแรก โดยอ้างว่าพ้นจากตำแหน่งผู้ว่าฯ แล้ว ตบท้ายด้วยคำพูดเหน็บแนมว่า ตนไม่ “ดัดจริต”
** รัฐบาลที่ถูกขนานนามว่า “หุ่นเชิด” หวั่นไหวไม่น้อย กับการนัดสัมมนาประชาชน “ยามเฝ้าแผ่นดิน ภาคพิเศษ” ณ หอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ ในวันศุกร์ที่ 28 มีนาคมนี้ ปฏิกิริยาที่แสดงออกมา นับตั้งแต่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3/2551 จึงเกิดขึ้นทุกระดับ ไล่ลงมาตั้งแต่ รมว.มหาดไทย “เฉลิม อยู่บำรุง” ที่ออกมาข่มขู่ “สนธิ ลิ้มทองกุล” หนึ่งในแกนนำว่าจะมีปัญหากับศาล
** ส่วนนายกรัฐมนตรี “สมัคร สุนทรเวช” แม้จะไม่ได้แสดงออกมาทันที แต่เมื่อสบโอกาสในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ทางช่อง 11 เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็ตีโพยตีพาย ว่าโดนกล่าวหาจะสร้างรัฐตำรวจ และพยายามลดน้ำหนักการเคลื่อนไหวของพันธมิตรด้วยชุดคำพูดเดิมๆ เช่น ว่า “อยู่มาเพียงเดือนกว่าก็ปลุกระดมกันแล้ว ... ยังเคียดแค้นไม่หายนัดชุมนุมขับไล่รัฐบาลกันอีกแล้ว”
** ขณะที่มือไม้ระดับรองลงมาของเครือข่าย “ทักษิณ” ออกมาเคลื่อนไหวเอาหน้ากับนายใหญ่กันถ้วนหน้า ทั้ง “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ที่แปลงโพเดียมแถลงข่าว มติ ครม.เป็นเวที “นปก.” ชั่วคราว เพื่อแถลงข่าวเหน็บแนมพันธมิตรฯ ขณะที่ ส.ส.สายฮาร์ดคอร์ อย่าง “ประชา ประสพดี” จับมือ “กรุง ศรีวิไล” ผู้แทนฯ สมุทรปราการด้วยกัน ตั้งกลุ่ม “มหาชนร่วมพิทักษ์ประชาธิปไตย” ขึ้นมาชนกับพันธมิตรฯ ล่าสุดวันอาทิตย์ที่ผ่านมา “แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือ นปก.เดิม ประชุมประเมินท่าทีที่ รร.รัตนโกสินทร์ แม้แถลงการณ์ที่ออกมาจะบอกว่า พันธมิตรฯ มีสิทธิที่จะจัดสัมมนาที่ธรรมศาสตร์ แต่ “จรัล ดิษฐอภิชัย” หนึ่งในแกนนำ ก็ยังให้ร้ายว่า การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ จะนำไปสู่การรัฐประหารอีกครั้ง
** ส่วนลิ่วล้อระดับล่างสุด งัดวิธีป่าเถื่อนออกมาใช้ ด้วยการโทรศัพท์ข่มขู่ “วีระ สมความคิด” ประธานกรรมการอำนายการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ที่ประกาศเข้าร่วมงานกับพันธมิตรฯ อย่างเปิดเผย วิธีการที่ท้าทาย โชว์เบอร์ให้เห็นจะๆ แถมโทรมาข่มขู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลังแจ้งความกับตำรวจ ถูกตั้งข้อสงสัยว่า มี “อำนาจรัฐ” หรี่ตาให้กับ “อันธพาล” พวกนี้หรือไม่
** จะอย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่า การกระทำเหล่านี้ ล้วนประกอบส่วนอยู่ในวิธีการของเครือข่าย “ระบอบทักษิณ” ที่จะสกัดกั้น-ยับยั้ง การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ทั้งสิ้น
** แต่ถ้ามองจากข้างนอกเข้าไป ก็จะเห็นว่า การกระทำของ พรรคพลังประชาชนนั่นหละ ที่เป็นเกมเสียยิ่งกว่า เป็นเกมที่จะอุ้ม 3 รัฐมนตรีที่ถูกกล่าวหาในคดีหวยบนดิน ให้ไม่ต้องแสดงความรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น ขณะเดียวกัน เป็นเกมที่จะทำให้การแสดงสิปิริตของ “อภิรักษ์”ครั้งนี้ ไม่ได้ส่งผลอะไรเลยในการสร้างคะแนนนิยมให้กับตัวเขาเองและพรรคประชาธิปัตย์ แม้ว่า หลายกระแสจะมองว่า นี่เป็นการสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมใหม่ๆ ให้กับการเมืองไทย ก็ตาม
** พรรคพลังประชาชนเอาจริงเอาจังกับเกมนี้ ถึงขนาดให้ “ชูศักดิ์ ศิรินิล” รมต.ประจำสำนักนายกฯ ออกมาขู่ว่า การประกาศยุติการที่หน้าที่ผู้ว่าฯ กทม.ของ “หล่อเล็ก” อาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่อีกด้านหนึ่ง รองโฆษกฯ อดีตแกนนำ นปก.อย่าง “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ก็ออกมาตีกันว่า “อภิรักษ์” ไม่มีสิทธิที่จะลงสมัครผู้ว่า กทม.อีกสมัย ที่จะมีขึ้นในราวเดือน กรกฎาคมนี้ เพราะอ้างว่าช่วงนั้น น่าจะยังติดคดีอยู่ในศาล
** เมื่อถูกขู่ว่าจะเข้าข่ายละเว้นฯ “อภิรักษ์”ต้องป้องกันตัวเอง ด้วยการทำหนังสือถึง “เฉลิม อยู่บำรุง” รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุด เพื่อขอลากิจ 30 วัน แต่ล่าสุด “ดร.เหลิม”ใช้เหลี่ยมคูที่แพรวพราวไม่ยอมยอมเซ็นใบลา แถมจะทำหนังสือเรียกกลับให้มาทำงาน แต่ไม่วายเหน็บกลับว่า ถ้าจะแสดงสปิริตทำไมไม่ลาออกไปเลย ตนจะได้ไม่ต้องยุ่ง
** อีกด้านหนึ่ง “สมัคร สุนทรเวช” ถือคติ “ด้านได้อายอด” อาศัยเวลาในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ทางช่อง 11 ประชดประชันสื่อมวลชนที่เสนอข่าวชื่นชมสปิริต “ผู้ว่าฯ อภิรักษ์” พร้อมออกตัวแก้ต่างให้ 3 รัฐมนตรีเสร็จสรรพ และชักแม่น้ำทั้ง 5 มาอธิบายเหตุผลที่ตัวเองไม่ต้องลาออก กรณีถูก คตส.กล่าวหาในคดีรถดับเพลิงในกลุ่ม 5 คนแรก โดยอ้างว่าพ้นจากตำแหน่งผู้ว่าฯ แล้ว ตบท้ายด้วยคำพูดเหน็บแนมว่า ตนไม่ “ดัดจริต”
** รัฐบาลที่ถูกขนานนามว่า “หุ่นเชิด” หวั่นไหวไม่น้อย กับการนัดสัมมนาประชาชน “ยามเฝ้าแผ่นดิน ภาคพิเศษ” ณ หอประชุมใหญ่ธรรมศาสตร์ ในวันศุกร์ที่ 28 มีนาคมนี้ ปฏิกิริยาที่แสดงออกมา นับตั้งแต่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 3/2551 จึงเกิดขึ้นทุกระดับ ไล่ลงมาตั้งแต่ รมว.มหาดไทย “เฉลิม อยู่บำรุง” ที่ออกมาข่มขู่ “สนธิ ลิ้มทองกุล” หนึ่งในแกนนำว่าจะมีปัญหากับศาล
** ส่วนนายกรัฐมนตรี “สมัคร สุนทรเวช” แม้จะไม่ได้แสดงออกมาทันที แต่เมื่อสบโอกาสในรายการ “สนทนาประสาสมัคร” ทางช่อง 11 เมื่อเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ก็ตีโพยตีพาย ว่าโดนกล่าวหาจะสร้างรัฐตำรวจ และพยายามลดน้ำหนักการเคลื่อนไหวของพันธมิตรด้วยชุดคำพูดเดิมๆ เช่น ว่า “อยู่มาเพียงเดือนกว่าก็ปลุกระดมกันแล้ว ... ยังเคียดแค้นไม่หายนัดชุมนุมขับไล่รัฐบาลกันอีกแล้ว”
** ขณะที่มือไม้ระดับรองลงมาของเครือข่าย “ทักษิณ” ออกมาเคลื่อนไหวเอาหน้ากับนายใหญ่กันถ้วนหน้า ทั้ง “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” ที่แปลงโพเดียมแถลงข่าว มติ ครม.เป็นเวที “นปก.” ชั่วคราว เพื่อแถลงข่าวเหน็บแนมพันธมิตรฯ ขณะที่ ส.ส.สายฮาร์ดคอร์ อย่าง “ประชา ประสพดี” จับมือ “กรุง ศรีวิไล” ผู้แทนฯ สมุทรปราการด้วยกัน ตั้งกลุ่ม “มหาชนร่วมพิทักษ์ประชาธิปไตย” ขึ้นมาชนกับพันธมิตรฯ ล่าสุดวันอาทิตย์ที่ผ่านมา “แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือ นปก.เดิม ประชุมประเมินท่าทีที่ รร.รัตนโกสินทร์ แม้แถลงการณ์ที่ออกมาจะบอกว่า พันธมิตรฯ มีสิทธิที่จะจัดสัมมนาที่ธรรมศาสตร์ แต่ “จรัล ดิษฐอภิชัย” หนึ่งในแกนนำ ก็ยังให้ร้ายว่า การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ จะนำไปสู่การรัฐประหารอีกครั้ง
** ส่วนลิ่วล้อระดับล่างสุด งัดวิธีป่าเถื่อนออกมาใช้ ด้วยการโทรศัพท์ข่มขู่ “วีระ สมความคิด” ประธานกรรมการอำนายการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น ที่ประกาศเข้าร่วมงานกับพันธมิตรฯ อย่างเปิดเผย วิธีการที่ท้าทาย โชว์เบอร์ให้เห็นจะๆ แถมโทรมาข่มขู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลังแจ้งความกับตำรวจ ถูกตั้งข้อสงสัยว่า มี “อำนาจรัฐ” หรี่ตาให้กับ “อันธพาล” พวกนี้หรือไม่
** จะอย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่า การกระทำเหล่านี้ ล้วนประกอบส่วนอยู่ในวิธีการของเครือข่าย “ระบอบทักษิณ” ที่จะสกัดกั้น-ยับยั้ง การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ทั้งสิ้น