xs
xsm
sm
md
lg

เผย"เจเทปา"3เดือนไทยขาดดุล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน-"ผอ.ทีดีอาร์ไอ" ชี้ครบรอบ 3 เดือน"เจเทปา" สินค้ารายสาขาไทยขาดดุลญี่ปุ่นเพิ่มแน่ แต่หากมองภาพรวมส่งออกยานยนต์ไปประเทศที่สามได้ดุลแทน ระบุนักลงทุนญี่ปุ่นพอใจพร้อมเชื่อมั่น แนะนักลงทุนไทยปรับตัวส่วนธุรกิจสิ่งทอเอสเอ็มอีรุ่งแน่หากบุกตลาดญี่ปุ่น

นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินการความตกลงทางหุ้นส่วนเศรษฐกิจระหว่างญี่ปุ่นกับไทย (เจเทปา) ที่ครบรอบ 3 เดือนหลังมีผลบังคับใช้ วันที่ 1 พ.ย.50 ว่า ขณะนี้พบว่านักลงทุนญี่ปุ่นมีความพอใจ และเชื่อมั่นกับความตกลงทางหุ้นส่วนฯอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดสิ่งทอของญี่ปุ่น เป็นตลาดที่ไม่มีโควต้า ไม่เหมือนตลาดสิ่งทอในสหรัฐอเมริกาหรือยุโรป เพราะฉะนั้นแต่เดิมผู้ส่งออกสิ่งทอแล้วเครื่องนุ่งห่มของทำไทยไปใช้โควต้าในสหรัฐฯและยุโรปจำนวนมากเนื่องจากเห็นว่า เป็นตลาดใหญ่และโควต้าก็มีการป้องกันการแข่งขันจากประเทศอื่น และผู้ส่งออกก็เข้าไปอยู่จุดนี้กันหมด จนไม่ได้มองถึงความสำคัญอย่างเพียงพอกับตลาดญี่ปุ่นที่เป็นตลาดที่รองลงมา เนื่องจากตลาดสิ่งทอญี่ปุ่นจะสั่งสินค้าจำนวนน้อยกว่า และไม่สั่งล่วงหน้าในระยะเวลาที่นาน จนแทบจะไม่มีผู้ประกอบการรายใหญ่ของไทยส่งออกยังญี่ปุ่นเลย

"ตลาดญี่ปุ่นสั่งสินค้าสิ่งทอล๊อตเล็ก ถ้าเป็นรายใหญ่ไทยก็จะไม่ผลิตให้ ตรงนี้จะถือเป็นโอกาสอันดีที่เอสเอ็มอีของไทยจะเข้ามาแข่งขัน โดยไม่ใช่เสื้อผ้าที่เป็นแฟชั่นมากนัก เช่น เสื้อสูท เสื้อผู้ชาย ชุดกีฬา ซึ่งเป็นสินค้าที่ไม่อ่อนไหวกับแฟชั่นมาก แต่ขอให้มีคุณภาพที่ดี"

นายสมชัย ยอมรับว่า ความแตกต่างในเรื่องของค่าเงินระหว่างเงินบาทกับเงินเยน กลับเป็นปัญหา แต่ถ้าไม่มีเจเทปาเชื่อว่าจะเกิดปัญหามากว่านี้ และยังมีความแตกต่างในเรื่องของระยะเวลาในการสั่งสินค้าที่สั้นกว่า เพราะระบบจัดจำหน่ายของญี่ปุ่น ไม่สามารถที่จะรวมศูนย์ข้อมูลแล้วบอกได้ว่า แฟชั่นฤดูนี้หรือฤดูต่อมาจะเป็นอย่างไร เมื่อระบบจัดจำหน่ายกระจายปัญหาข้อมทูลที่จะเก็บจากผู้บริโภคเพื่อจัดทำแฟชั่นจึงทำได้ช้า ดังนั้นการที่จะสั่งจากต่างประเทศจึงจะต้องทำการตอบสนองให้เร็วกว่าการทำตลาดของสหรัฐและยุโรป

ขณะเดียวกัน ขณะนี้เจเทปา แม้จะครบ 3 เดือน ดุลการค้าระหว่างไทยกับญี่ปุ่นของเจเทปา ยังไม่สามารถประเมินได้เนื่องจากจะต้องจัดทำเมื่อครบปี เพราะสินค้าบางรายการเป็นฤดูกาล แต่ถ้าหากคาดหมาย คงไม่แปลกใจว่า ไทยจะขาดดุลการค้ากับญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น แต่เรื่องการขาดดุลการค้าจะถูกนำไปใช้ในมุมที่มีความแตกต่างกันมาก ตนเห็นว่า ดุลการค้าของไทยกับประเทศใดประเทศหนึ่งนั้น ไม่มีความสำคัญกับตัวของมันเองคือเป็นไปไม่ได้ว่าไทย หรือญี่ปุ่นหรือที่ใดก็ตามจะได้เปรียบดุลการค้าทุกประเทศ เพราะหากทุกประเทศทำเช่นนั้นหมดก็คงค้าขายกันไม่ได้เมื่อเกินดุลกันหมด แต่ถ้าขาดดุลเล็กน้อยโดยไม่ขาดดุลอย่างต่อเนื่องติดต่อกันจนเงินไหลออกไปหมดรัฐจะเกิดปัญหาทางมหภาค ถ้าโดยรวมหากขาดดุลประเทศหนึ่ง แต่สามารถส่งออกไปยังประเทศที่สามได้จะออกมาเป็นบวกก็จะไม่มีปัญหา

นายสมชัย กล่าวว่า ในกรณีของสินค้าเหล็ก เชื่อว่าจะขาดดุลญี่ปุ่นค่อนข้างแน่นอนแต่ที่สำคัญเหล็กเหล่านั้นจะนำเข้ามาผลิตยานยนต์มาผลิตอิเล็กทรอนิกส์ขายในประเทศและส่งออกบ้าง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ส่งออกจนได้ดุลการค้าเพิ่ม และเหล็กก็จะขาดดุลลบ และหากมาดูรายสาขาก็อาจจะไขว้เขว จึงต้องมาดูภาพรวมและดูกับทุกประเทศ

ขณะเดียวกันภาคเอกชนไทย ควรจะปรับตัวโดยจับมือกับบริษัทนำเข้าของญี่ปุ่น สมาคมนำเข้า ที่มีอยู่ในรายสาขา เช่น สาขาสิ่งทอเครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการลงนามเจเทปา ระหว่างไทย
และญี่ปุ่น ที่มีผลบังคับใช้ได้ตั้งแต่ 1พ.ย.50 นั้น น่าจะส่งผลให้ผู้ประกอบการเครื่องนุ่งห่มของไทยได้รับสิทธิประโยชน์จากการลดต้นทุนการผลิต และการปรับลดภาษีลงจากเดิมที่อยู่ที่ร้อยละ 7 - 13 ให้เหลือ 0 ได้ในทันที

ทั้งนี้ คาดว่าในปี 51 จะช่วยให้การส่งออกธุรกิจเครื่องนุ่งห่มของไทยขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 หรือคิดเป็นมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากปัจจุบันที่มีมูลค่าอยู่ 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วย

นอกจากญี่ปุ่นจะต้องการลดการพึ่งพาการผลิตอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มจากจีน ที่ตอนนี้ครอบคลุมกว่าร้อยละ 90 แล้ว ยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนและผู้ประกอบการของไทยเข้าไปขยายตลาดส่งออกในธุรกิจดังกล่าวอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น