xs
xsm
sm
md
lg

2 เดือนเวียดนามขาดดุลทะลุฟ้าเกือบ 30%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online



ผู้จัดการรายวัน-- มูลค่าส่งออกของเวียดนามในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. ปีนี้ เพิ่มขึ้น 29.2% เป็น 8,700 ล้านดอลลาร์ แต่การนำเข้าในช่วงเดียวกันก็มีมูลค่าสูงขึ้น 63.7% เป็น 12,900 ล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้ตัวเลขขาดดุลการค้าของประเทศขยายออกไปอีกเป็น 4,200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์


ตัวเลขล่าสุดของสำนักงานใหญ่สถิติเวียดนาม หรือ GSO (General Statistics Office) ตัวเลขขาดดุลการค้าในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้คิดเป็น 48.3% ของมูลค่าส่งออก แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็มิได้แสดงความวิตกกังวลแต่อย่างไร โดยชี้ให้ดูที่ "คุณภาพ" ของการนำเข้า

ตามสถิติล่าสุดนี้ มูลค่าการส่งออกภาคอุตสาหกรรมและบริการจากการลงทุนของต่างชาติคิดเป็น 58.6% ของทั้งหมด หรือคิดเป็นเกือบ 50% ของมูลค่านำเข้าทั้งหมด

นักเศรษฐศาสตร์ของ GSO ชี้ว่ามูลค่าสินค้าต่างๆ ที่สูงขึ้นในตลาดโลกช่วยทำให้มูลค่าส่งออกจากเวียดนามเพิ่มขึ้นมากในช่วงเวลาดังกล่าว แต่พร้อมๆ กันก็ทำให้มูลค่านำเข้าทะยานสูงขึ้นด้วย

สินค้าส่งออกหลักของเวียดนามยังคงเป็นน้ำมันดิบ ซึ่งแม้จะลดปริมาณส่งออกลงแต่มูลค่าในตลาดโลกก็ยังทำให้มูลค่าเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนั้นเป็นสินค้าจากอุตสาหกรรมเบา สินค้าภาคการเกษตร ป่าไม้ และผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เวียดนามนิวส์ ปริมาณส่งออกน้ำมันดิบในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.ลดลงถึง 11.4% เหลือเพียง 2.3 ล้านตัน แต่มูลค้าส่งออกกลับเพิ่มขึ้นถึง 46% เป็น 1,680 ล้านดอลลาร์

เวียดนามซึ่งกำลังก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันแห่งแรก และ ได้กลายเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่อัน 3 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถัดจากอินโดนีเซียกับมาเลเซีย ได้ค่อยๆ ลดการส่งออกน้ำมันดิบมาทุกปีตลอดช่วง 2-3 ปีมานี้ เพื่อสต๊อคเอาไว้ใช้ภายในประเทศ

ในช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้มูลค่าส่งออกเสื้อผ้าสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์สิ่งทอรายการต่างๆ เพิ่มขึ้นเกือบ 42% เป็น 1,500 ล้านดอลลาร์ ขณะที่การส่งออกรองเท้ามีมูลค่าสูงขึ้น 25.3% เป็นเกือบ 770 ล้านดอลลาร์

ตามสถิติของ GSO การส่งออกข้าวในช่วงเดียวกันเพิ่มขึ้น 26.5% รวมปริมาณ 331,000 แต่ในเชิงราคาเพิ่มขึ้นถึง 54% เป็น 130 ล้านดอลลาร์ และมูลค่าสินค้าเกษตรรายการอื่นๆ คือ ใบชาขยายตัว 56.5% เป็น 21 ล้านดอลลาร์ และ พริกไทยมูลค่าทะยานขึ้นถึง 80%

เจ้าหน้าที่เวียดนามกล่าวว่า ยังจำเป็นต้องนำเข้าสินค้าทุนและวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตอุตสาหกรรมต่อไป เพื่อผลิตเป็นสินค้าส่งออก อันจะส่งผลให้ตัวเลขส่งออกสูงขึ้นในวันข้างหน้า

"การขาดดุลการค้าไม่ได้แสดงสาระสำคัญอะไรในเศรษฐกิจ ตราบเท่าที่เป็นการนำเข้าที่มีคุณภาพ เพื่อการผลิตมิใช่การบริโภค" นักเศรษฐศาสตร์ของกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมกล่าว

ตามตัวเลขล่าสุดของ GSO มูลค่านำเข้าสินค้าเครื่องจักรกลและเครื่องมือต่างๆ เพิ่มขึ้น 32.6% รวม 2,200 ล้านดอลลาร์ ตามด้วยน้ำมันสำเร็จรูปและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้น 71% เป็น 1,600 ล้านดอลลาร์

การนำเข้าเหล็กและเหล็กกล้าก็มีมูลค่าเพิ่มขึ้นไม่ได้น้อยไปกว่ากัน คือ 2.6 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว รวมมูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์ GSO กล่าว

เวียดนามยังนำเข้าปุ๋ยเป็นมูลค่า 212 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2 เท่าตัวจากเดือน ม.ค.-ก.พ.2550 การนำเข้าพลาสติกกับสินค้าเคมีก็เพิ่มขึ้น 50% เป็น 485 และ 296 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ

อย่างไรก็ตามการนำเข้ารถยนต์ประกอบเสร็จทั้งคัน หรือ CBU หรือ (Completely Build Unit) มีเพิ่มสูงมาก รวมทั้งสิ้น 9,700 คัน มูลค่า 187 ล้านดอลลาร์ เพิ่ม 5.5 เท่าตัวในเชิงจำนวนและ 3.3 เท่าตัวในเชิงมูลค่า

รัฐบาลได้ลดภาษีนำเข้ารถยนต์เก่าลงเพื่อบังคับให้ผู้ประกอบรถยนต์ในประเทศลดราคาลงให้ประชาชนได้ประโยชน์ มาตรการดังกล่าวทำให้ชาวเวียดนามหันไปสนใจรถยนต์ที่ใช้แล้วซึ่งมีราคาถูกกว่า เพื่อเป็นทางเลือกในขณะที่รถยนต์ใหม่ที่ประกอบในประเทศมีราคาสูงมาก

แต่ยอดขายรถยนต์ประกอบในประเทศเมื่อปีที่แล้วขยายตัวสูงอย่างเป็นประวัติการณ์ จึงเป็นได้ที่รัฐบาลจะขึ้นภาษีรถยนต์นำเข้าอีกครั้ง สื่อของทางการเวียดนามกล่าว

การขาดดุลการค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างมากมายเป็นเรื่องที่คาดการมาก่อนและไม่ได้สร้างความแลปกประหลาดใจให้กับฝ่ายใดนอกเสียจากนักเศรษฐศาสตร์จำนวนหนึ่งที่เห็นว่า เวียดนามน่าจะลดเป้าการขยายตัวทางเศรษฐกิจลง เพื่อลดรายจ่ายซึ่งส่งผลกระทบต่อเงินสำรองของประเทศ

กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมเวียดนาม (Ministry of Industry and Trade) กล่าวเมื่อต้นปีว่า ปี 2551 นี้การขาดดุลการค้าทั้งปีอาจจะเพิ่มขึ้น 30 % จากปีที่แล้ว เนื่องจากกำลังจะมีการนำเข้าสินค้าอุปโภคมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมัน เช่นเดียวกับสินค้าทุนต่างๆ

เวียดนามกำลังจะต้องนำเข้าสินค้าทุนมากขึ้น เพื่อผลิตเป็นสินค้าออกให้ได้มากขึ้น สนองเป้าหมายการการขยายตัวทางเศรษฐกิจประมาณ 8.5-9%

ตามตัวเลขของกระทรวง MOIT ตัวเลขขาดดุลการค้าปี 2550 พุ่งทะเล 12,300 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าตัวจากปี 2549

นายหวูฮวีหว่าง (Vu Huy Hoang) รัฐมนตรีว่าการกระทรวง MOIT กล่าวว่า 2 ใน 3 ของสินค้านำเข้าเมื่อปีที่แล้วเป็นวัสดุต่างๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าอุตสาหกรรมสนับสนุนภายในประเทศยังอ่อนแอและขาดการพัฒนา ทำให้เวียดนามต้องพึ่งพาต่างประเทศ

ถ้าหากต้องการให้ผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 8.5-9% ตามเป้าหมายในปี 2551 นี้ เวียดนามจะต้องเพิ่มยอดการส่งออกให้ได้ถึง 59,030 ล้านดอลลาร์เป็นอย่างต่ำ นั่นคือเพิ่มขึ้น 22% จากปีที่แล้ว

เป้าหมายดังกล่าวจะทำให้มูลค่านำเข้าวัสดุต่างๆ เพิ่มขึ้นอีก 25% เป็น 76,000 ล้านดอลลาร์และตัวเลขขาดดุลทั้งปีเป็น 16,970 ล้านดอลลาร์ เพิ่ม 36.9% จากปี 2550.
กำลังโหลดความคิดเห็น