เวทีถกรื้อ CL กระทรวงสาธารณสุข-พาณิชย์-ต่างประเทศเล่นซ่อนหา ย้ายหนีเครือข่ายผู้ป่วยจ้าละหวั่น เผยแรกสุดนัดถกพาณิชย์ จากนั้นปล่อยข่าวย้ายไปกระทรวงหมอ ก่อนเวทีล่มไม่ทราบสาเหตุ “ไชยา” ทำมึน ปัดไม่รู้เรื่องนัดประชุม ด้านเครือข่ายผู้ป่วยผิดหวังในตัวปลัด สธ. พูดมาได้ ไม่มีข้อมูล-ไม่เคยรู้เรื่องสะท้อนทำงานไม่มีประสิทธิภาพ “หมอวิชัย” ชี้รู้ไม่รู้อยู่ที่สนใจหรือไม่ ขณะที่ “หมอปราชญ์” เหน็บกลับถ้าตรงไปตรงมา ทุกคนในกระทรวงต้องรู้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าวานนี้ (14 ก.พ.) ตามที่ได้มีการนัดหมายที่จะมีการเจรจาเรื่องการประกาศใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร(CL) ของ 3 กระทรวงที่เกี่ยวข้องคือ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และกระทรวงการต่างประเทศ โดยตกลงที่จะเจรจากันที่กระทรวงพาณิชย์นั้น ปรากฏว่า วงเจรจาดังกล่าวได้เลื่อนออกไปโดยไม่ทราบสาเหตุและไม่ได้มีการเจรจาของ 3 กระทรวงที่กระทรวงพาณิชย์แต่อย่างใด
จากนั้นได้มีการปล่อยข่าวว่าจะมีการเปิดเวทีขึ้นที่กระทรวงสาธารณสุข ทำให้เครือข่ายผู้ป่วยและเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคเดินทางมารอ ติดตามผลการเจรจากันเป็นจำนวนมาก ซึ่งสุดท้ายรายข่าวแจ้งว่า เป็นเพียงการนำเอกสารมาส่งมอบให้กันที่ทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น
นายวิรัตน์ ภู่ระหงษ์ ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอดส์/เอชไอวี แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การพูดคุยกับกระทรวงพาณิชย์เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น เหมือนว่าจะคุยกันรู้เรื่อง แต่ถึงเวลาในการการประชุมร่วมกันของ 3 กระทรวง กลับมีการเปลี่ยนสถานที่ เลื่อนการประชุมออกไป ซึ่งไม่คิดว่าจะเป็นการกระทำของผู้ใหญ่ที่พูดไม่จริงเหมือนเป็นการหลอกกัน
**ไชยาปัดไม่รู้เรื่อง 3 กระทรวงเจรจา
นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สธ. กล่าวว่า ไม่ทราบว่าจะมีการประชุมหารือเรื่อง CL ในระดับปลัดกระทรวงและอธิบดีกรมร่วมกันระหว่าง 3 กระทรวงเนื่องจากไม่ได้รับรายงานจากนพ.ปราชญ์ บุญยวงศ์วิโรจน์ ปลัด สธ. ตอนแรกตนเข้าใจว่าจะมีการประชุมที่กระทรวงพาณิชย์ แต่ได้ขอเลื่อนออกไปก่อน เพราะเห็นว่ายังไม่ควรจะประชุมในขณะนี้ ควรรอให้รัฐบาลประกาศนโยบายก่อนเพื่อความสมบูรณ์ในการปฏิบัติหน้าที่
“หากมีการประชุมจริงผมก็จะเฝ้าดู ข้าราชการคงคุยกันเป็นความลับไม่อยากให้เรารู้ และโดยมารยาทคงไม่ถามว่าคุยอะไรกัน ซึ่งหลักในการเจรจานั้น ต่างคนต่างต้องรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง ปลัดสธ. มีหน้าที่ต้องดูแลคนที่เข้าไม่ถึงยา ก็ต้องทำหน้าที่แทนผู้ป่วย ซึ่งหลังจากเห็นข้อมูลผู้ป่วยมะเร็งแล้วก็รับได้ ไม่หนักมากนัก”นายไชยากล่าว
**จวกปลัด สธ. พูดมาได้ไม่มีข้อมูล CL
วันเดียวกัน เวลา 13.00 น. มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ เครือข่ายผู้ป่วยโรคมะเร็ง เครือข่ายผู้ติดเชื้อ/เอชไอวีแห่งประเทศไทย กว่า 300 คน เดินทางมายังสธ. โดยตัวแทนจากเครือข่ายได้เข้ายื่นหนังสือ และสอบถามถึงการเจรจาระหว่าง 3 กระทรวงที่กำหนดว่าจะมีการประชุมในช่วงบ่ายที่สธ. ซึ่งเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมาถึงก็พบว่าไม่มีการประชุมแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดสธ. ได้เปิดโอกาสให้ผู้ชุมนุมเข้าพบ โดยปฏิเสธไม่ทราบว่าจะมีการประชุมที่ไหน อย่างไร
น.ส. สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้ปบริโภค กล่าวภายหลังหารือว่า รู้สึกผิดหวังอย่างมากกับ ปลัดสธ. เพราะมีความตั้งใจที่จะถามถึงความพร้อมในการเตรียมข้อมูลเพื่อที่จะหารือระดับปลัดทั้ง 3 กระทรวง แต่ปลัด สธ.กลับบอกว่าไม่มีข้อมูล ซึ่งสะท้อนการทำงานของปลัดเองว่าไม่มีประสิทธิภาพ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เพิ่งรู้กันวันนี้ สธ.เองเป็นผู้เปิดประเด็นที่จะให้มีการทบทวน CL และทราบดีอยู่แล้วว่าจะต้องมีผู้ติดตามทวงถามอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังสะท้อนประสิทธิภาพการทำงานของสธ. ความตั้งใจที่จะเดินหน้าเรื่อง CLและความไม่ชัดเจนในนโยบายที่กลับไปกลับมา
“แทนที่ปลัดจะบอกว่าไม่ต้องห่วงมีข้อมูลพร้อมแล้ว กลับกลายเป็นคนละเรื่อง เป็นถึงปลัด สามารถที่จะเรียกข้อมูลจากผู้บังคับบัญชาได้อยู่แล้ว แต่กลับไม่มีข้อมูลได้อย่างไร ตลกที่สุด”น.ส.สารีกล่าว
ทั้งนี้ การที่ปลัดสธ.บอกว่าข้อมูลแต่ละแห่งไม่ตรงกัน ทั้งข้อมูลของสถาบันมะเร็ง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ไม่ใช่เหตุผลที่จะบอกว่าไม่มีข้อมูล เพราะเป็นหน่วยงานภายใต้สธ.ทั้งนั้น จึงน่าสงสัยว่าเต็มใจและตั้งใจทำเรื่องนี้หรือไม่ เพราะถ้าไม่ การมีปลัด มีสธ.ก็ไม่มีประโยชน์กับประชาชน
น.ส.สารีกล่าวด้วยว่า หากไทยยอมให้ต่างชาตินำเรื่องการการจัดระดับทางการค้ามาขู่ ก็ต้องทนทุกข์ตลอดไป รัฐบาลไม่ควรเห็นแก่การค้าชั่วคราว และควรหันมาหาทางพึ่งตนเอง ซึ่งสหรัฐฯนั้นใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้ากับประเทศคู่ค้าทั้งหมดไม่ใช่แค่ไทย ซึ่งรัฐบาลไทย ควรร้องต่อศาลโลกด้วยซ้ำที่มีการนำเรื่องของยามากีดกันการค้า เพราะเป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชน
**หมอปราชญ์ยันไม่เคยรู้เรื่อง CL
ด้านนพ.ปราชญ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาส่วนตัวไม่เคยได้ข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีข้อมูลอยู่ในมือ แต่ขณะนี้ได้มอบหมายให้นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดสธ.และรองปลัดทั้ง 3 คนดำเนินการรวบรวมข้อมูลการทำ CL กับยารักษาโรคมะเร็งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ข้อมูลมาใช้ในการหารือของทั้ง 3 กระทรวง
“การทบทวนนั้นหากทบทวนแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีก็ทำต่อไปได้ ถ้าดีก็อาจจะทำกับตัวยาโรคอื่นๆ มากกว่านี้ก็เป็นไปได้ คงทราบกันว่าคนที่ดำเนินการทำ CL เป็นใครกันบ้าง ซึ่งเรากำลังขอข้อมูลจากท่านเหล่านี้อยู่ ถ้าตรงไปตรงมาจริง ปลัดสธ.รองปลัดสธ. เจ้าหน้าที่ทุกคนของสธ.ก็ต้องทราบ คนที่ทราบทุกอย่างดีคือ นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล เลขาฯ อย. ในฐานะประธานคณะกรรมการเจรจาต่อรองราคายา” นพ.ปราชญ์ กล่าว
นพ.ปราชญ์กล่าวว่า คนที่รู้เรื่องดีขณะนี้ไม่ได้อยู่ในห้องประชุมนี้ จึงไม่สามารถตอบอะไรได้เพราะไม่มีข้อมูล แม้ว่าทางพฤตินัยคนเป็นปลัดกระทรวงจะต้องทราบข้อมูล เหมือนกับตนเองเป็นพ่อบ้านควรจะรู้ทุกเรื่อง แต่ลูกบางครั้งไปทำอะไรก็อาจไม่รู้ก็ได้ ฉะนั้นอย่าเพิ่งคาดคั้นว่าจะเอาคำตอบว่าทำ CL หรือยกเลิก CL เพราะตนไม่มีข้อมูลใดๆอยู่ในมือเลย หรือถ้าทราบก็ผิวเผินมากๆ
เมื่อถามถึงประเด็นที่ระบุว่า ถ้าหากมีความตรงไปตรงมา ทุกคนในสธ.จะต้องทราบข้อมูลเรื่อง CL หมายความว่าอย่างไร นพ.ปราชญ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวได้ล่วงเลยมาแล้ว และขณะนี้ได้มอบหมายให้นพ.ไพจิตร์ในการประสานข้อมูลแล้ว จึงไม่ต้องการพูดถึง
ด้าน นพ.สุพรรณ ศรีธรรมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ เวลา 15.00 น. สธ.จะเชิญคณะกรรมการที่ทำซีแอลประกอบด้วย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ อย.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ หารือเรื่องการทำซีแอลกับยามะเร็ง 4 รายการ โดยเชิญตัวแทนเครือข่ายผู้ป่วยโรคเอดส์ เครือข่ายผู้บริโภค และเครือข่ายผู้ป่วยโรคมะเร็ง เข้าหารือด้วย 10 คน เพื่อหารข้อสรุปร่วมกัน เพื่อเตรียมนำเสนอในการประชุมร่วมกันระหว่างสธ. กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งการประชุมดังกล่าวยังไม่ได้กำหนดวันประชุมแน่นอน
**หมอวิชัยชี้รู้ไม่รู้อยู่ที่ปลัดสนใจหรือไม่
นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมการสนับสนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับการใช้สิทธิ CL กล่าวว่า ที่ผ่านมาปลัดสธ.ไม่เคยเรียกขอข้อมูลจากคณะทำงาน CL ขณะเดียวกันคณะทำงานซึ่งได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรี ก็จัดทำสรุปรายงานให้กับรัฐมนตรีโดยตรงอยู่แล้ว
“จริงๆ เป็นหน้าที่ของปลัดหากไม่รู้ข้อมูลก็ควรที่จะหาข้อมูล หรือสามารถเรียกดูข้อมูลจากข้าราชการได้อยู่แล้ว อยู่ที่ว่าปลัดมีความสนใจมากน้อยแค่ไหน แต่มาถึงขณะนี้ผมไม่สนใจว่าท่านจะสู้ต่อหรือไม่ เพราะไม่เคยตั้งความหวัง แล้วแต่ท่านจะพิจารณา ขณะนี้ผมทำหน้าที่เสร็จสิ้นแล้ว และได้เตรียมการให้พร้อมที่จะรับไม้ต่อได้ทันที ทั้งการต่อรองราคายา การขึ้นทะเบียนยา ทำไมถึงมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นระเบิดเวลา ยาจะเป็นระเบิดได้อย่างไร ไม่เข้าใจว่าทำไมเห็นดอกบัวเป็นกงจักรไปได้”นพ.วิชัยกล่าว
นพ.วิชัยกล่าวด้วยว่า หากต้องการข้อมูลขณะนี้ได้นำข้อมูลความจริง 10 ข้อ การใช้สิทธิโดยรัฐต่อยาต้านโรคมะเร็งที่มีสิทธิบัตรแล้ว 10 รายการ อยู่ในเว็บไซต์ ของสธ.ทั้งหมด หากสนใจก็สามารถที่จะเข้าไปดูได้.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าวานนี้ (14 ก.พ.) ตามที่ได้มีการนัดหมายที่จะมีการเจรจาเรื่องการประกาศใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร(CL) ของ 3 กระทรวงที่เกี่ยวข้องคือ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และกระทรวงการต่างประเทศ โดยตกลงที่จะเจรจากันที่กระทรวงพาณิชย์นั้น ปรากฏว่า วงเจรจาดังกล่าวได้เลื่อนออกไปโดยไม่ทราบสาเหตุและไม่ได้มีการเจรจาของ 3 กระทรวงที่กระทรวงพาณิชย์แต่อย่างใด
จากนั้นได้มีการปล่อยข่าวว่าจะมีการเปิดเวทีขึ้นที่กระทรวงสาธารณสุข ทำให้เครือข่ายผู้ป่วยและเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคเดินทางมารอ ติดตามผลการเจรจากันเป็นจำนวนมาก ซึ่งสุดท้ายรายข่าวแจ้งว่า เป็นเพียงการนำเอกสารมาส่งมอบให้กันที่ทำเนียบรัฐบาลเท่านั้น
นายวิรัตน์ ภู่ระหงษ์ ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอดส์/เอชไอวี แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การพูดคุยกับกระทรวงพาณิชย์เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น เหมือนว่าจะคุยกันรู้เรื่อง แต่ถึงเวลาในการการประชุมร่วมกันของ 3 กระทรวง กลับมีการเปลี่ยนสถานที่ เลื่อนการประชุมออกไป ซึ่งไม่คิดว่าจะเป็นการกระทำของผู้ใหญ่ที่พูดไม่จริงเหมือนเป็นการหลอกกัน
**ไชยาปัดไม่รู้เรื่อง 3 กระทรวงเจรจา
นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สธ. กล่าวว่า ไม่ทราบว่าจะมีการประชุมหารือเรื่อง CL ในระดับปลัดกระทรวงและอธิบดีกรมร่วมกันระหว่าง 3 กระทรวงเนื่องจากไม่ได้รับรายงานจากนพ.ปราชญ์ บุญยวงศ์วิโรจน์ ปลัด สธ. ตอนแรกตนเข้าใจว่าจะมีการประชุมที่กระทรวงพาณิชย์ แต่ได้ขอเลื่อนออกไปก่อน เพราะเห็นว่ายังไม่ควรจะประชุมในขณะนี้ ควรรอให้รัฐบาลประกาศนโยบายก่อนเพื่อความสมบูรณ์ในการปฏิบัติหน้าที่
“หากมีการประชุมจริงผมก็จะเฝ้าดู ข้าราชการคงคุยกันเป็นความลับไม่อยากให้เรารู้ และโดยมารยาทคงไม่ถามว่าคุยอะไรกัน ซึ่งหลักในการเจรจานั้น ต่างคนต่างต้องรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง ปลัดสธ. มีหน้าที่ต้องดูแลคนที่เข้าไม่ถึงยา ก็ต้องทำหน้าที่แทนผู้ป่วย ซึ่งหลังจากเห็นข้อมูลผู้ป่วยมะเร็งแล้วก็รับได้ ไม่หนักมากนัก”นายไชยากล่าว
**จวกปลัด สธ. พูดมาได้ไม่มีข้อมูล CL
วันเดียวกัน เวลา 13.00 น. มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ เครือข่ายผู้ป่วยโรคมะเร็ง เครือข่ายผู้ติดเชื้อ/เอชไอวีแห่งประเทศไทย กว่า 300 คน เดินทางมายังสธ. โดยตัวแทนจากเครือข่ายได้เข้ายื่นหนังสือ และสอบถามถึงการเจรจาระหว่าง 3 กระทรวงที่กำหนดว่าจะมีการประชุมในช่วงบ่ายที่สธ. ซึ่งเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมาถึงก็พบว่าไม่มีการประชุมแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดสธ. ได้เปิดโอกาสให้ผู้ชุมนุมเข้าพบ โดยปฏิเสธไม่ทราบว่าจะมีการประชุมที่ไหน อย่างไร
น.ส. สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้ปบริโภค กล่าวภายหลังหารือว่า รู้สึกผิดหวังอย่างมากกับ ปลัดสธ. เพราะมีความตั้งใจที่จะถามถึงความพร้อมในการเตรียมข้อมูลเพื่อที่จะหารือระดับปลัดทั้ง 3 กระทรวง แต่ปลัด สธ.กลับบอกว่าไม่มีข้อมูล ซึ่งสะท้อนการทำงานของปลัดเองว่าไม่มีประสิทธิภาพ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เพิ่งรู้กันวันนี้ สธ.เองเป็นผู้เปิดประเด็นที่จะให้มีการทบทวน CL และทราบดีอยู่แล้วว่าจะต้องมีผู้ติดตามทวงถามอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังสะท้อนประสิทธิภาพการทำงานของสธ. ความตั้งใจที่จะเดินหน้าเรื่อง CLและความไม่ชัดเจนในนโยบายที่กลับไปกลับมา
“แทนที่ปลัดจะบอกว่าไม่ต้องห่วงมีข้อมูลพร้อมแล้ว กลับกลายเป็นคนละเรื่อง เป็นถึงปลัด สามารถที่จะเรียกข้อมูลจากผู้บังคับบัญชาได้อยู่แล้ว แต่กลับไม่มีข้อมูลได้อย่างไร ตลกที่สุด”น.ส.สารีกล่าว
ทั้งนี้ การที่ปลัดสธ.บอกว่าข้อมูลแต่ละแห่งไม่ตรงกัน ทั้งข้อมูลของสถาบันมะเร็ง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ไม่ใช่เหตุผลที่จะบอกว่าไม่มีข้อมูล เพราะเป็นหน่วยงานภายใต้สธ.ทั้งนั้น จึงน่าสงสัยว่าเต็มใจและตั้งใจทำเรื่องนี้หรือไม่ เพราะถ้าไม่ การมีปลัด มีสธ.ก็ไม่มีประโยชน์กับประชาชน
น.ส.สารีกล่าวด้วยว่า หากไทยยอมให้ต่างชาตินำเรื่องการการจัดระดับทางการค้ามาขู่ ก็ต้องทนทุกข์ตลอดไป รัฐบาลไม่ควรเห็นแก่การค้าชั่วคราว และควรหันมาหาทางพึ่งตนเอง ซึ่งสหรัฐฯนั้นใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้ากับประเทศคู่ค้าทั้งหมดไม่ใช่แค่ไทย ซึ่งรัฐบาลไทย ควรร้องต่อศาลโลกด้วยซ้ำที่มีการนำเรื่องของยามากีดกันการค้า เพราะเป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชน
**หมอปราชญ์ยันไม่เคยรู้เรื่อง CL
ด้านนพ.ปราชญ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาส่วนตัวไม่เคยได้ข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีข้อมูลอยู่ในมือ แต่ขณะนี้ได้มอบหมายให้นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดสธ.และรองปลัดทั้ง 3 คนดำเนินการรวบรวมข้อมูลการทำ CL กับยารักษาโรคมะเร็งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ข้อมูลมาใช้ในการหารือของทั้ง 3 กระทรวง
“การทบทวนนั้นหากทบทวนแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีก็ทำต่อไปได้ ถ้าดีก็อาจจะทำกับตัวยาโรคอื่นๆ มากกว่านี้ก็เป็นไปได้ คงทราบกันว่าคนที่ดำเนินการทำ CL เป็นใครกันบ้าง ซึ่งเรากำลังขอข้อมูลจากท่านเหล่านี้อยู่ ถ้าตรงไปตรงมาจริง ปลัดสธ.รองปลัดสธ. เจ้าหน้าที่ทุกคนของสธ.ก็ต้องทราบ คนที่ทราบทุกอย่างดีคือ นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล เลขาฯ อย. ในฐานะประธานคณะกรรมการเจรจาต่อรองราคายา” นพ.ปราชญ์ กล่าว
นพ.ปราชญ์กล่าวว่า คนที่รู้เรื่องดีขณะนี้ไม่ได้อยู่ในห้องประชุมนี้ จึงไม่สามารถตอบอะไรได้เพราะไม่มีข้อมูล แม้ว่าทางพฤตินัยคนเป็นปลัดกระทรวงจะต้องทราบข้อมูล เหมือนกับตนเองเป็นพ่อบ้านควรจะรู้ทุกเรื่อง แต่ลูกบางครั้งไปทำอะไรก็อาจไม่รู้ก็ได้ ฉะนั้นอย่าเพิ่งคาดคั้นว่าจะเอาคำตอบว่าทำ CL หรือยกเลิก CL เพราะตนไม่มีข้อมูลใดๆอยู่ในมือเลย หรือถ้าทราบก็ผิวเผินมากๆ
เมื่อถามถึงประเด็นที่ระบุว่า ถ้าหากมีความตรงไปตรงมา ทุกคนในสธ.จะต้องทราบข้อมูลเรื่อง CL หมายความว่าอย่างไร นพ.ปราชญ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวได้ล่วงเลยมาแล้ว และขณะนี้ได้มอบหมายให้นพ.ไพจิตร์ในการประสานข้อมูลแล้ว จึงไม่ต้องการพูดถึง
ด้าน นพ.สุพรรณ ศรีธรรมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ เวลา 15.00 น. สธ.จะเชิญคณะกรรมการที่ทำซีแอลประกอบด้วย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ อย.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ หารือเรื่องการทำซีแอลกับยามะเร็ง 4 รายการ โดยเชิญตัวแทนเครือข่ายผู้ป่วยโรคเอดส์ เครือข่ายผู้บริโภค และเครือข่ายผู้ป่วยโรคมะเร็ง เข้าหารือด้วย 10 คน เพื่อหารข้อสรุปร่วมกัน เพื่อเตรียมนำเสนอในการประชุมร่วมกันระหว่างสธ. กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งการประชุมดังกล่าวยังไม่ได้กำหนดวันประชุมแน่นอน
**หมอวิชัยชี้รู้ไม่รู้อยู่ที่ปลัดสนใจหรือไม่
นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมการสนับสนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับการใช้สิทธิ CL กล่าวว่า ที่ผ่านมาปลัดสธ.ไม่เคยเรียกขอข้อมูลจากคณะทำงาน CL ขณะเดียวกันคณะทำงานซึ่งได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรี ก็จัดทำสรุปรายงานให้กับรัฐมนตรีโดยตรงอยู่แล้ว
“จริงๆ เป็นหน้าที่ของปลัดหากไม่รู้ข้อมูลก็ควรที่จะหาข้อมูล หรือสามารถเรียกดูข้อมูลจากข้าราชการได้อยู่แล้ว อยู่ที่ว่าปลัดมีความสนใจมากน้อยแค่ไหน แต่มาถึงขณะนี้ผมไม่สนใจว่าท่านจะสู้ต่อหรือไม่ เพราะไม่เคยตั้งความหวัง แล้วแต่ท่านจะพิจารณา ขณะนี้ผมทำหน้าที่เสร็จสิ้นแล้ว และได้เตรียมการให้พร้อมที่จะรับไม้ต่อได้ทันที ทั้งการต่อรองราคายา การขึ้นทะเบียนยา ทำไมถึงมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นระเบิดเวลา ยาจะเป็นระเบิดได้อย่างไร ไม่เข้าใจว่าทำไมเห็นดอกบัวเป็นกงจักรไปได้”นพ.วิชัยกล่าว
นพ.วิชัยกล่าวด้วยว่า หากต้องการข้อมูลขณะนี้ได้นำข้อมูลความจริง 10 ข้อ การใช้สิทธิโดยรัฐต่อยาต้านโรคมะเร็งที่มีสิทธิบัตรแล้ว 10 รายการ อยู่ในเว็บไซต์ ของสธ.ทั้งหมด หากสนใจก็สามารถที่จะเข้าไปดูได้.
