xs
xsm
sm
md
lg

“เอ็นจีโอ” เหน็บปลัด สธ.หมดเวลาเล่นลิเก พูดไม่มีข้อมูลซีแอลสะท้อนไร้น้ำยา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เอ็นจีโอ” ผิดหวังในตัวปลัด สธ.พูดมาได้ ไม่มีข้อมูลซีแอล เตรียมพร้อมประชุม 3 กระทรวง สะท้อนปลัดทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ชี้หมดเวลาเล่นลิเก ด้านปลัด สธ.ออกโรงไม่มีข้อมูลจริง ที่ผ่านมา มอบหมายให้รองปลัดรวบรวม พร้อมให้เครือข่ายผู้ป่วยฯ แจงละเอียดพรุ่งนี้ ก่อนหารือกับพาณิชย์-ต่างประเทศ แต่ข่าวเล็ดดอดประชุมลับปลัด 3 กระทรวงที่ทำเนียบรัฐบาล หมอวิชัยจวกไม่รู้เรื่องซีแอลอยู่ที่ปลัดสนใจหรือไม่ ส่วนข้อมูลซีแอลทั้งหมดจัดทำเป็นข้อมูลความจริง 10 ประการ ขึ้นเว็บ สธ.แล้ว ยันเคยทำบันทึกถึงปลัด แจ้งเรื่องตอบข้อซักถามการทำซีแอล

เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (14 ก.พ.) มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ เครือข่ายผู้ป่วยโรคมะเร็ง เครือข่ายผู้ติดเชื้อ/เอชไอวี แห่งประเทศไทย กว่า 300 คน เดินทางมายังกระทรวงสาธารณสุข โดยตัวแทนจากเครือข่ายได้เข้ายื่นหนังสือ และสอบถามถึงการเจรจาระหว่าง 3 กระทรวง ที่กำหนดว่าจะมีการประชุมในช่วงบ่าย ที่กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางมายังกระทรวงสาธารณสุข ก็พบว่าไม่มีการประชุมแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม นพ.ปราชญ์ บุยวงศ์วิโรจน์ ปลัด สธ.ได้เปิดโอกาสให้ผู้ชุมนุมเข้าพบ โดยปฏิเสธว่า ไม่ทราบว่าจะมีการประชุมที่ไหน อย่างไร ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเผ็ดร้อนมีการตอบโต้กันไปมา ส่วนบริเวณหน้าตึกสำนักปลัดที่ผู้ชุมนุมมารอฟังคำตอบ มีการตะโกนว่า “ซีแอล ถูกต้องถูกใจ ถูกกฎหมาย” เป็นระยะๆ

น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวภายหลังหารือว่า พวกเรารู้สึกผิดหวังอย่างมาก หลังเข้าหารือกับ นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัด สธ.ซึ่งการที่เรามาวันนี้ มีความตั้งใจที่จะถามถึงความพร้อมในการเตรียมข้อมูลเพื่อที่จะหารือระดับปลัด ทั้ง 3 กระทรวง คือ สธ.กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ แต่ปลัด สธ.กลับบอกว่าไม่มีข้อมูล ซึ่งสะท้อนการทำงานของปลัดเองว่า ไม่มีประสิทธิภาพ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เพิ่งรู้กันวันนี้ สธ.เองเป็นผู้เปิดประเด็นที่จะให้มีการทบทวนซีแอล และทราบดีอยู่แล้วว่าจะต้องมีผู้ติดตามทวงถามการทำซีแอลอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ยังสะท้อนประสิทธิภาพการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข ความตั้งใจที่จะเดินหน้าเรื่องซีแอล และความไม่ชัดเจนในนโยบายที่กลับไปกลับมา

“แทนที่ปลัดจะบอกว่าไม่ต้องห่วงมีข้อมูลพร้อมแล้ว กลับกลายเป็นคนละเรื่อง เป็นถึงปลัด สามารถที่จะเรียกข้อมูลจากผู้บังคับบัญชาได้อยู่แล้ว แต่กลับไม่มีข้อมูลได้อย่างไร ตลกที่สุด ขณะนี้ สธ.ไม่ได้มีเวลามากพอมาเล่นลิเกกันอยู่ แต่ต้องพร้อมที่จะยืนยันว่า การทำซีแอลเป็นสิ่งที่ถูกต้อง มีความสำคัญและจำเป็น ตอบโต้ กระทรวงพิณิชย์ที่ทักท้วง มานั้นไม่มีน้ำหนัก และยืนยันจะเดินหน้าทำซีแอลเพื่อปกป้องผู้ป่วยที่มีความทุกข์จากการเป็นโรค”น.ส.สารี กล่าว

น.ส.สารี กล่าวด้วยว่า วันพรุ่งนี้ (15 ก.พ.) เครือข่ายฯ จะเตรียมรวบรวมข้อมูลทั้งหมดมาให้พร้อมนำมาแจกจ่ายให้ทุกคนโดยไม่ต้องรอข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข รวมทั้งนำมาชี้แจงให้กับปลัดรับทราบ ทั้งนี้ การที่ปลัดบอกว่าข้อมูลแต่ละแห่งไม่ตรงกัน ทั้งข้อมูลของสถาบันมะเร็ง สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ไม่ใช่เหตุผลที่จะบอกว่าไม่มีข้อมูล เพราะเป็นหน่วยงานภายใต้ สธ.ทั้งนั้น จึงน่าสงสัยว่า ปลัดเต็มใจและตั้งใจทำเรื่องนี้หรือไม่ เพราะถ้าไม่ การมีปลัด มีกระทรวงสาธารณสุขก็ไม่มีประโยชน์กับประชาชน

ด้าน นพ.ปราชญ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ที่ผ่านมา ส่วนตัวไม่เคยได้ข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีข้อมูลอยู่ในมือ แต่ขณะนี้ได้มอบหมายให้ นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัดสธ.และรองปลัดทั้ง 3 คนดำเนินการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการประกาศบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร (ซีแอล) กับยารักษาโรคมะเร็ง ไม่ว่าจะเป็นจำนวนผู้ป่วยมะเร็งในไทย อุบัติการณ์ของโรคมะเร็ง ฯลฯ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้ข้อมูลมาใช้ในการหารือกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมยินดีที่จะหารือกับเครือข่ายผู้ป่วยตามที่เสนอมา โดยจะประชุมวันที่ 15 ก.พ.เวลา 15.00 น.ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข

“การทบทวนนั้นหากทบทวนแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีก็ทำต่อไปได้ ถ้าดีก็อาจจะทำกับตัวยาโรคอื่นๆ มากกว่านี้ก็เป็นไปได้ เราต้องดูว่าเจตนาที่ต้องการดูแลประชาชนเป็นอย่างไร คงทราบกันว่าคนที่ดำเนินการทำซีแอลเป็นใครกันบ้าง ซึ่งเรากำลังขอข้อมูลจากท่านเหล่านี้อยู่ ถ้าตรงไปตรงมาจริงปลัด สธ.รองปลัด สธ.เจ้าหน้าที่ทุกคนของ สธ.ก็ต้องทราบ คนที่ทราบทุกอย่างดีคือ นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ในประธานคณะกรรมการเจรจาต่อรองราคายา” นพ.ปราชญ์ กล่าว

นพ.ปราชญ์ กล่าวว่า ตนเองก็ดำเนินการอย่างดีที่สุด แต่คนที่รู้เรื่องดีขณะนี้ไม่ได้อยู่ในห้องประชุมนี้ จึงไม่สามารถตอบอะไรได้ เพราะก็ไม่มีข้อมูล แม้ว่าทางพฤตินัยคนเป็นปลัดกระทรวงจะต้องทราบข้อมูล เหมือนกับตนเองเป็นพ่อบ้าน ควรจะรู้ทุกเรื่อง แต่ลูกบางครั้งไปทำอะไรก็อาจไม่รู้ก็ได้ ฉะนั้น อย่าเพิ่งคาดคั้นว่าจะเอาคำตอบว่าทำซีแอลหรือยกเลิกซีแอล เพราะตนไม่มีข้อมูลใดๆ อยู่ในมือเลย หรือถ้าทราบก็ผิวเผินมากๆ เพราะงานมีการมอบหมาย

“ผมเป็นนักคุ้มครอง เป็นผู้บริโภค และผมเองก็ไม่อยากเป็นมะเร็ง เป็นเอดส์เหมือนพวกท่าน และตาของผมก็เป็นมะเร็งเช่นกัน จึงทราบความทุกข์ยากดี และก็ไม่อยากให้ใครเป็นเช่นกัน ซึ่งทุกคนที่เป็นแพทย์ในวงการสาธารณสุข ไม่เคยปล่อยให้คนไข้ตายต่อหน้าต่อตา ขณะนี้ผมไม่มีอะไรต่อสู้เพื่อพวกคุณ เราเหมือนคนคนเดียวกัน ผมก็เป็นผู้บริโภคเหมือนกัน เพราะหลังจากเกษียณแล้วผมก็จะไปเป็นแบบพวกท่าน ซึ่งได้รับหนังสือจากพวกท่านแล้วจะนำเรียนรมว.สาธารณสุขให้ทราบ และผมก็การันตีไปถึง รมว.สาธารณสุข ว่า ไม่มีรัฐบาลไหน รัฐมนตรีคนไหนมาจากการเลือกตั้ง ไม่ทำเพื่อประชาชน”นพ.ปราชญ์ กล่าว

เมื่อถามถึงประเด็นที่ นพ.ปราชญ์ ระบุว่า ถ้าหากมีความตรงไปตรงมา ทุกคนในกระทรวงสาธารณสุขจะต้องทราบข้อมูลเรื่องซีแอล ซึ่งขณะนี้เกิดอุปสรรคอะไรเกิดขึ้น นพ.ปราชญ์ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวได้ล่วงเลยมาแล้ว และขณะนี้ได้มอบหมายให้ นพ.ไพจิตร์ ในการประสานข้อมูลแล้ว จึงไม่ต้องการพูดถึง

ขณะที่ นพ.ไพจิตร์ วราชิต รองปลัด สธ.กล่าวว่า คณะกรรมการที่พิจารณาเรื่องซีแอลทั้งชุดเจรจาต่อรองราคายาที่มี นพ.ศิริวัฒน์ เป็นประธาน และประธานคณะกรรมการสนับสนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับการใช้สิทธิตามสิทธิบัตรโดยรัฐที่มี นพ.วิชัย โชควิวัฒน เป็นประธาน ซึ่ง นพ.มงคล ณ สงขลา อดีต รมว.สาธารณสุขเป็นผู้แต่งตั้งซึ่งข้อมูลต่างๆสามารถรายงานตรงกับ นพ.มงคล ได้ทันทีไม่ต้องผ่านปลัดกระทรวงสาธารณสุข ขณะนี้ได้ประสานขอข้อมูลจากฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ซึ่งทุกฝ่ายก็ยินดีให้ข้อมูล ส่วนการตัดสินใจว่าจะทำซีแอลหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะตนเองทำหน้าที่เฉพาะการรวบรวมข้อมูลเท่านั้น แต่ต้องรวบรวมข้อมูลเพื่อให้ทันต่อการตัดสินใจภายในเดือน มี.ค.นี้

นายวิรัตน์ ภู่ระหงษ์ ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอดส์/เอชไอวี แห่งประเทศไทย กล่าวว่า การประกาศทบทวนการทำซีแอลนั้น รัฐมนตรีต้องไม่ทำให้เป็นเรื่องตลก เพราะชีวิตคนเป็นเรื่องสำคัญ การเดินทางมาในวันนี้ ไม่ได้อยากทำให้บรรยากาศการประชุมเสีย แต่อยากมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ เพราะข้อมูลหลายๆอย่าง ที่มีการให้สัมภาษณ์นั้น เชื่อว่า มีบางอย่างไม่ตรงกับความเป็นจริง เช่น ข้อมูลตัวเลขผู้ป่วยที่มีการกล่าวว่า ผู้ป่วยมะเร็งมีเพียง 1.5 หมื่นคนนั้น ไม่เป็นความจริง

“รู้สึกสะเทือนใจที่การพูดคุยกับกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น เหมือนว่าจะคุยกันรู้เรื่อง แต่ถึงเวลาในการการประชุมร่วมกันของ 3 กระทรวง กลับมีการเปลี่ยนสถานที่ เลื่อนการประชุมออกไป ซึ่งไม่คิดว่าจะเป็นการกระทำของผู้ใหญ่ ที่พูดไม่จริงเหมือนเป็นการหลอกกัน” นายวิรัตน์ กล่าว

ด้าน น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า อยากเห็นรัฐบาลเดินหน้าทำให้ราคายาถูกลง ไม่ให้ประชาชนต้องล้มละลายจากการรักษาพยาบาล ซึ่งการมีชีวิตอยู่นั้น ยังสามารถทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติได้อีกมาก เช่น ผู้ติดเชื้อก็ยังสามารถทำงานได้ ผู้ติดเชื้อ 1.4 แสนคน หากคิดเป็นมูลค่าก็สามารถทำเงินได้ปีละหลายแสนล้านบาทต่อไป มากกว่ามูลค่าของจีเอสพี

“หากประเทศไทย ยังยอมต่างชาตินำเรื่องการการจัดระดับทางการค้ามาขู่ ก็ต้องทนทุกข์ตลอดไป ซึ่งเรื่องของสุขภาพนั้น เป็นเรื่องสำคัญ รัฐบาลไม่ควรเห็นแก่การค้าชั่วคราว และควรหันมาหาทางพึ่งตนเอง ซึ่งสหรัฐอเมริกานั้นใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้ากับประเทศคู่ค้าทั้งหมดไม่ใช่แค่ไทย ซึ่งรัฐบาลไทยควรร้องต่อศาลโลกด้วยซ้ำที่มีการนำเรื่องของยา ซึ่งมีข้อกำหนดว่าไม่สามารถใช้วิธีการตอบโต้ได้ เพราะเป็นเรื่องของสิทธิมนุษยชน” น.ส.สารี กล่าว

นพ.สุพรรณ ศรีธรรมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ เวลา 15.00 น.สธ.จะเชิญคณะกรรมการที่ทำซีแอล ประกอบด้วย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ อย.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ หารือเรื่องการทำซีแอลกับยามะเร็ง 4 รายการ โดยเชิญตัวแทนเครือข่ายผู้ป่วยโรคเอดส์ เครือข่ายผู้บริโภค และเครือข่ายผู้ป่วยโรคมะเร็ง เข้าหารือด้วย 10 คน เพื่อหารข้อสรุปร่วมกัน เพื่อเตรียมนำเสนอในกาประชุมร่วมกันระหว่าง สธ.กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งการประชุมดังกล่าวยังไม่ได้กำหนดวันประชุมแน่นอน

ทั้งนี้ รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากที่หารือกับเครือข่ายผู้ป่วย ปลัดได้เดินทางออกไปประชุมที่ทำเนียบรัฐบาล ร่วมกับปลัดกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงต่างประเทศ

ด้านนพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานคณะกรรมการบริหารองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมการสนับสนุนการดำเนินงานเกี่ยวกับการใช้สิทธิตามสิทธิบัตรโดยรัฐ (ซีแอล) กล่าวว่า ที่ผ่านมาปลัดสธ.ไม่เคยเรียกขอข้อมูลจากคณะทำงานซีแอล ขณะเดียวกันคณะทำงานซึ่งได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรี ก็จัดทำสรุปรายงานให้กับรัฐมนตรีโดยตรงอยู่แล้ว ซึ่งทุกขั้นตอนมีการชี้แจงโดยละเอียด นอกจากนี้ช่วงประมาณต้นเดือนมกราคมได้รับหนังสือจากสำนักนายกรัฐมนตรีให้ตอบข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการทำซีแอล แต่เมื่อพิจารณาแล้วพบว่า หนังสือดังกล่าวมากจาสำนักนายกฯ ผู้ที่จะตอบกลับหนังสือควรเป็นสำนักงานปลัดกระทรวง จึงทำบันทึกมาถึงนพ.ปราชญ์ เพื่อรับทราบ แต่ไม่ทราบเช่นกันว่าปลัดทำหนังสือกลับไปเช่นไร

“จริงๆ เป็นหน้าที่ของปลัดหากไม่รู้ข้อมูลเกี่ยวกับซีแอลก็ควรที่จะหาข้อมูล หรือสามารถเรียกดูข้อมูลจากข้าราชการได้อยู่แล้ว อยู่ที่ว่าปลัดมีความสนใจมากน้อยแค่ไหน แต่มาถึงขณะนี้ผมไม่สนใจว่าท่านจะสู้เพื่อการทำซีแอลต่อหรือไม่ เพราะไม่เคยตั้งความหวัง แล้วแต่ท่านจะพิจารณา ขณะนี้ผมทำหน้าที่เสร็จสิ้นแล้ว และได้เตรียมการให้พร้อมที่จะรับไม้ต่อได้ทันที ทั้งการต่อรองราคายา การขึ้นทะเบียนยา ทำไมถึงมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นระเบิดเวลา ยาจะเป็นระเบิดได้อย่างไร ไม่เข้าใจว่าทำไมเห็นดอกบัวเป็นกงจักรไปได้” นพ.วิชัย กล่าว

นพ.วิชัย กล่าวด้วยว่า หากต้องการข้อมูลขณะนี้ได้นำข้อมูลความจริง 10 ข้อ การใช้สิทธิโดยรัฐต่อยาต้านโรคมะเร็งที่มีสิทธิบัตรแล้ว 10 รายการ อยู่ในเว็บไซต์ ของ สธ.ทั้งหมด หากสนใจก็สามารถที่จะเข้าไปดูได้
กำลังโหลดความคิดเห็น