คนวงการหุ้นไม่ค่อยเลือกข้างทางการเมือง โดยทั่วไป มักจะเชื่อว่า สรุปผลไปทางใดทางหนึ่ง ขอให้มีทิศทางที่ชัดเจน มีเสถียรภาพ ก็ยังดีกว่ามีความคลุมเครือ อึมครึม อยู่ตรงกลางๆ ไม่แน่ใจว่าจะไปทางไหน ? ไม่แน่ใจว่ายังมีการต่อสู้ด้านอำนาจอยู่หรือไม่ ? ไม่แน่ใจว่าจะบานปลายหรือไม่ ?
แต่ผมยังอยากชวนเหมือนเดิม ให้แทนที่จะคิดว่า "ทางไหนก็คงไม่สวย" เป็น "ทางไหนก็รับได้" หลายคนอาจจะว่ายุค ทรท. เศรษฐกิจดี เพราะเป็นรัฐบาลพรรคเดียว แต่ยุค ปชป. ซึ่งเป็นรัฐบาลผสมก็ยังดี ดัชนีหุ้นไทยสูงสุด 1,770 จุด และเครดิตประเทศสูงสุด A
บางคนอาจเห็นว่า รัฐบาล "ขิงแก่" ไม่มีผลงาน ผมเองอยากให้เรามองโลกในแง่ดีด้วยให้ครบด้าน รัฐบาล "ขิงแก่" นี้ เข้ามาด้วยความ "เสียสละ" จริงๆ
... เป็นช่วงเวลาที่ชาวไทยถูกทำให้แตกแยกมากที่สุด มีผู้พยายามให้มองไม่เห็นความถูกต้องชอบธรรม แต่สร้างสถานการณ์เป็นเรื่องของ "พวกเขา" กับ "พวกเรา" ถ้าคนไทยตระหนักในความ "รู้รักสามัคคี" ถูกเป็นถูก ผิดเป็นผิด เรื่องกระบวนการยุติธรรมก็ว่ากันไปตามหลักฐานและเหตุผล ปราศจากอคติ คนไทยก็ไม่ต้องตกเป็นทาสของผู้สร้างความแตกแยก เพราะการเอาผิด ไม่ใช่เพราะ "พวกเดียวกัน" หรือ "คนละพวก" แต่เป็นไปตามความยุติธรรม ในสถานการณ์ที่เปราะบาง รัฐบาล "ขิงแก่" สามารถประคับประคองมาจนลุล่วง ก็ถือว่าทำได้ดี
... มีสถานการณ์ที่แย่ มีผู้ต้องการดิสเครดิตรัฐบาล "ขิงแก่" ถึงขั้นวางระเบิดวันสิ้นปีอันเป็นเวลารื่นเริง มีการวางระเบิดขู่ 1 สัปดาห์ก่อนสงกรานต์ เป็นความพยายามข่มขู่ไม่ให้ประชาชนมีความสุข ก็ต้องยอมรับว่า เป็นเจตนาที่เลวร้ายจริงๆ รัฐบาล "ขิงแก่" เองก็บริหารผ่านปัญหานี้มาในระดับที่ดี เหตุการณ์ไม่บานปลาย ขวัญประชาชนยังไม่เสียเกินไป
... มีผู้พยายามประท้วงที่ท้องสนามหลวง ด้วยเรื่องเท็จ ปกปิดปัญหาความผิดของอำนาจเก่า อันเป็นเหตุของการรัฐประหารชั่วคราวครั้งนี้ ผมเองกับเพื่อนๆนักประชาธิปไตยก็ไม่นิยมการล้มรัฐบาลที่มาจากระบอบประชาธิปไตย แต่การละเลยรัฐธรรมนูญของอำนาจเก่า ก็เสมือนทำให้เราไม่มีประชาธิปไตยแท้จริง เป็นแต่เพียง "ประชาธิปไตยนอมินี" ห้ามรัฐมนตรีมีหุ้นสัมปทาน ก็สร้างกองทุนลับมาถือ โอนให้คนใกล้ชิดถือแทน แล้วก็มีนโยบายเอื้อประโยชน์ เช่นการปรับลดส่วนแบ่งมือถือพรีเพด เป็นต้น
องค์กรอิสระก็ถูกครอบงำ วุฒสภาก็มีนอมินีของพรรคการเมืองใหญ่เข้าไปมากมาย จากการยุยงด้วยความเท็จ และปกปิดความจริง รัฐบาลนี้ก็ยังดูแลให้ผ่านปัญหาไปได้โดยปัญหาไม่บานปลาย และเห็นหลักอโหสิกรรม ทำให้เกิดความสงบร่มเย็นได้อยู่
หากจะมองผลการเลือกตั้งว่า โดยจำนวน สส. ก็น่าจะจบแล้ว ก็มีสัก 3-4 ประเด็นที่เราทุกคนอาจต้องดูให้ครบด้านดังนี้ (1) ยังมีเรื่อง ใบเหลือง ใบแดง (2) ยังมีเรื่องการเป็นโนมินีของใครหรือไม่ ? ซึ่งผู้ได้คะแนนเสียงมากอาจเรียกร้องให้ “เลิกเล่น” ได้แล้ว ทำนองว่าให้รู้จักเรื่องน้ำใจนักกีฬา แต่น้ำใจนักกีฬา ก็ต้องไม่โกง และต้องยอมรับการตัดสินของกรรมการ เล่นฟุตบอลไม่ควรมีปืน กระสุนเกลื่อนกลาด แถมจ้างกองเชียร์มากมาย กรรมการตัดสินไม่ถูกใจก็ข่มขู่ด้วยพวกมาก ก็ไม่เป็นเกมส์กีฬาที่น่าภาคภูมิใจ
(3) หากมองผลการเลือกพรรค ซึ่งหลายคนตีความไปสู่การเลือกผู้ที่อยากให้เป็นนายกฯ จากจำนวนการเลือกพรรคในระบบสัดส่วน ปชป. ได้อันดับ 1 มี 14,084,265 เสียง และ พปช. ได้อันดับ 2 มี 14,071,799 เสียง ก็ถือได้ว่าเป็นคะแนนที่สูสี และสะท้อนว่า ผลข้างหน้า จะเป็นข้างไหนจัดตั้งรัฐบาล ก็น่าจะรับได้
ขณะนี้ สภาพแวดล้อมยังดูเหมือนมีลักษณะ “ไม่เลิกเล่น” คือ ไม่สนใจรัฐธรรมนูญ ที่ห้ามพรรคการเมืองเป็นตัวแทนของบุคคลอื่น กลับประกาศชัดว่าเป็นโนมินี มีการบัญชาการจากลอนดอนบ้าง ฮ่องกงบ้าง มีการเคลื่อนไหวสอดรับกันตลอด แจกวีซีดีท้าทายรัฐธรรมนูญอย่างยิ่ง เหมือนตอนรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ที่กันคนมีสัมปทานเข้ามาหาอำนาจการเมือง ก็ละเลยอย่างท้าทายรัฐธรรมนูญเช่นกัน ขณะนี้ เราก็ดูเหมือนว่ากำลังจะได้นายกฯที่เก่งเรื่องอาหาร และการบ่น ก็ดูเหมือนไม่ได้จริงจังกับการเตรียมเข้ามาบริหารบ้านเมือง แต่อาจเน้นการแก้ปัญหาของคนบางคน ปกป้องการทำผิดโดยไม่ใช้หลักฐานตามปกติ กลับใช้ความแตกแยกของคนเป็นเครื่องมือ ก็เลยอาจจะต้องทำให้สถานการณ์เดินไปสู่การ “เล่นยังไม่เลิก” ซึ่งผู้ที่ ‘ยังไม่เลิกเล่น’ อาจจะพยายามสรุปว่า “ควรจะหยุด ‘เล่นไม่เลิก’ ได้แล้ว” !!
คนวงการหุ้นส่วนมากก็ภาวนาอยากเห็นเรื่องจบ และนิ่งเสียที ผมเห็นว่าขณะที่เรายังสับสนว่าจบทางไหนดี ? สิ่งที่ดีที่สุด ก็คือ การรักษาความรักสามัคคีของคนไทยเรา และ มองทุกฝ่ายโดยปราศจากอคติ เคารพกติกา ผลเลือกตั้ง ผลใบเหลือง ใบแดง ผลการพิจารณาความเป็นพรรคโนมินี การจัดตั้งรัฐบาล หากเสียงนำไปสู่การได้ ส.ส. ตามกติกา โดยกรองจากเรื่อง ใบเหลือง ใบแดง นำไปสู่เงื่อนไขการจัดตั้งรัฐบาล และกระบวนการยุติธรรมก็ยังรักษาความตรงไปตรงมา ยึดหลักฐาน และความสมเหตุผล ไม่มีความกดดันที่ไม่เป็นธรรม ผมว่าบ้านเมืองเราก็จะผ่านปัญหานี้ไปสู่ความสดใสครับ
มนตรี ศรไพศาล
(montree4life@yahoo.com)
