xs
xsm
sm
md
lg

คนสองแควผวาธนารักษ์เตรียมยึดโฉนดย่านศก.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พิษณุโลก - นักธุรกิจย่านเศรษฐกิจเมืองสองแควผวา กรมธนารักษ์ เดินหน้ายึดโฉนดที่ดินทับแนวคูเมือง-กำแพงเมืองโบราณ เปลี่ยนเป็น “หนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง” ทำให้พื้นที่เศรษฐกิจหายครึ่งเมือง หอการค้าจังหวัดพิษณุโลกสวดยับ พ.ร.บ.โบราณสถานฯทำเศรษฐกิจใจกลางเมืองสองแควพัง ด้านกรมศิลป์ระบุทางออกข้อยุติ ออกโฉนดโดยมิชอบหรือไม่ อยู่ที่ดุลพินิจศาล ที่อาจต้องสู้กันชั่วลูกชั่วหลาน

รายงานข่าวจากจังหวัดพิษณุโลก แจ้งว่า เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กลุ่มนักธุรกิจชาวเมืองสองแควนับ 100 คน นำโดย นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ นายวิเศษ วชิราศรีศิริกุล ประธานหอการค้าจังหวัดพิษณุโลกและนายธิติวัฒน์ ด่านสว่าง ส.จ.เมืองพิษณุโลก ได้เดินทางมายื่นหนังสือเพื่อเรียกร้องของความเป็นธรรม ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กรณีกรมธนารักษ์และกรมศิลปากร เตรียมเพิกถอนโฉนดที่ดินที่ปลูกสร้างตึกอาคารพาณิชย์ในย่านเศรษฐกิจสำคัญของตัวเมืองพิษณุโลกเพื่อเปลี่ยนเป็น “หนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง”

นายวรเชษฐ ทับทับ ธนารักษ์จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า การดำเนินการสำรวจรังวัดกำหนดขอบเขตที่ดินกำแพงเมือง คูเมืองพิษณุโลก เพิ่งแล้วเสร็จไม่กี่วันนี้ เนื่องจากธนารักษ์จังหวัดได้รับงบประมาณแล้วให้เจ้าพนักงานที่ดินสำรวจแนวกำแพงเมืองเก่า ที่ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน ปี 2479 ซึ่งครั้งนั้นได้ขึ้นทะเบียนโบราณสถานไว้หลายจังหวัด กระทั่งปี 2541 มติ ครม.กำหนดแนวทางควบคุมสิ่งก่อสร้าง และการแก้ปัญหาการบุกรุกที่ราชพัสดุบริเวณคูเมือง – กำแพงเมือง ซึ่งกรมธนารักษ์ ไม่ได้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง เพียงแต่ให้ต่ออายุสัญญาเช่าระยะสั้นปีต่อปี

นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คณะกรรมการเพื่อพิจารณากำหนดขอบเขตที่ดินกำแพงเมืองคูเมือง ทำให้กรมธนารักษ์และกรมศิลป์ ถืออำนาจเต็มๆ ตามพระราชบัญญัติโบราณฯ พ.ศ.2504 และ พ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ พ.ศ.2518 ทำให้รัฐมีอำนาจยึดโฉนดบนที่ดินของประชาชนที่เดือดร้อนในวันนี้ แล้วเปลี่ยนเป็นหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง ก็เท่ากับว่า โฉนดที่ถืออยู่เดิมนั้นคือ กระดาษ ถือว่า มีผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจเมืองพิษณุโลก

นายวิเศษ วชิราศรีศิริกุล ประธานหอการค้าจังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่า หากรัฐยึดโฉนดของนักธุรกิจใจกลางเมืองย่านเศรษฐกิจ ตั้งแต่ศาลเจ้าพ่อปู่ดำ หรือถนนมหาธรรมราชา และถนนเอกาทศรฐ ต่อเนื่องถึงถนนหลังวัดใหญ่ สิ้นสุดที่วัดโพธิญาณ นักธุรกิจ อาซิ้ม อาซ้อ จะได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้าหลายพันคน โฉนดที่ดินจะไม่มีค่า และที่สำคัญ โฉนดที่นำไปวางสถาบันการเงินจะต้องทำอย่างไร เศรษฐกิจเมืองสองแคว บางร้านค้าอาจถึงขั้นล่มสลาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มนักธุรกิจชาวเมืองพิษณุโลกส่วนใหญ่ไม่พอใจกับคำสั่งของหน่วยราชการคือ ธนารักษ์จังหวัดพิษณุโลกที่ส่งเจ้าหน้าที่มาสำรวจและรังวัด บางรายเซ็นหนังสือคัดค้าน มีเพียงบางรายที่เซ็นยินยอม เพราะไม่รู้เรื่องกับการสำรวจแนวคูเมืองครั้งนี้ หลายคนไม่เข้าใจแนวทางของรัฐว่า จะยึดที่ดินย่านเศรษฐกิจ ย่านค้าขาย ที่แพงที่สุดของคนเมืองพิษณุโลกไปทำอะไรกับข้ออ้างแนวเขตโบราณสถาน ขณะที่การบูรณะพระราชวังจันทน์เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวก็ยังไม่คืบหน้าไปไหน

อย่างไรก็ตามนายสมบูรณ์ ศรีพัฒนาวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าวในที่ประชุมว่า ขอให้หน่วยงานที่ดินที่สำรวจและธนารักษ์จังหวัด ยุติการดำเนินการไปก่อน ตนจะนำเรื่องดังกล่าวไปหารือกับกรมศิลป์ กรมธนารักษ์ และรัฐบาล เพราะตนต้องการพัฒนาพระราชวังจันทน์ อันเป็นสถานที่ประสูติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช บริเวณโรงเรียนชายเดิมเท่านั้น ขอให้ทุกฝ่ายยุติ หยุดการเคลื่อนไหว มิฉะนั้นเศรษฐกิจเมืองพิษณุโลกจะเสียหาย

แหล่งข่าวระดับสูงกรมศิลปากร เปิดเผยว่า แนวคูเมืองจังหวัดพิษณุโลกได้ขึ้นทะเบียนมานานแล้ว ตามพระราชบัญญัติโบราณสถานโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ.2504 และได้แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2535 ซึ่งข้อยุติกรณีดังกล่าว ต้องให้คำสั่งศาลชี้ขาด ขั้นตอนอันดับแรก คือ ต้องพิสูจน์สิทธิ์ว่า ใครอยู่ก่อนหลัง พ.ร.บ.โบราณสถานฯ วันนี้ไม่สามารถบอกได้ว่า กรมธนารักษ์หรือกรมศิลป์ผิด ต้องใช้กระบวนการศาลถึง 3 ศาล เรียกว่า ชาวเมืองพิษณุโลกจะต้องต่อสู้นานหลายปีต่อเนื่องนับสิบปี หรือจนกว่าส่งลูกเรียนจบ ก็ยังไม่รู้ว่า ประชาชนหรือหน่วยงานราชการชนะ ศาลเท่านั้นจะเป็นผู้ชี้ขาดว่า ที่ดินดังกล่าวนั้น ออกโฉนดโดยมิชอบ หรือ โดยชอบด้วยกฎหมาย ลักษณะเหมือนการครอบครองที่ดินในเขตป่า
กำลังโหลดความคิดเห็น