ผู้จัดการรายวัน- พูนภิรมย์นัดถกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสรุปราคาก๊าซหุงต้มวันนี้(26ก.พ.) ว่าจะปรับขึ้นเฉพาะภาคขนส่ง- อุตสาหกรรมหรือไม่ พยายามไม่แตะภาคครัวเรือน “ปตท.”รับลูกหวั่นปล่อยไว้ต้องนำเข้าแทนแน่ ขณะที่ราคาน้ำมันยอมรับขาขึ้นขอดูตลาดโลก 1-2 วันหากยังขึ้นต่อมีโอกาสปรับเพิ่มสูง
พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงาน เปิดเผยหลังการเป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาการดำเนินโครงการผลิตสาธารณูปการ และสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ไอน้ำระหว่างปตท.และบางจากว่า วันนี้(26 ก.พ. ) จะหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปความชัดเจนถึงโครงสร้างราคา ซึ่งจำเป็นต้องฟังข้อเสนอแนะจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องรวมไปถึงความพร้อมของก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์หรือ เอ็นจีวี อย่างไรก็ตามแนวทางการขึ้นราคาเฉพาะค่าขนส่งและภาคอุตสาหกรรมโดยไม่ปรับภาคครัวเรือนหรือไม่คงได้ข้อสรุปในครั้งนี้
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบมจ.ปตท.กล่าวว่า ราคาก๊าซหุงต้มจะปรับขึ้นเฉพาะภาคขนส่งและภาคอุตสาหกรรมหรือไม่คงต้องหารือภาพรวมก่อน แต่หากเป็นวิธีดังกล่าวก็พร้อมทำตามนโยบายภาครัฐโดยวิธีการก็จะไปพิจารณาเก็บภาษีที่หัวจ่ายหรือโรงแยกก๊าซธรรมชาติ อย่างไรก็ตามยอมรับว่าปัจจุบันราคาก๊าวหุงต้มของไทยเทียบกับเพื่อนบ้านเช่น กัมพูชา มาเลเซีย อินโดนีเซีย ลาว ฯลฯ มีราคาต่ำกว่าครึ่งส่งผลให้มีการลักลอบส่งออกตามชายแดน
นอกจากนี้การใช้ในภาคขนส่งที่เติบโตเฉลี่ย 30% และภาคอุตสาหกรรมอีก 10% นั้นหากยังคงอัตราปัจจุบันไปอีก 2 ปีไทยจะต้องนำเข้าก๊าซหุงต้มแทนซึ่งมีราคาขณะนี้สูงถึง 800 เหรียญต่อตันแต่โครงสร้างราคาของไทยอยู่ที่ 320 เหรียญต่อตันหากยึดราคาน้ำมันดิบตลาดโลกเมื่อ 5 ปีที่อยู่ระดับ 20 กว่าเหรียญต่อบาร์เรลคงจะไม่มีปัญหาแต่ปัจจุบันราคาขยับไประดับ 100 เหรียญต่อบาร์เรลแล้วจึงทำให้บิดเบือนจากข้อเท็จจริง
“ แนวทางรัฐคงจะดูแลในภาคครัวเรือน ส่วนขนส่งและภาคอุตสาหกรรมหากมองทางเลือกอื่นๆ ขนส่งก็ใช้น้ำมันไบโอดีเซล แก๊สโซฮอล์ เอ็นจีวีได้ ส่วนอุตสาหกรรมก็ใช้น้ำมันเตา “นายประเสริฐกล่าว ขอดู1-2วันก่อนเปลี่ยนราคาน้ำมัน
นายประเสริฐกล่าวถึงราคาน้ำมันว่า ปิดตลาดวันที่ 24 ก.พ. น้ำมันตลาดโลกปิดตัวลดลงมาเฉลี่ย 2 เหรียญต่อบาร์เรลแต่ก็ยังไม่ได้ครอบคลุมต้นทุนก่อนหน้านี้ที่ราคาน้ำมันดิบได้ปรับขึ้นไปถึง 10 เหรียญต่อบาร์เรลขณะที่ราคาขายปลีกในประเทศปรับไปเพียง 40 สตางค์ต่อลิตรดังนั้นราคาขายปลีกจึงมีทิศทางที่จะเป็นขาขึ้นได้อีก แต่ปตท.จะขอดูราคาน้ำมันตลาดโลก 1-2 วันหากมีทิศทางที่ลดลงการเปลี่ยนแปลงก็น้อยลงไปแต่หากยังคงปรับขึ้นอีกการปรับขึ้นก็มีสูง
“ปตท.คงต้องดูราคาตลาดโลก 1-2 วันว่าจะลงแรง หรือว่าปรับขึ้นสูง หรือทรงตัว ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ปตท.ไม่ได้ปรับราคาขายปลีกสะท้อนตลาดโลกเพราะต้องการดูราคาฐานใหม่ของน้ำมันตลาดโลกอีกทีว่าจะไปในทิศทางใด เพื่อต้องการให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด ซึ่งผู้ค้าที่ผ่านมาก็ได้มีการชะลอการปรับขึ้นโดยร่วมกันแบกรับภาระขาดทุนแทน”นายประเสริฐกล่าว
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่บมจ.บางจาก กล่าวว่า ยอมรับว่าขณะนี้ค่าการตลาดน้ำมันยังต่ำอยู่โดยดีเซลติดลบ 30 สตางค์ต่อลิตร เบนซินค่าการตลาดอยู่ที่ 30 สตางค์ต่อลิตรหากพิจารณาค่าการตลาดดังกล่าวแล้วข้อเท็จจริงผู้ค้าคงจะต้องปรับราคาขายเพิ่มอีกดังนั้นการจะปรับขึ้นหรือไม่สัปดาห์นี้คงจะต้องติดตามราคาตลาดโลกเป็นหลัก
พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงาน เปิดเผยหลังการเป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาการดำเนินโครงการผลิตสาธารณูปการ และสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ไอน้ำระหว่างปตท.และบางจากว่า วันนี้(26 ก.พ. ) จะหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปความชัดเจนถึงโครงสร้างราคา ซึ่งจำเป็นต้องฟังข้อเสนอแนะจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องรวมไปถึงความพร้อมของก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์หรือ เอ็นจีวี อย่างไรก็ตามแนวทางการขึ้นราคาเฉพาะค่าขนส่งและภาคอุตสาหกรรมโดยไม่ปรับภาคครัวเรือนหรือไม่คงได้ข้อสรุปในครั้งนี้
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบมจ.ปตท.กล่าวว่า ราคาก๊าซหุงต้มจะปรับขึ้นเฉพาะภาคขนส่งและภาคอุตสาหกรรมหรือไม่คงต้องหารือภาพรวมก่อน แต่หากเป็นวิธีดังกล่าวก็พร้อมทำตามนโยบายภาครัฐโดยวิธีการก็จะไปพิจารณาเก็บภาษีที่หัวจ่ายหรือโรงแยกก๊าซธรรมชาติ อย่างไรก็ตามยอมรับว่าปัจจุบันราคาก๊าวหุงต้มของไทยเทียบกับเพื่อนบ้านเช่น กัมพูชา มาเลเซีย อินโดนีเซีย ลาว ฯลฯ มีราคาต่ำกว่าครึ่งส่งผลให้มีการลักลอบส่งออกตามชายแดน
นอกจากนี้การใช้ในภาคขนส่งที่เติบโตเฉลี่ย 30% และภาคอุตสาหกรรมอีก 10% นั้นหากยังคงอัตราปัจจุบันไปอีก 2 ปีไทยจะต้องนำเข้าก๊าซหุงต้มแทนซึ่งมีราคาขณะนี้สูงถึง 800 เหรียญต่อตันแต่โครงสร้างราคาของไทยอยู่ที่ 320 เหรียญต่อตันหากยึดราคาน้ำมันดิบตลาดโลกเมื่อ 5 ปีที่อยู่ระดับ 20 กว่าเหรียญต่อบาร์เรลคงจะไม่มีปัญหาแต่ปัจจุบันราคาขยับไประดับ 100 เหรียญต่อบาร์เรลแล้วจึงทำให้บิดเบือนจากข้อเท็จจริง
“ แนวทางรัฐคงจะดูแลในภาคครัวเรือน ส่วนขนส่งและภาคอุตสาหกรรมหากมองทางเลือกอื่นๆ ขนส่งก็ใช้น้ำมันไบโอดีเซล แก๊สโซฮอล์ เอ็นจีวีได้ ส่วนอุตสาหกรรมก็ใช้น้ำมันเตา “นายประเสริฐกล่าว ขอดู1-2วันก่อนเปลี่ยนราคาน้ำมัน
นายประเสริฐกล่าวถึงราคาน้ำมันว่า ปิดตลาดวันที่ 24 ก.พ. น้ำมันตลาดโลกปิดตัวลดลงมาเฉลี่ย 2 เหรียญต่อบาร์เรลแต่ก็ยังไม่ได้ครอบคลุมต้นทุนก่อนหน้านี้ที่ราคาน้ำมันดิบได้ปรับขึ้นไปถึง 10 เหรียญต่อบาร์เรลขณะที่ราคาขายปลีกในประเทศปรับไปเพียง 40 สตางค์ต่อลิตรดังนั้นราคาขายปลีกจึงมีทิศทางที่จะเป็นขาขึ้นได้อีก แต่ปตท.จะขอดูราคาน้ำมันตลาดโลก 1-2 วันหากมีทิศทางที่ลดลงการเปลี่ยนแปลงก็น้อยลงไปแต่หากยังคงปรับขึ้นอีกการปรับขึ้นก็มีสูง
“ปตท.คงต้องดูราคาตลาดโลก 1-2 วันว่าจะลงแรง หรือว่าปรับขึ้นสูง หรือทรงตัว ซึ่งก่อนหน้านี้ที่ปตท.ไม่ได้ปรับราคาขายปลีกสะท้อนตลาดโลกเพราะต้องการดูราคาฐานใหม่ของน้ำมันตลาดโลกอีกทีว่าจะไปในทิศทางใด เพื่อต้องการให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด ซึ่งผู้ค้าที่ผ่านมาก็ได้มีการชะลอการปรับขึ้นโดยร่วมกันแบกรับภาระขาดทุนแทน”นายประเสริฐกล่าว
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่บมจ.บางจาก กล่าวว่า ยอมรับว่าขณะนี้ค่าการตลาดน้ำมันยังต่ำอยู่โดยดีเซลติดลบ 30 สตางค์ต่อลิตร เบนซินค่าการตลาดอยู่ที่ 30 สตางค์ต่อลิตรหากพิจารณาค่าการตลาดดังกล่าวแล้วข้อเท็จจริงผู้ค้าคงจะต้องปรับราคาขายเพิ่มอีกดังนั้นการจะปรับขึ้นหรือไม่สัปดาห์นี้คงจะต้องติดตามราคาตลาดโลกเป็นหลัก
