แม้ว่า ประชาชน 20 ล้านคนจาก 32 ล้านคนที่ไปลงคะแนนใช้สิทธิเลือกตั้ง พากันไปเลือกพรรคอื่นที่ตรงข้ามกับพรรคพลังประชาชน พวกที่พยายามสร้างแคมเปญก่อนการเลือกตั้งว่า ถ้าสนับสนุนเผด็จการให้เลือกพรรคพลังประชาชน ก็ยังสรุปเอาดื้อๆ ว่า พวกเขาประสบชัยชนะในการปลุกกระแสประชาชน
ทั้งที่จริงแล้ว ระบอบทักษิณพ่ายแพ้อย่างย่อยยับในการเลือกตั้ง จากที่เคยมีคนสนับสนุน 19 ล้านคน ลดมาเหลือ 16 ล้านคนในการเลือกตั้งที่มีพรรคใหญ่พรรคเดียวแล้วจ้างพรรคเล็กลงแข่ง มาเหลือเพียง 12 ล้านคนในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด แล้วใช้เงินหว่านล้อมต่อรองให้พรรคการเมืองอื่นเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลผสม
และแม้ว่าผลการเลือกตั้งในกรุงเทพฯ ภาคตะวันออก เขตเมือง เขตเทศบาล พรรคพลังประชาชนจะพ่ายแพ้การเลือกตั้งเกือบทุกเขต ก็ยังมีคนสรุปว่า ชัยชนะของพรรคพลังประชาชนที่ได้จำนวน ส.ส.มากที่สุด เพราะประชาชนส่วนใหญ่มีความตื่นตัวทางการเมือง มีความรู้ความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตย
หลังการรัฐประหาร พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นักวิชาการ ปัญญาชน ประชาชนที่ออกมาขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่ฉ้อฉลถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้สนับสนุนเผด็จการและเชื้อเชิญทหารให้เข้ามาโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตย ด้วยการมองข้ามความฉ้อฉลของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ประชาชนออกมาชุมนุมขับไล่
การกำจัดระบอบทักษิณถูกสร้างภาพว่า เป็นการขัดแย้งของชนชั้นระหว่างกลุ่มทุนเก่าศักดินากับกลุ่มทุนใหม่ ที่ผลประโยชน์ไม่ลงตัว มากกว่าการที่ประชาชนมีความตื่นตัวทางการเมืองและลุกขึ้นมาใช้สิทธิในระบอบประชาธิปไตย เพราะทนไม่ได้ที่มีรัฐบาลฉ้อฉลเอาแต่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ของประเทศชาติ
แต่กลุ่มคนที่ออกมาต่อสู้เพื่อปกป้องรัฐบาลฉ้อฉลหลังการรัฐประหารกลับได้รับการยกย่องว่าเป็นนักสู้เพื่อประชาธิปไตย
ขณะที่ พันธมิตรฯ และกลุ่มคนที่เคยขับไล่ระบอบทักษิณที่ฉ้อฉลพยายามชี้ให้เห็นว่า แม้จะถูกโค่นล้มแล้ว พิษภัยของระบอบทักษิณก็ยังดำรงอยู่ กลับถูกกล่าวหาว่า เล่นไม่เลิก มีเสียงเรียกร้องให้ยุติบทบาท ยุติการเคลื่อนไหว ด้วยข้ออ้างว่าเพื่อให้เกิดความสมานฉันท์
ทักษิณแม้ที่ผ่านมาเคยพิสูจน์มานักต่อนักแล้วว่า คำพูดของเขาเชื่อถือไม่ได้และตลบแตลง กับยังใช้ลีลาวาทะว่า จะยุติบทบาททางการเมือง จะทำงานเพื่อการกุศล ไม่โหยหาอำนาจอีกต่อไป แล้วแอบสนับสนุนทางการเงินอย่างลับๆ ใช้นักสู้เพื่อประชาธิปไตยจอมปลอมเหล่านี้เป็นเครื่องมือในการกลับเข้ามาสู่อำนาจ ด้วยการสร้างเครือข่ายอย่างกว้างขวาง
พูดง่ายๆ ก็คือ ว่าทักษิณแกล้งทำเป็นตาย ก็มีคนหลงเชื่อว่า ทักษิณตายทางการเมืองไปแล้ว อ้างว่า มีเพียง “ผีทักษิณ” ที่ถูกปลุกขึ้นมาเพื่อสร้างความชอบธรรมแก่อำนาจของทหาร และกองทัพในการควบคุมการเมืองและนักการเมือง
คำพูดเหล่านี้ทำให้คนกลุ่มหนึ่งที่อิงแอบอยู่กับระบอบทักษิณหยิบฉวยเอามาเป็นเครื่องมือลิดรอนพลังประชาชนที่เคลื่อนไหวต่อต้านระบอบทักษิณให้อ่อนแอลง
แล้วใช้ “ผีทักษิณ” ที่แกล้งตาย กดพันธมิตรฯ และพลังประชาชนที่ต้องการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนที่ยังไม่เข้าใจได้เข้าใจว่าระบอบทักษิณมีความชั่วช้าอย่างไรต้องหยุดชะงักลง คนจำนวนมากจึงไม่เชื่อว่า ทักษิณผิด ทั้งๆ ที่มีคำอธิบายมากมายถึงการที่ทักษิณใช้คอร์รัปชันเชิงนโยบายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจของตัวเอง
คนจำนวนหนึ่งจึงยังมีความคิดความเชื่อว่า ทักษิณรวยแล้วจะโกงไปทำไม เงินที่มีอยู่คือการทำมาหากินจากธุรกิจที่ทักษิณลงมือลงแรงมาก่อนเข้ามาสู่การเมือง ข้อกล่าวหาทักษิณทั้งหมดคือ การใส่ร้ายป้ายสีทักษิณแทบทั้งสิ้น
ปัญญาชนผู้นิยมทักษิณจำนวนไม่น้อยก็รู้พฤติกรรมฉ้อฉลเหล่านั้น แต่บางคนแสร้งทำเป็นไม่รู้ และใช้มายาคติว่า ทักษิณเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นต้องให้ประชาชนตัดสินในการเลือกตั้งครั้งต่อไปเท่านั้น ว่า ทักษิณควรเป็นรัฐบาลต่อไปหรือไม่
แต่ความจริงก็คือว่าประชาชนที่รู้ว่าระบอบทักษิณฉ้อฉลและเข้าถึงข้อมูลข่าวสารเป็นคนส่วนน้อยในระบอบประชาธิปไตย
มีคนจำนวนไม่น้อยอิงแอบอยู่กับผีทักษิณ ทั้งพวกที่รู้ว่าทักษิณแกล้งเป็นผี และอาจจะโดยหน่อมแน้มว่าทักษิณหมดอำนาจทางการเมืองไปแล้วจริงๆ ช่วยกันกลบเสียงของฝ่ายต่อต้านระบอบทักษิณที่ออกมาตะโกนสู้ว่าทักษิณยังไม่ตายและยังคงเล่นไม่เลิก ทักษิณอยู่เบื้องหลังและกำลังต่อท่อน้ำเลี้ยงเข้าสู่กลุ่มคนที่ออกมาเคลื่อนไหวและระบบราชการที่ยังสวามิภักดิ์ โดยมีฉากบังหน้าว่าต่อสู้กับเผด็จการ
ทั้งๆ ที่สังคมรู้ว่าอันตรายของคุณทักษิณคืออะไร และพยายามสร้างกลไกและกระบวนการป้องกันการกลับมาของอำนาจที่ฉ้อฉล แต่คนเหล่านี้ถูกกล่าวหาว่า กลัวทักษิณจนเกินเหตุ แถมมีข้อหาว่าเอาผีทักษิณเที่ยวไปหลอกคนอื่นเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง
แม้แต่คุณพี่เปลว สีเงิน ที่เคารพของผม และชิงชังระบอบทักษิณก็ยังออกมาบอกว่า เงื่อนไข สถานการณ์นั้นผ่านไป-เปลี่ยนไปแล้ว และเป็นการเปลี่ยนไปที่เรียกว่า “คุณสนธิชนะแล้ว” เพื่อเรียกร้องให้ยุติการออกอากาศของรายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ทางช่อง 11 รวมทั้งเรียกร้องให้สนธิ ลิ้มทองกุล ยุติการจัดรายการในเอเอสทีวีด้วยซ้ำไป
ทั้งๆ ที่หลังการออกอากาศทางช่อง 11 ในวันแรกมีคนโทรศัพท์เข้ามาในห้องส่งของเอเอสทีวีทั้งฝ่ายที่สนับสนุนและต่อต้าน และหลังจากมีการเผยแพร่ภาพของตำรวจปล่อยให้ฝ่ายสนับสนุนทักษิณรุมกระทืบประชาชนที่ต่อต้านอย่างรู้เห็นเป็นใจ ก็มีแต่เสียงโทรศัพท์จำนวนมากโทร.เข้ามาถามว่า มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยหรือ
แล้ววันนี้คืออะไร ผลเลือกตั้งออกมาแล้ว พรรคพลังประชาชนซึ่งเป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทยกลับเข้ามาเป็นรัฐบาล คนที่กำหนดเกมการเมืองตัวจริงก็ยังคือ ทักษิณ ท่อน้ำเลี้ยงถูกส่งเข้าสู่สนามเลือกตั้งมากกว่าที่เคยมีมาก่อน เพราะเดิมพันครั้งนี้สูงกว่าทุกครั้ง ใครจะเป็นรัฐมนตรีใครจะอยู่ตำแหน่งไหนเจ้าของเงินเป็นคนกำหนด
รัฐบาลชุดนี้ถูกจัดตั้งมาจากฮ่องกง กระทั่งสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ก็ยังบ่นว่า ไม่มีอำนาจต่อรองในพรรคจนต้องออกมาพูดต่อสาธารณะ
เราผิดหวังกับอำมาตยาธิปไตยแบบขิงแก่ที่ล้าหลัง และทำอะไรไม่เป็น นอกจากหายใจไปวันๆ แต่เราต้องยอมรับประชาธิปไตยจอมปลอม แต่แท้จริงแล้วคือ ธนาธิปไตยเช่นนั้นหรือ เราต่อต้านอำนาจจากปากกระบอกปืน แต่ไม่ต่อต้านจากอำนาจรัฐที่ซื้อด้วยเงิน
น่าประหลาดใจว่า วันนี้ปัญญาชนกลุ่มหนึ่งซึ่งเคยร่วมมือกับคนเดือนตุลาในพรรคไทยรักไทยออกมาปกป้องทักษิณที่ฉ้อฉล ด้วยข้ออ้างว่ามาจากระบอบประชาธิปไตย และใช้เป็นธงทิ่มแทงพันธมิตรฯ กลับไม่ยอมรับและทำใจรับไม่ได้กับสมัคร สุนทรเวช ซึ่งมาจากระบอบประชาธิปไตยเช่นเดียวกัน
วันนี้พิสูจน์แล้วว่า ทักษิณยังไม่ตายและเป้าหมายต่อไปที่เขาต้องโค่นล้ม หากยังดื้อแพ่งต่อการควบคุมก็คือนายกรัฐมนตรีที่มาจากระบอบประชาธิปไตยที่ชื่อ สมัคร สุนทรเวช
ทั้งที่จริงแล้ว ระบอบทักษิณพ่ายแพ้อย่างย่อยยับในการเลือกตั้ง จากที่เคยมีคนสนับสนุน 19 ล้านคน ลดมาเหลือ 16 ล้านคนในการเลือกตั้งที่มีพรรคใหญ่พรรคเดียวแล้วจ้างพรรคเล็กลงแข่ง มาเหลือเพียง 12 ล้านคนในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด แล้วใช้เงินหว่านล้อมต่อรองให้พรรคการเมืองอื่นเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาลผสม
และแม้ว่าผลการเลือกตั้งในกรุงเทพฯ ภาคตะวันออก เขตเมือง เขตเทศบาล พรรคพลังประชาชนจะพ่ายแพ้การเลือกตั้งเกือบทุกเขต ก็ยังมีคนสรุปว่า ชัยชนะของพรรคพลังประชาชนที่ได้จำนวน ส.ส.มากที่สุด เพราะประชาชนส่วนใหญ่มีความตื่นตัวทางการเมือง มีความรู้ความเข้าใจในระบอบประชาธิปไตย
หลังการรัฐประหาร พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย นักวิชาการ ปัญญาชน ประชาชนที่ออกมาขับไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่ฉ้อฉลถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้สนับสนุนเผด็จการและเชื้อเชิญทหารให้เข้ามาโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตย ด้วยการมองข้ามความฉ้อฉลของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ประชาชนออกมาชุมนุมขับไล่
การกำจัดระบอบทักษิณถูกสร้างภาพว่า เป็นการขัดแย้งของชนชั้นระหว่างกลุ่มทุนเก่าศักดินากับกลุ่มทุนใหม่ ที่ผลประโยชน์ไม่ลงตัว มากกว่าการที่ประชาชนมีความตื่นตัวทางการเมืองและลุกขึ้นมาใช้สิทธิในระบอบประชาธิปไตย เพราะทนไม่ได้ที่มีรัฐบาลฉ้อฉลเอาแต่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าประโยชน์ของประเทศชาติ
แต่กลุ่มคนที่ออกมาต่อสู้เพื่อปกป้องรัฐบาลฉ้อฉลหลังการรัฐประหารกลับได้รับการยกย่องว่าเป็นนักสู้เพื่อประชาธิปไตย
ขณะที่ พันธมิตรฯ และกลุ่มคนที่เคยขับไล่ระบอบทักษิณที่ฉ้อฉลพยายามชี้ให้เห็นว่า แม้จะถูกโค่นล้มแล้ว พิษภัยของระบอบทักษิณก็ยังดำรงอยู่ กลับถูกกล่าวหาว่า เล่นไม่เลิก มีเสียงเรียกร้องให้ยุติบทบาท ยุติการเคลื่อนไหว ด้วยข้ออ้างว่าเพื่อให้เกิดความสมานฉันท์
ทักษิณแม้ที่ผ่านมาเคยพิสูจน์มานักต่อนักแล้วว่า คำพูดของเขาเชื่อถือไม่ได้และตลบแตลง กับยังใช้ลีลาวาทะว่า จะยุติบทบาททางการเมือง จะทำงานเพื่อการกุศล ไม่โหยหาอำนาจอีกต่อไป แล้วแอบสนับสนุนทางการเงินอย่างลับๆ ใช้นักสู้เพื่อประชาธิปไตยจอมปลอมเหล่านี้เป็นเครื่องมือในการกลับเข้ามาสู่อำนาจ ด้วยการสร้างเครือข่ายอย่างกว้างขวาง
พูดง่ายๆ ก็คือ ว่าทักษิณแกล้งทำเป็นตาย ก็มีคนหลงเชื่อว่า ทักษิณตายทางการเมืองไปแล้ว อ้างว่า มีเพียง “ผีทักษิณ” ที่ถูกปลุกขึ้นมาเพื่อสร้างความชอบธรรมแก่อำนาจของทหาร และกองทัพในการควบคุมการเมืองและนักการเมือง
คำพูดเหล่านี้ทำให้คนกลุ่มหนึ่งที่อิงแอบอยู่กับระบอบทักษิณหยิบฉวยเอามาเป็นเครื่องมือลิดรอนพลังประชาชนที่เคลื่อนไหวต่อต้านระบอบทักษิณให้อ่อนแอลง
แล้วใช้ “ผีทักษิณ” ที่แกล้งตาย กดพันธมิตรฯ และพลังประชาชนที่ต้องการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้ประชาชนที่ยังไม่เข้าใจได้เข้าใจว่าระบอบทักษิณมีความชั่วช้าอย่างไรต้องหยุดชะงักลง คนจำนวนมากจึงไม่เชื่อว่า ทักษิณผิด ทั้งๆ ที่มีคำอธิบายมากมายถึงการที่ทักษิณใช้คอร์รัปชันเชิงนโยบายเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจของตัวเอง
คนจำนวนหนึ่งจึงยังมีความคิดความเชื่อว่า ทักษิณรวยแล้วจะโกงไปทำไม เงินที่มีอยู่คือการทำมาหากินจากธุรกิจที่ทักษิณลงมือลงแรงมาก่อนเข้ามาสู่การเมือง ข้อกล่าวหาทักษิณทั้งหมดคือ การใส่ร้ายป้ายสีทักษิณแทบทั้งสิ้น
ปัญญาชนผู้นิยมทักษิณจำนวนไม่น้อยก็รู้พฤติกรรมฉ้อฉลเหล่านั้น แต่บางคนแสร้งทำเป็นไม่รู้ และใช้มายาคติว่า ทักษิณเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ดังนั้นต้องให้ประชาชนตัดสินในการเลือกตั้งครั้งต่อไปเท่านั้น ว่า ทักษิณควรเป็นรัฐบาลต่อไปหรือไม่
แต่ความจริงก็คือว่าประชาชนที่รู้ว่าระบอบทักษิณฉ้อฉลและเข้าถึงข้อมูลข่าวสารเป็นคนส่วนน้อยในระบอบประชาธิปไตย
มีคนจำนวนไม่น้อยอิงแอบอยู่กับผีทักษิณ ทั้งพวกที่รู้ว่าทักษิณแกล้งเป็นผี และอาจจะโดยหน่อมแน้มว่าทักษิณหมดอำนาจทางการเมืองไปแล้วจริงๆ ช่วยกันกลบเสียงของฝ่ายต่อต้านระบอบทักษิณที่ออกมาตะโกนสู้ว่าทักษิณยังไม่ตายและยังคงเล่นไม่เลิก ทักษิณอยู่เบื้องหลังและกำลังต่อท่อน้ำเลี้ยงเข้าสู่กลุ่มคนที่ออกมาเคลื่อนไหวและระบบราชการที่ยังสวามิภักดิ์ โดยมีฉากบังหน้าว่าต่อสู้กับเผด็จการ
ทั้งๆ ที่สังคมรู้ว่าอันตรายของคุณทักษิณคืออะไร และพยายามสร้างกลไกและกระบวนการป้องกันการกลับมาของอำนาจที่ฉ้อฉล แต่คนเหล่านี้ถูกกล่าวหาว่า กลัวทักษิณจนเกินเหตุ แถมมีข้อหาว่าเอาผีทักษิณเที่ยวไปหลอกคนอื่นเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตัวเอง
แม้แต่คุณพี่เปลว สีเงิน ที่เคารพของผม และชิงชังระบอบทักษิณก็ยังออกมาบอกว่า เงื่อนไข สถานการณ์นั้นผ่านไป-เปลี่ยนไปแล้ว และเป็นการเปลี่ยนไปที่เรียกว่า “คุณสนธิชนะแล้ว” เพื่อเรียกร้องให้ยุติการออกอากาศของรายการ “ยามเฝ้าแผ่นดิน” ทางช่อง 11 รวมทั้งเรียกร้องให้สนธิ ลิ้มทองกุล ยุติการจัดรายการในเอเอสทีวีด้วยซ้ำไป
ทั้งๆ ที่หลังการออกอากาศทางช่อง 11 ในวันแรกมีคนโทรศัพท์เข้ามาในห้องส่งของเอเอสทีวีทั้งฝ่ายที่สนับสนุนและต่อต้าน และหลังจากมีการเผยแพร่ภาพของตำรวจปล่อยให้ฝ่ายสนับสนุนทักษิณรุมกระทืบประชาชนที่ต่อต้านอย่างรู้เห็นเป็นใจ ก็มีแต่เสียงโทรศัพท์จำนวนมากโทร.เข้ามาถามว่า มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นด้วยหรือ
แล้ววันนี้คืออะไร ผลเลือกตั้งออกมาแล้ว พรรคพลังประชาชนซึ่งเป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทยกลับเข้ามาเป็นรัฐบาล คนที่กำหนดเกมการเมืองตัวจริงก็ยังคือ ทักษิณ ท่อน้ำเลี้ยงถูกส่งเข้าสู่สนามเลือกตั้งมากกว่าที่เคยมีมาก่อน เพราะเดิมพันครั้งนี้สูงกว่าทุกครั้ง ใครจะเป็นรัฐมนตรีใครจะอยู่ตำแหน่งไหนเจ้าของเงินเป็นคนกำหนด
รัฐบาลชุดนี้ถูกจัดตั้งมาจากฮ่องกง กระทั่งสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ก็ยังบ่นว่า ไม่มีอำนาจต่อรองในพรรคจนต้องออกมาพูดต่อสาธารณะ
เราผิดหวังกับอำมาตยาธิปไตยแบบขิงแก่ที่ล้าหลัง และทำอะไรไม่เป็น นอกจากหายใจไปวันๆ แต่เราต้องยอมรับประชาธิปไตยจอมปลอม แต่แท้จริงแล้วคือ ธนาธิปไตยเช่นนั้นหรือ เราต่อต้านอำนาจจากปากกระบอกปืน แต่ไม่ต่อต้านจากอำนาจรัฐที่ซื้อด้วยเงิน
น่าประหลาดใจว่า วันนี้ปัญญาชนกลุ่มหนึ่งซึ่งเคยร่วมมือกับคนเดือนตุลาในพรรคไทยรักไทยออกมาปกป้องทักษิณที่ฉ้อฉล ด้วยข้ออ้างว่ามาจากระบอบประชาธิปไตย และใช้เป็นธงทิ่มแทงพันธมิตรฯ กลับไม่ยอมรับและทำใจรับไม่ได้กับสมัคร สุนทรเวช ซึ่งมาจากระบอบประชาธิปไตยเช่นเดียวกัน
วันนี้พิสูจน์แล้วว่า ทักษิณยังไม่ตายและเป้าหมายต่อไปที่เขาต้องโค่นล้ม หากยังดื้อแพ่งต่อการควบคุมก็คือนายกรัฐมนตรีที่มาจากระบอบประชาธิปไตยที่ชื่อ สมัคร สุนทรเวช
