xs
xsm
sm
md
lg

"หมัก"หาช่อง กม.ตั้งทีวีใหม่ ไม่ต้องง้อ กสช.-ยันเกิดแน่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"หมัก"หาช่องซิกแซกตั้งทีวีช่องใหม่ โดยไม่ต้องรอ กสช. ไม่หวังว่าจะต้องเชียร์มารัฐบาล แค่ต้องการความเป็นกลาง ยอมรับปากไวไปนิดที่ออกมาพูดก่อน "จักรภพ" เตรียมเรียกประชุม ขรก.กรมประชาฯ ยัดนโยบายทีวีแม้ว "ปราโมช" ผวาโดนปลด ปากสั่นบอกตัวเองเข้มแข็ง ไม่หวั่นไหว แต่สุดท้ายต้องจำยอมน้อมรับบัญชา อ้างเป็น ขรก. ต้องปฏิบัติตามนโยบายรัฐ ด้านนายกฯเงา เตือนแทรกแซงสื่ออาจนำไปสู่ความขัดแย้งทางอำนาจได้ ไล่"จักรภพ"ไปทวงหนี้ 7 หมื่นล. จากชินคอร์ป ก่อนมาจัดระเบียบสื่อ

หลังประชุมคณะรัฐมนตรี วานนี้ (12 ก.พ.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ชี้แจงถึงกรณ๊ที่ได้พูดในรายการ"พูดจาประสาสมัคร" เรื่องจะมีการเปิดสื่อรูปแบบใหม่ว่า ข้อเท็จจริงก็ตื่นเต้น มันมี 2 ช่องทาง คือ ทีวีช่องใหม่ ถ้าทำได้ก็จะทำ แต่ใจจริงที่จะทำขอให้คุยและสรุปกันก่อน คือทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย แล้วทีวีช่องนั้นก็จะมีคุณภาพดีขึ้นกว่าตามปกติที่มีอยู่แล้ว

"ผมคุยรวดเร็วไปนิดหนึ่ง รัฐมนตรีเขาก็มาช่วยดำเนินการให้ คือรับรองว่า 1. ไม่ไปยุ่งกับทีวีที่เขากำลังทำอยู่ 2. ถ้าจะมีใหม่ ก็ต้องถูกต้องตามกฎหมาย 3. ถ้าเรามีความคิดที่โทรทัศน์ที่มีอยู่แล้ว ให้มันดีขึ้น เจ๋งๆ เอาคนมีฝีมือมาทำ ก็น่าจะเป็นสิทธิของเราเท่านั้นเอง หลักการคือไม่ต้องการที่จะไปทำให้เห็นว่ารัฐบาลนี้อยากได้ทีวีมาเชียร์ตัวเอง ไม่ต้องการ ต้องการให้ทีวีเสนอข่าว ตรงไปตรงมา คือเสนอข่าวทั้ง 2 ด้านเท่านั้น"นายสมัคร กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะผลักดัน กสช.-กทช. ให้เรียบร้อยได้อย่างไร นายสมัคร กล่าวว่า ตนจะคุยกับคนที่เกี่ยวข้อง เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน พอคุยทีไรก็ยืดเยื้อ เยิ่นเย้อ ตั้งมา 2 ก๊ก ก๊กนั้นล้ม ก๊กนี้ตั้งใหม่ ก็รอตั้ง ตนไม่ไปหวังอะไรกับเขา ให้เขาดำเนินการไป แต่จะหาข่าวละเอียดมาให้ว่า จริงๆแล้ว 1-2-3 ควรเป็นอย่างไร แต่ที่จะทำนี้ ไม่เกี่ยวไม่ต้องไปขอ กสช. ไม่ต้องไปกราบใครไหว้ใคร แต่เราจะทำด้วยความสามารถของเราเองให้มีโทรทัศน์ที่เสนอข่าวดี สารคดีดี และไม่ต้องการให้มาเชียร์รัฐบาล

เมื่อถามว่า แสดงว่าจะใช้ช่องว่างทางกฎหมายดำเนินการ นายสมัคร กล่าวว่า มันเป็นวิธีการ ขอสัปดาหน้าจะเล่าให้ฟังว่าทำอย่างไร ไม่กี่วันก็ทำได้ จะดูช่องทางตามกฎหมาย ที่เราจะทำอย่างนี้ๆ แล้วให้ได้ โทรทัศน์ที่ดี จะทำอย่างไร ตนมันปากไวไปหน่อย แต่เมื่อไวแล้วก็จะทำให้เร็ว

"ปราโมช"ยันไม่เกาเหลา"จักรภพ"

ด้าน นายปราโมช รัฐวินิจ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ กล่าวปฏิเสธกระแสข่าว กินเกาเหลากับนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จนอาจจะถูกปลดออกจากตำแหน่งว่า ตนได้พบกับนายจักรภพ เมื่อวันที่ 11 ก.พ. และได้รับนโยบายตามปกติ ซึ่งเป็นการเริ่มต้น ซึ่งนายจักรภพ ได้มอบหมายให้กำหนดวัน เวลา ที่จะไปประชุมกับข้าราชการในกรมประชาสัมพันธ์ทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ตนก็ปฏิบัติหน้าที่อยู่ด้วยความเข้มแข็ง ไม่ได้หวั่นไหวกับข่าวโยกย้าย เพราะในภาพของความข้าราชการ ก็ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ ที่รัฐบาลในฐานะผู้บังคับบัญชาได้มอบหมายมา อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้มีความขัดแย้งอะไรกัน

เมื่อถามว่านโยบายรัฐบาลนี้แตกต่างจากรัฐบาลชุดที่แล้วอย่างมาก ต้องมีการปรับตัวอะไรหรือไม่ นายปราโมช กล่าวว่า นโยบายเป็นส่วนที่รัฐบาลกำหนดทั้งหมด เราในฐานะผู้ปฏิบัติ ก็ทำหน้าที่ตรงนั้นไปเพราะรัฐบาลเป็นผู้บังคับบัญชา ไม่ได้เป็นประเด็นอะไรที่สำคัญ

"ผมไม่ควรจะเป็นปัญหาใดๆเลย ผมกราบเรียนตรงนี้ คงเป็นหน้าที่ที่เราทำไปตามปกติ ก็ยังแปลกใจว่ ามีเรื่องอะไรต่างๆ ขึ้นมา ซึ่งอยากจะเรียนว่าไม่ได้ตรงกับข้อเท็จจริงใดๆ" นายปราโมช กล่าว

เมื่อถามว่านายจักรภพ ส่งสัญญาณอะไรออกมา หรือว่าจะถูกปลด นายปราโมช กล่าวด้วยน้ำเสียงตกใจว่า อย่าเพิ่งไปบอกให้เกิดความหวาดระแวง แต่โดยข้าราชการ เราก็ทำหน้าที่ต่อไป เมื่อถามย้ำว่าหากมีการปรับโยกย้ายจริงๆ มองว่าท่านจะกลายเป็นเหยื่อหรือไม่ อธิบดีกรมประชาฯ กล่าวสวนขึ้นมาทันทีว่า " อย่าเพิ่ง อย่าเพิ่งพูดสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นในอนาคต รัฐบาลเองท่านก็เพิ่งเริ่มดำเนินการ ท่านเข้ามาไม่กี่วันเอง นับจากการโปรดเกล้าฯ ฉะนั้นขบวนการ หรือขั้นตอนยังคงต้องอาศัยเวลาพอสมควร คงไม่ใช่มาเป็นเป้าเปลี่ยนคนอะไรต่างๆ" นายปราโมช กล่าว

นายกฯ เงาเตือนแทรกแซงสื่อระวังพัง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีเงา กล่าวถึงกระแสข่าวที่จะมีการปลดนายปราโมช รัฐวินิจ อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ว่า การปลดข้าราชการระดับสูงก็ต้องมีเหตุผลที่ชัดเจนว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงาน หรือเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ส่วนรวม เพราะเราคงไม่ต้องการเห็นสภาพเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลแล้วมีปัจจัยทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องในการโยกย้ายข้าราชการ แต่หากการโยกย้ายดังกล่าวเกี่ยวข้องกับระบบคุณธรรม และประโยชน์ของประเทศชาติ ก็คงไม่มีปัญหา แต่ถ้าไม่ใช่ ก็ถือว่าเป็นสัญญาณที่ไม่ดี เพราะเราเคยเจอกับปัญหาที่ระบบราชการสูญเสียบุคลากร เพราะฝ่ายการเมืองไม่มีคุณธรรมมามากแล้ว หากกรณีดังกล่าวเข้าไปเกี่ยวข้องกับการจัดระเบียบสื่อ ก็จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่ง และการที่จะให้ความเชื่อมั่นกลับคืนมา ก็กลับกลายเป็นการขัดแย้งทางอำนาจอย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น หากมีการเปลี่ยนแปลงจริง อยากให้ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ อธิบายให้ชัดเจนว่ามีประเด็นอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องกับประโยชน์ส่วนรวม และมีความจำเป็นอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากรัฐบาลทำเช่นนี้ เหมือนกับเป็นการจัดระเบียบสื่อ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่า การจัดระเบียบสื่อหมายถึงอะไร แต่หวังว่าจะไม่ใช่การเข้าไปก้าวก่าย ส่วนการจะมีโทรทัศน์เสรีนั้น ก็สนับสนุน เช่นเดียวกับในยุคก่อนที่สถานีโทรทัศน์ไอทีวี จะถูกแทรกแซง ซึ่งก็ต้องว่าไปตามกระบวนการการตั้งโทรทัศน์เสรี และต้องรอการจัดสรรคลื่นความถี่ก่อน ทั้งนี้ การมีโทรทัศน์เสรี ตนเห็นว่าไม่มีปัญหาอะไร หากจะมีพร้อมกับโทรทัศน์สาธารณะ

เมื่อถามว่า หากตั้งโทรทัศน์เสรี จะถูกใช้เป็นเครื่องมือของรัฐหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ต้องไม่เป็นเช่นนั้น ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ใช่โทรทัศน์เสรี ถ้าจะตั้งก็ต้องตั้งให้เป็นเสรีจริงๆ ไม่ใช่ตั้งเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหหนึ่ง ต้องให้เป็นโทรทัศน์ที่สามารถเสนอสาระ ได้ในสัดส่วนที่ดีและเหมาะสม มีการทำงานที่แข่งขันกับโทรทัศฯ ทั่วไปก็ไม่มีปัญหา แต่ขอให้มีเป้าหมายในการนำเสนอเนื้อหาสาระที่ให้ความรู้กับประชาชน

ไล่"เพ็ญ"ไปทวงหนี้ก่อนจัดระเบียบสื่อ

นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ อดีตแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวถึงกรณีที่ สถานีโทรทัศน์พีทีวี เตรียมที่จะออกอากาศประมาณกลางเดือนนี้ว่า ตามข้อเท็จจริงแล้ว สถานีโทรทัศน์ที่จะเปิดใหม่นั้นจะต้องขออนุญาตกรมประชาสัมพันธ์ และตามจริงจะทำไม่ได้เพราะมีกฎหมายกำหนดไว้ชัดเจน แต่หากจะอ้างกรณีเดียวกันกับสถานีโทรทัศน์ เอเอสทีวี ก็เป็นเรื่องที่เคยโต้แย้ง และได้ข้อสรุปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ส่วนกรณีที่จะดึงพนักงานสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี เดิมเข้ามาร่วมงานกับสถานีโทรทัศน์พีทีวี นั้น ตนก็อยากให้คนทีไอทีวี พิจารณาว่าเป็นการเข้าไปทำงานทีวีจริงๆ หรือ ทำงานเพื่อประชาสัมพันธ์ให้กับกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือไม่

"ผมมองว่าที่ คุณสมัคร สุนทรเวช บอกว่าจะดึงพนักงานทีไอทีวี ที่พลาดเข้าไปทำงานที่สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ให้ไปทำงานที่สถานีโทรทัศน์อีกช่องที่กำลังจะเปิดใหม่นั้น เป็นเพียงแค่ยาหอมเท่านั้น เพราะการทำทีวีนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำได้ภายใน 3วัน 7 วัน" นายบุญยอด กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ นายจักรภพ เพ็ญแข ระบุว่าจะมีการจัดระเบียบสื่อของรัฐ นายบุญยอด กล่าวว่า ภาระกิจแรกที่นายจักรภพ ควรทำคือ การไปทวงหนี้ 7 หมื่น 3 พันล้านบาท จากบริษัทชินคอร์ปอเรชั่นจำกัด ที่ติดค้างกับสำนักนายกรัฐมนตรี กรณีไม่จ่ายค่าบริหารสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวีมากกว่า ที่จะออกมาบอกว่าจะมีการจัดระเบียบ หรือ ควบคุมสื่อมวลชน เพราะเป็นหน้าที่โดยตรงของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ

เปิดเวทีถก "ทีวีสาธารณะ" 5 ภูมิภาค

นายสุรสิทธิ์ วิทยารัฐ รองประธานสภาสถาบันนักวิชาการสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย ในฐานะตัวแทนเครือข่ายเพื่อนทีวีสาธารณะ กล่าวว่า นักวิชาการทางนิเทศศาสตร์ ในฐานะเครือข่ายเพื่อนทีวีสาธารณะ จะจัดเวทีเสวนาทางวิชาการ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการมีส่วนร่วมของประชาชน ใน 5 ภูมิภาคทั่วประเทศ โดยเวทีแรก เริ่มจัดขึ้นที่ สถาบันราชภัฏสวนสุนันทา เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ที่ผ่านมา จากนั้นจะจัดตามภูมิภาคต่างๆ โดยวันที่ 13 ก.พ. จะจัดขึ้นที่ ม.เชียงใหม่ วันที่ 15 ก.พ. จัดขึ้นที่ ม.บูรพา วันที่ 22 ก.พ. จัดขึ้นที่ ม.มหาสารคาม และวันที่ 23 ก.พ. จะจัดขึ้นที่ ม.ราชภัฎภูเก็ต

ทั้งนี้ เนื่องจากกฎหมายองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 ได้ระบุถึง สภาผู้ชม ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่ในสังคมไทย กลุ่มนักวิชาการในนามเครือข่ายเพื่อนทีวีสาธารณะ จึงได้จัดเวทีเสวนาเพื่อเตรียมความพร้อมภาคประชาชนในการมีส่วนร่วมในโทรทัศน์สาธารณะ โดยเฉพาะความเข้าใจเรื่องสภาผู้ชม ที่ทำหน้าที่ประเมินรายการและสะท้อนไปยังคณะกรรมการนโยบาย ซึ่งจะเป็นการประเมินอย่างเป็นระบบ โดยใช้ข้อกำหนดทางจริยธรรม ซึ่งประกอบด้วย ความเป็นกลาง ไม่เอนเอียง เป็นเกณฑ์ในการประเมิน ทั้งนี้ เชื่อว่าสภาผู้ชมจะช่วยยกระดับคุณภาพของรายการโทรทัศน์ได้ และป้องกันการถูกแทรกแซง ซึ่งจากเดิมที่มีการประเมินโดยวัดจากเรตติ้งเชิงปริมาณ ที่เอาใจผู้ชมเชิงการตลาด แต่มักถูกตั้งคำถามในเรื่องของคุณภาพ

ส่วนที่รัฐบาลเตรียมจัดตั้งสถานีโทรทัศน์ขึ้นใหม่ รวมถึงการจัดระเบียบสื่อนั้น นายสุรสิทธิ์ กล่าวว่า หากไม่มองพฤติกรรมย้อนหลัง ถือว่าเป็นเรื่องดีที่จะสร้างสื่อทางเลือกโดยไม่เลือกข้างใคร แต่หากมองพฤติกรรมย้อนหลังของนักการเมืองเหล่านี้ ทำให้มองว่าเป็นการเช็คบิลหรือไม่ ซึ่งการระบุว่าช่อง 11 ไม่เป็นกลางนั้น แท้จริงแล้วช่อง 11 เป็นเพียงกระโถนท้องพระโรง ที่ทุกรัฐบาลมักเข้ามาจัดระเบียบสื่อเพื่อการโฆษณาชวนเชื่อ เพราะสื่อเป็นผู้กำหนดทิศทางข้อมูลข่าวสาร
กำลังโหลดความคิดเห็น