xs
xsm
sm
md
lg

ลอยแพคตส.ตามยถากรรม อ้าง"นายสั่ง"ถอนกำลังทหารรปภ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา กรรมการ คตส. และผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เปิดเผยว่า ตั้งแต่เริ่มต้นการทำงานของคตส.จนถึงบัดนี้ประมาณ 1 ปีกว่า ทางทหารได้ส่งกองกำลังทหารพร้อมอาวุธเข้าดูแลความปลอดภัยมาโดยตลอด โดยมีการจัดกำลังผลัดเปลี่ยนรวมประมาณ 40 นาย แต่ปรากฏว่า ขณะนี้ได้มีการลดกำลังทหารลงเหลือเพียง 10 นาย ต่อวัน ซึ่งได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งไม่เกิดปัญหา เพราะ คตส.สามารถดูแลตัวเองได้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นประชาชน8'จะออกมาดูแล สตง. และคตส.เอง อีกทั้งมั่นใจว่าธรรมย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม
คุณหญิงจารุวรรณ กล่าวว่า ในวันที่ 13 ก.พ.นี้ เวลา 17.00 น. คตส. จะมีการประชุมนัดพิเศษ เพื่อพิจารณาการส่งฟ้องคดีหวยบนดิน ที่คณะทำงานตรวจสอบเอกสารและสำนวนพิจารณาเสร็จแล้ว โดยในการประชุมดังกล่าวตนจะหารือเรื่องการลดกำลังทหารในการดูแลความปลอดภัยของคตส.ต่อที่ประชุมด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลอดช่วง 1 ปีกว่าที่ผ่านมา ทางกองทัพบกได้ส่งกองพันทหารราบ 11 และ 12 เข้าดูแลพื้นที่อาคาร สตง. เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับกรรมการ คตส. โดยจัดเป็นชั้นความลับสุดยอด ซึ่งได้มีเจ้าหน้าที่ทหารพร้อมอาวุธปืน เดินตระเวนดูแลความปลอดภัยรอบอาคารอย่างเข้มงวด พร้อมกับวางกำลังดูแลบริเวณประตูทางเข้า และออกอย่างเข้มงวด โดยในช่วงแรกถึงกับมีการนำเครื่องตรวจวัตถุระเบิดใต้ท้องรถ คอยตรวจตรารถที่เข้ามาติดต่ออาคาร สตง.ทุกคัน นอกจากนี้ยังจัดกำลังทหารประจำการประตูทางเข้าอาคาร สตง. พร้อมกับดูแลบริเวณชั้น 3 ตลอด 24 ชั่วโมง โดยสั่งห้ามบุคคลแปลกหน้าขึ้นบนตึกก่อนได้รับอนุญาต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่า ได้มีการถอนกำลังทหารที่ดูแลประตูทางเข้าสตง. ออกทั้งหมด เหลือเพียงวางกำลังทหาร 10 นายต่อวัน โดยเป็นที่น่าสังเกตว่านายทหารเหล่านี้ ปฏิบัติหน้าที่นอกเครื่องแบบ ไม่มีอาวุธ เหมือนที่ผ่านมา ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่บางคนระบุว่า "นายสั่งมา"

**อสส.ยื้อสำนวนหวยบนดิน
เมื่อเวลา17.00 น. วานนี้ นายสัก กอแสงเรือง โฆษกคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) แถลงภายหลังการประชุม ถึงความคืบหน้าในการติดตามสำนวนคดีการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2-3 ตัว หรือหวยบนดินคืนจากอัยการสูงสุด ว่า ในวันนี้ (12 ก.พ.) จะครบ 14 วันในการที่ คตส.จะยื่นฟ้องเอง ตามกฎหมาย แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รับเอกสารสำนวนคืนจากอัยการสูงสุด ซึ่งทำให้งานของคตส. สะดุด เนื่องจากต้องใช้สำนวนตัวจริงแนบไปกับคำฟ้องในการส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายให้นายอุดม เฟื่องฟุ้ง กรรมการ คตส. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนในคดีดังกล่าว เป็นผู้ประสานงานโดยหวังว่าจะได้สำนวนคืนโดยเร็ว และภายใน 1-2 วันนี้ คณะทำงานตรวจสอบเอกสารและสำนวนที่คตส.ตั้งขึ้นจากทีมสภาทนายความ จะมีการรายงานการสรุปผลให้ที่ประชุมใหญ่ คตส.ทราบ
นายสัก กล่าวถึงเจตนาของ อสส. ต่อเรื่องนี้ ว่า กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา ซึ่งเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายมีหน้าที่ทำตามกฎหมายให้ถูกต้องตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งต้องประกอบด้วย คตส. ที่เป็นองค์กรสอบสวน ไม่ใช่พนักงานสอบสวน และอัยการสูงสุด และศาล ซึ่งเป็นอิสระต่อกัน ความเห็นใด ๆ ทางกฎหมายต้องเป็นไปตามขั้นตอน และวิธีพิจารณาตามกฎหมายด้วยความยุติธรรม
อย่างไรก็ตาม หากอัยการสูงสุดไม่ส่งสำนวนคืน ก็จะไม่ทำให้คดีนี้ตกไป เพราะกฎหมายกำหนดว่า หากส่งฟ้องไม่ทันภายใน 14 วัน ก็สามารถยื่นฟ้องได้ภายในอายุความ

**เรียกเก็บภาษีชินอีก 377ล้าน
นายสัก กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามข้อเสนอของ นายวิโรจน์ เลาหะพันธุ์ กรรมการคตส. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการตรวจสอบการซื้อขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ที่เสนอให้ คตส.ทำหนังสือถึงกรมสรรพากร ให้ทบทวนและพิจารณาเรียกเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มเติมจากบริษัทชินแซทเทิลไลท์ จำกัด (มหาชน) จำนวน 377.48 ล้านบาท โดยยังไม่รวมเงินเพิ่ม หรือเบี้ยปรับ
นายวิโรจน์ แถลงว่า สาเหตุที่ต้องให้กรมสรรพากรทบทวนเรียกเก็บภาษีจากบริษัทชินแซทฯ เพราะเงินค่าสินไหมทดแทนความเสียหายของดาวเทียมไทยคม 3 ที่กระทรวง ไอซีที. ให้บริษัทชินแซทฯ จำนวน 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำไปเช่าช่องสัญญาณดาวเทียม จำนวน 6,765,299 ดอลลาร์สหรัฐ และสร้างดาวเทียมดวงใหม่ ทดแทนจำนวน 26,263,661 ดอลลาร์สหรัฐนั้น เงินดังกล่าวถือเป็นเงินได้ของกระทรวงไอซีที ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ดาวเทียมไทยคม 3 แม้บริษัทชินแซทฯ จะเป็นผู้ชำระเบี้ยประกัน และทำสัญญาประกันภัยให้กระทรวงไอซีที เป็นผู้รับประโยชน์ร่วมก็ตาม แต่เป็นการกระทำในฐานะตัวแทนของกระทรวงไอซีที ใช่เป็นการประกันภัยทรัพย์สินของกระทรวงไอซีที. ไม่ใช่ทรัพย์สินของชินแซทฯ
"ดังนั้นเงินดังกล่าวจึงถือเป็นเงินได้ของบริษัทชินแซท ที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าทางบริษัทชินแซทฯ ได้ยื่นเสียภาษีตามแบบ ภงด. 51 แต่ภายหลังได้สอบถามมายังกรมสรรพากรว่า ต้องเสียภาษีหรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรตอบไปว่าไม่ต้องเสียภาษี บริษัทชินแซทฯ จึงขอเงินคืนไปจำนวน 336 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม คตส.เห็นว่าเป็นเงินได้พึงประเมิน จึงต้องแจ้งให้กรมสรรพากร พิจารณาคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลใหม่ได้ถูกต้อง โดยจะต้องเสียภาษีเงินได้ในแต่ละปีจากปี 2547-2549 รวม 41.48 ล้านบาท และต้องให้กรมสรรพากรเรียกเงินคืนจำนวน 336 ล้านบาท ซึ่งผมจะทำหนังสือส่งให้กรมสรรพากรภายในวันที่ 12 ก.พ.นี้" นายวิโรจน์ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม คตส.ไม่ได้เสนอให้ดำเนินคดีทางวินัยกับเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรที่ตอบหนังสือไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นการกระทำโดยบริสุทธิ์ใจ ไม่มีเจตนา ทั้งนี้ บริษัทชินแซทฯ มีสิทธิอุทธรณ์ตามกฎหมายได้
กำลังโหลดความคิดเห็น