xs
xsm
sm
md
lg

ไม่ชอบรธน.หมักเมินหนุนส.ว.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (12 ก.พ.) ว่า การประชุมครั้งนี้นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้เข้าชี้แจงกับครม.ถึงมติครม.เดิมเกี่ยวกับแนวทาง การเลือกตั้งส.ว.ที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 มี.ค.นี้ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบข้อปฏิบัติบางข้อ เช่นมีการห้ามส่วนราชการจัดประชุมและสัมมนาเป็นเวลา 10 วัน ก่อนการเลือกตั้ง เพราะเกรงว่าจะทำให้เจ้าหน้าที่ ส่วนราชการ ไม่สามารถอำนวยความสะดวกในการเลือกตั้งได้ ซึ่งเลขาฯกกต.ได้มีการชี้แจงชัดเจน
อย่างไรก็ตาม ครม. ได้ตั้งคำถามกับเลขาธิการ กกต.เกี่ยวกับความลักลั่นในการเลือกตั้งที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าในการเลือกตั้งส.ส.ที่ผ่านมา มีคำสั่งและระเบียบกกต.ห้ามอำนวยความสะดวกในการนำคนไปคูหาเลือกตั้ง แต่การเลือกตั้ง ส.ว.ครั้งนี้กลับทำได้ โดยมีระเบียบว่าหน่วยราชการสามารถให้บริการประชาชน โดยไม่มีการจูงใจได้ในการพาคนไปลงเลือกตั้ง ส.ว.ได้ ครม.เลยฝากเลขาฯ กกต. ไปหารือกับกกต.ทั้ง 5 คนว่าอยากให้มีความชัดเจน
นอกจากนี้ยังมีข้อสงสัยมากเรื่องการเก็บหีบบัตรการเลือกตั้งล่วงหน้าส.ส. ที่ผ่านมาเป็นไปอย่างเรียบร้อย โปร่งใสหรือไม่ อย่างไรก็ตาม นายสุทธิพล มีท่าทีที่ดีมากต่อข้อสงสัยต่างๆและจะนำไปหารือกับ กกต.ทั้ง 5 และรัฐบาลจะรอผลการหารือโดยฝ่าย กกต.จะเป็นผู้แถลง
ด้านนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า นายสุทธิพล มาชี้แจงระเบียบในการเลือกตั้งที่มีการแก้ไขใหม่ตามรัฐธรรมนูญ ครม. จึงได้ให้ กกต.ออกชี้แจงในส่วนที่ท่านแก้ไข อย่างไรก็ตามมีรัฐมนตรีได้ฝากให้ช่วยดูด้วยประเด็น ที่ห้าม ส.ส.ทำบูญในช่วง 1 ปีหลังการเลือกตั้งด้วย
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในการเข้าร่วมประชุมกับ ครม.ของนายสุทธิพล เพื่อขอความร่วมมือกับรัฐบาลให้กำชับข้าราชการและเจ้าหน้าที่วางตัวเป็นกลางในการเลือกตั้ง ส.ว.อย่างเคร่งครัด และร่วมใจกันออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ว. พร้อมทั้งขอความร่วมมือในการพิจารณาโยกย้ายข้าราชการ ซึ่งควรพิจารณา เท่าที่จำเป็นเท่านั้น ทั้งยังไม่ควรจัดอบรมหรือสัมมนาในช่วง 10 วันก่อนการเลือกตั้ง ส.ว. เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่อกำลังพลที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วย ซึ่งในที่ประชุมรัฐมนตรีต่างพากันรุมซักถามเกี่ยวกับการเห็บหีบบัตรเลือกตั้งล่วงหน้าว่าเก็บรักษาอย่างไร เพราะต่างสงสัยว่าอาจมีการทุจริต
แหล่งข่าวกล่าวด้วยว่า ระหว่างที่เลขาธิการ กกต.ขอให้ ครม.ร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์ในการรณรงค์เลือกตั้ง ส.ว.ในวันที่ 2 มี.ค. ปรากฎว่า นายสมัคร สุนทรเวช กล่าวว่า ตนคงจะไม่ไปเป็นพรีเซ็นเตอร์ในการเลือกตั้งส.ว.ครั้งนี้ เพราะ ไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ที่กำหนดให้การเลือกตั้ง ส.ว.จังหวัดเดียวมีตัวแทนจังหวัดละคน เมื่อตนไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญเช่นนี้ และการเลือกตั้ง ส.ว.ที่เป็นลักษณะนี้ แม้ครม.จะมีมติให้หน่วยงานราชการสนับสนุนการเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นส่วนตัวก็ไม่จะไปช่วยพูดสนับสนุนรณรงค์ให้คนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง
“ที่พูดนี้ขอให้จบที่ประชุมครม.แต่ผมรู้ดีว่าจะต้องมีคนเอาไปพูดข้างนอก” นายสมัครแหล่งข่าวอ้างคำพูดนายสมัคร
วันเดียวกัน คณะกรรมการสืบสวนสอบสวนกรณียุบพรรคชาติไทย และ พรรคมัชฌิมาธิปไตย ได้เชิญ ผู้ที่เกี่ยวข้องในส่วนของพรรคชาติไทยมาชี้แจง โดย ช่วงเช้าได้เชิญ นายมณเฑียร สงฆ์ประชา รองเลขาธิการพรรคชาติไทย ที่ถูก กกต. สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง(ให้ใบแดง) ขณะที่ช่วงบ่ายก็ได้เชิญนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทย ซึ่งเดินทางมาพร้อมนายนิกร จำนง รองหัวหน้าพรรค นายอนุรักษ์ จุรีมาศ รองเลขาธิการพรรคเข้าชี้แจง
โดย นายบรรหารแสดงอาการหงุดหงิดตั้งแต่ก่อนเข้าประชุม โดยตำหนิสื่อที่คอยถ่ายภาพว่า “เจ็บตา พอได้แล้วถ่ายตั้งแต่ข้างล่างแล้ว” ภายหลังการชี้แจงกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง นายบรรหาร ก็ได้ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์โดยกล่าว เพียงว่า “มาชี้แจงตามข้อเท็จจริง” ก่อนที่จะรีบเดินทางกลับ แต่มีสีหน้าที่ดีขึ้นกว่ก่อนเข้าชี้แจง
นายบุญทัน ดอกไธสง ประธานคณะกรรมการฯแถลงว่า ที่ประชุมได้ตั้งคำถามกับนายบรรหาน 7 ข้อ เป็นคำถามทั่วไปโดยนายบรรหารได้ตอบทีละข้อและตอบได้ทั้งหมด และเมื่อกรรมการมีข้อสงสัยใดก็จะสอบถามเพิ่มเติม
ผู้สื่อข่าวถามว่านายบรรหารได้ยอมรับการกระทำผิดของนายมณเฑียรหรือไม่ นายบุญทันกล่าวว่า ท่านก็บอกว่ายังสงสัยอยู่ และบอกว่า เมื่อรับทราบว่าลูกพรรค ถูกใบแดงก็ตกใจ ซึ่งก็เป็นธรรมดาของคนที่ตั้งพรรคมา 35 ปี แต่เมื่อทราบก็โทรศัพท์ไปแจ้งเลขาธิการพรรคให้พยายามแก้ไข พร้อมกับบอกว่าก่อนการเลือกตั้งก็ได้เตือนสมาชิกของพรรคว่าให้ระมัดระวัง และมีพันธกรณีโดยเป็นหนังสือให้ลูกพรรคลงลายมือชื่อว่าจะไม่ทุจริตเลือกตั้ง โดยนายมณเฑียร และนางนันทนา สงฆ์ประชา ก็ลงนามในหนังสือดังกล่าวด้วยซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลหนึ่งที่สามารถจับต้องได้
ส่วนการชี้แจงของนายมณเฑียรนั้น ว่ากรรมการตั้งคำถาม 8 ข้อ ซึ่งเขาก็ตอบได้ดีพร้อมกับยืนยันว่าไม่ต้องไปซื้อเสียงตามที่กล่าวหาเพราะรับใช้ประชาชนมาตั้งแต่รุ่นพ่อ และแม้มีตำแหน่งเป็นรองเลขาธิการพรรคก็ไม่เคยร่วมประชุมพรรค หรือรับภาระให้รับผิดชอบดูแลส.ส.ในพื้นที่
นายบุญทันกล่าวว่า คงไม่ต้องเชิญใครมาให้ปากคำเพิ่มเติม แต่ กรรมการจะยังไม่สรุป เพราะจะรอการสอบสวนกรณีพรรคมัชฌิมาธิปไตยเสียก่อนจึงจะสรุปและส่งความเห็นพร้อมกันภายในวันที่ 25 ก.พ. ซึ่งประเด็นที่พิจารณาคือการกระทำของผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิ หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรครู้เห็นหรือไม่
นาย ประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้ง กล่าวถึงการเร่งพิจารณา สำนวนทุจริตเลือกตั้งที่ค้างอยู่ 20 เรื่อง หลังจากประกาศรับรองผลเลือกตั้งส.ส.ไปก่อน ว่าจะเร่งพิจารณาให้เสร็จภายในเดือนก.พ.นี้
ส่วนการพิจารณาสำนวนของนาย ยงยุทธ ติยะไพรัช ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 1 พรรคพลังประชาชน ประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น ทางคณะกรรมการสอบสวนที่มีนาย สุวิทย์ ธีรพงษ์ เป็นประธานยังไม่มีการรายงานความคืบหน้าให้ กกต.ทราบ แต่เชื่อว่าการสอบสวนคงไม่ล่าช้า เพราะหากผู้ถูกร้องอ้างพยานจำนวนมาก คณะกรรมการฯ ก็สามารถตัดพยานที่ฟุ่มเฟือยออกไปได้ และมั่นใจว่าจะไม่มีการขยายเวลา ในการสอบสวนเพิ่ม เพราะขยายเวลามา 2 ครั้งแล้ว อีกทั้ง กกต.ก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการทำงานของคณะกรรมการสอบสวนฯ
ทั้งนี้ในการประชุมกกต.วันนี้ ( 12 ก.พ. ) ที่ประชุมจะมีการพิจารณาสำนวน สำนวนร้องเรียนและคัดค้านผลการเลือกตั้ง ส.ส. ของเขต 2 จ.เพชรบูรณ์ ที่กกต.ได้ประกาศรับรอง นายเอี่ยม ทองใจสด นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์ และสุรศักดิ์ อนรรฆพันธ์ ส.ส.พรรคพลังประชาชน ที่เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนพยานเสร็จเรียบร้อยแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น