xs
xsm
sm
md
lg

ศาลฎีการับฟ้องเลือกตั้งโมฆะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศาลฎีการับฟ้องคดีล้มเลือกตั้ง 3 คดีรวด ทั้งคดีที่ "ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์" ฟ้อง กกต. - พรรคพลังประชาชน - สมัคร สุนทรเวช เป็นนอมินีไทยรักไทย ศาลนัดพิจารณาคดี 15 ม.ค. นี้ แต่ให้ยกคำขอคุ้มครองชั่วคราว รวมทั้งการพิจารณาไต่สวนฉุกเฉิน เพื่อมีคำสั่งระงับการรับรองผลการเลือกตั้งของ กกต. พร้อมรับฟ้องคดีตัวแทนภาคอีสาน ฟ้อง กกต.ให้การเลือกตั้ง ส.ส.ล่วงหน้าเป็นโมฆะ โดยนัดพิจารณาคดี 16 ม.ค. "ไชยวัฒน์" มั่นใจ พยาน หลักฐานมัดแน่น

วานนี้ (3 ธ.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง ศาลมีคำสั่งรับฟ้องคดีที่ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ เขต 3 พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นฟ้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ทั้งคณะ , พรรคพลังประชาชน , นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน และผู้สมัครส.ส.บุรีรัมย์ เขต 3 พรรคพลังประชาชน เพื่อขอให้ศาลวินิจฉัย 4 ข้อ ประกอบด้วย

1. พรรคพลังประชาชนเป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทย ซึ่งไม่มีสิทธิส่งผู้สมัครส.ส.ในนามพรรคพลังประชาชนทั้งระบบสัดส่วน และระบบเขต โดยให้ศาลมีคำสั่งว่า การส่งผู้สมัครในนามพรรคพลังประชาชนทั้งระบบสัดส่วน และระบบเขต เป็นโมฆะหรือไม่เป็นผลทางกฎหมาย

2. นายสมัคร ที่เป็นตัวแทนของอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ไม่มีสิทธิลงนามส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง และการลงนามส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นโมฆะหรือไม่

3. ขอให้ศาลมีคำพิพากษาว่า การเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 15-16 ธ.ค. 50 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และให้เพิกถอนการเลือกตั้งล่วงหน้า ตลอดจนการเอาบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าไปรวมนับคะแนนเสียง โดยให้เพิกถอนการนับคะแนนเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ทั้งหมดแล้วจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่

4. ขอให้ศาลมีคำพิพากษาว่า การแจกซีดีให้กับประชาชน เป็นการผิดกฎหมาย ทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม และห้ามไม่ให้ กกต. ประกาศรับรองผลทั่วประเทศ หรือเพิกถอนการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งของผู้สมัครพรรคพลังประชาชน

โดยศาลมีคำสั่งให้รับคำฟ้องไว้พิจารณา เป็นคดีดำหมายเลขที่ ลต.1/2551 โดยนัดพิจารณาคดีใน 15 ม.ค.51 เวลา 10.00 น. โดยให้ส่งหมายแจ้งวันนัดพิจารณาคดี พร้อมสำเนาคำร้องให้ กกต. พรรคพลังประชาชน นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน นายสนอง เทพอักษรณรงค์ และ นายประสิทธิ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้สมัครส.ส. พรรคพลังประชาชน ทราบ ซึ่งหากผู้คัดค้านจะยื่นคำคัดค้าน ให้ดำเนินการภายใน 7 วัน นับแต่วันที่รับสำเนาคำฟ้อง มิฉะนั้นให้ถือว่าไม่ติดใจคัดค้าน ทั้งนี้ การส่งหมายแจ้งวันนัดพิจารณา พร้อมสำเนาคำร้อง หากไม่มีผู้รับโดยชอบ ให้ปิดหมายไว้ในที่ๆ แลเห็นได้ง่าย ณ สำนักงาน กกต. และ บุคคล

ส่วนที่ผู้ร้องยื่นคำขอคุ้มครองชั่วคราวโดยศาลฎีกา นัดพิจารณาไต่สวนฉุกเฉินเพื่อมีคำสั่งระงับการจัดการเลือกตั้ง ระงับการรับรองผลการเลือกตั้ง และระงับการจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ของ กกต.นั้น ศาลเห็นว่า รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 มาตรา 235 วรรค 1 บัญญัติให้ กกต. เป็นผู้ควบคุม และดำเนินการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.ให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม โดยเมื่อมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 กกต.ก็ดำเนินการจัดการเลือกตั้งเรื่อยมา ซึ่งการที่ผู้ร้องขอให้ศาลฎีกา มีคำสั่งระงับการจัดการเลือกตั้ง ระงับการรับรองผลเลือกตั้ง และระงับการจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ไว้ชั่วคราว ซึ่งเป็นการระงับกระบวนการเพื่อให้ได้บุคคลเข้าสู่ตำแหน่งทางการเมืองในการใช้อำนาจปกครองประเทศ ทั้งอำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจบริหาร ย่อมจะกระทบกระเทือนต่อประโยชน์ของสาธารณะชนเป็นอย่างยิ่ง กรณีจึงไม่มีเหตุเพียงพอที่ศาลจะไต่สวน และคุ้มครองชั่วคราวตามคำร้อง จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องดังกล่าว

วันเดียวกันนี้ ศาลฎีกายังได้มีคำสั่ง รับฟ้องคดีที่ นายเทพพนม ศิริวิทยารักษ์ ประธานเครือข่ายประชาชนภาคอีสานพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ที่ยื่นฟ้อง กกต. เรื่องขอให้วินิจฉัยว่า การเลือกตั้ง ส.ส.ล่วงหน้าเมื่อวันที่ 15-16 ธ.ค. 50 เป็นโมฆะไว้เป็นคดีดำ หมายเลขที่ ลต. 2/2551 และนัดพิจารณา วันที่ 16 ม.ค. 51 เวลา 10.00 น.

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 50 ศาลมีคำสั่งรับฟ้องคดีที่ นายสราวุท ทองเพ็ญ โฆษกพรรคความหวังใหม่ และอดีตผู้สมัคร ส.ส. สัดส่วน กลุ่มที่ 3 ลำดับ 3 ยื่นฟ้องกกต. เรื่องขอให้วินิจฉัยว่า การเลือกตั้ง ส.ส.ล่วงหน้าเมื่อวันที่ 15–16 ธ.ค. 50 เป็นโมฆะ เนื่องจากไม่มีอำนาจในการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้าในการเลือกตั้ง เป็นคดีดำหมายเลขที่ ลต. 44/2550 และนัดพิจารณาคดีวันที่ 11 ม.ค. 51 เวลา 10.00 น.

**มั่นใจพยาน-หลักฐานมัดแน่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ทนายความ เดินทางมาถึงศาล เจ้าหน้าที่ได้เชิญให้ไปเซ็นรับรองสำเนาเอกสารหลักฐาน โดยนายวิรัตน์ กล่าวถึงการไต่สวน ในวันที่ 15 ม.ค. ว่า ได้เตรียมพยานบุคคลไว้แล้วเพื่อพิสูจน์ว่า พรรคพลังประชาชน เป็นนอมินี หรือตัวแทนพรรคไทยรักไทย รวมทั้งพยานบุคคลที่รู้เห็น และน่าเชื่อถือที่จะยืนยันได้ว่า นายสมัคร พูดว่า ท่านเป็นนอมินีของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หรือกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณได้พูดว่า ขอให้ช่วยเลือกพรรคพลังประชาชน เพราะพรรคพลังประชาชน คือไทยรักไทย พยานที่รู้เห็นเช่น สมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) สมาชิกสภานิติบัญญัติ (สนช.) และสื่อสารมวลชนที่เป็นกลางมีน้ำหนักน่าเชื่อถือในสังคม ทั้งนี้ พยานบุคคลที่จะเตรียมไว้ทั้งหมด รวมทั้งประชาชนที่ได้รับแจกแผ่นซีดีและรู้เรื่องราว จำนวน10 ปาก โดยมีนายไชยวัฒน์ เป็นพยานบุคคลปากแรก

ผู้สื่อข่าวถามว่า การนำสืบเพื่อพิสูจน์ว่า นายสมัคร เป็นนอมินีของ พ.ต.ท.ทักษิณ หรือไม่ จะมีความยากลำบากหรือไม่ นายวิรัตน์ กล่าวว่า ไม่ยากเลย เพราะข่าวแพร่สะพัดไปทั่วโลก คือ หนึ่งกรณีที่นายสมัครพูด สองกรณีที่พ.ต.ท. ทักษิณพูด และไม่เฉพาะการพูดอย่างเดียว รวมทั้งการกระทำทั้งหลาย ทั้งการใช้สำนักงานพรรคไทยรักไทย ที่มีการย้ายจากพรรคพลังประชาชนเดิม มาอยู่พรรคไทยรักไทย และการใช้บุคลากรทีมงานชุดเดียวกันเป็นต้น โดยตนมีความมั่นใจในพยานหลักฐาน หากไม่เชื่อมั่น ก็คงไม่มีการฟ้อง และขั้นตอนการไต่สวนพยานในคดีนี้ ศาลจะใช้วิธีพิจารณาโดยรวดเร็ว และต่อเนื่อง

ด้านนายไชยวัฒน์ กล่าวว่า ตนเชื่อมั่นโดยสุจริตใจว่า พรรคพลังประชาชน เป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทย เพราะฉะนั้นย่อมไม่สิทธิส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งทั่วประเทศ โดยจะมีการนำสืบไปพร้อมๆ กันทั้งประเด็นว่า นายสมัคร เป็นนอมินีของพ.ต.ท.ทักษิณ และประเด็นพรรคพลังประชาชน เป็นนอมินีของไทยรักไทย เพราะพยานหลักฐานหลายชุดที่มี พิสูจน์ได้ว่า ทั้งพรรคพรรคพลังประชาชน เป็นนอมินีของพรรคไทยรักไทย และนายสมัครเป็นนอมินีของพ.ต.ท.ทักษิณ

**ติดหมายเรียก พปช.ชี้แจงข้อกล่าวหา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 16.30 น. ในวันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ศาลฎีกา ได้นำหมายนัดจำนวน 4 ชุด มาติดประกาศภายในที่ทำการพรรคพลังประชาชน เพื่อแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาคดีดังกล่าวได้รับทราบ โดยเปิดโอกาสให้ส่งคำคัดค้านต่อศาลฎีกาภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับสำนวน

นายยืนหยัด ใจสมุทร คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคพลังประชาชน กล่าวว่า พรรคเกรงว่า การนำหมายดังกล่าวมาติด จะไม่ถูกต้อง เนื่องจากในส่วนของ นายประสิทธิ์ ตั้งศรีเกียรติกุล และนายสนอง เทพอักษรณรงค์ ว่าที่ ส.ส. บุรีรัมย์ มิได้มีภูมิลำเนาอยู่ที่ทำการพรรคพลังประชาชน ฝ่ายกฎหมายจะรับผิดชอบเฉพาะส่วนของ นายสมัคร และพรรคพลังประชาชน จะไม่แจ้งต่อผู้สมัคร 2 คนดังกล่าว เพราะเป็นหน้าที่ของศาลที่ต้องดำเนินการ หลังจากนี้พรรคจะตั้งคณะทำงานขึ้นมารับผิดชอบเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ไม่รู้สึกกังวลต่อกรณีที่ศาลรับฟ้องดังกล่าว โดยเฉพาะคำว่า นอมินี เป็นคำจำกัดความที่มีความหมายกว้างมาก และการกล่าวอ้างนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมาย.
กำลังโหลดความคิดเห็น