xs
xsm
sm
md
lg

‘หมัก’เล็งนิรโทษ 111 ศพ ทรท.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - โปรดเกล้าฯ ครม.ใหม่แล้ว "สมัคร" เริ่มออกลายรัฐบาลหุ่นเชิด เล็งนิรโทษกรรม 111 ซากศพ อ้างไม่มีบุคลากรทางการเมือง ส่วนการแก้ไข รธน.รอก่อนหมดอายุรัฐบาล 3 เดือน ประกาศญาติดีสื่อ ไม่ทะเลาะกับใครเพื่อสร้างความสมานฉันฑ์ แบ่งเค้ก "มิ่งขวัญ-หมอเลี้ยบ" ดูเศรษฐกิจคนละด้าน ขอพิสูจน์ผลงาน ครม. ขี้เหร่ มั่นใจอยู่ได้ 4 ปี เตรียมจ้อผ่านวิทยุทุกวันอาทิตย์

ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล วานนี้ (6 ก.พ.) ซึ่งนายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี และนายสุรชัย ภู่ประเสริฐ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขึ้นทูลเกล้าฯ หลังจากนั้นจะนำ ครม.เข้าเฝ้าฯถวานสัตย์ปฏิญาณ ในช่วงบ่ายทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคึก โดยมีผู้ที่คาดว่าจะได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นรัฐมนตรีต่างทยอยเดินทางมายังทำเนียบฯ

สำหรับนายสมัคร สุนทรเวช เดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.30 น. พร้อมกับ นายสหัส บัณฑิตกุล ว่าที่รองนายกรัฐมนตรี และนายธีรพล นพรัมภา ว่าที่เลขาธิการนายกรัรฐมนตรี พร้อมกับขึ้นไปยึงตึกไทยคู่ฟ้าทัน

ต่อมาเวลา 13.30 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ว่าที่ รมว.มหาดไทย เดินทางมาด้วยรถยนต์ปอร์เช่ สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน พว.6666 กทม. พร้อมกับขึ้นไปยังตึกไทยคู่ฟ้า เช่นเดียวกับ นายอุไรวรรณ เทียนทอง ว่าที่ รมว.แรงงาน ที่เมื่อเดินทางมาถึงก็ขึ้นไปยังตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งต่างจาก ครม.ท่านอื่นที่รออยู่ที่ตึกสันติไมตรี โดย นายสมัคร ได้หารือกับ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นการส่วนตัวกันภายในห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้าเป็นเวลา 20 นาที จากนั้นไม่นาน นายสุรชัย ภู่ประเสริฐ เลขาธิการครม. ได้เดินทางไปยังตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อนำรายชื่อครม.ไปมอบให้นายสมัคร

จากนั้น เมื่อเวลา 15.30 น.นายสมัครและนายสุรชัย เดินทางโดยรถตู้ไปยังพระตำหนักสวนจิตรลดา เพื่อเข้าเฝ้าฯทูลเกล้าฯรายชื่อ ครม. จากนั้นเวลา16.00 น. รถบัส 2 คันของสำนักเลขาธิการ ครม. ได้นำ ครม.เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณฯ ในเวลา 16.30 น.

โปรดเกล้าฯ ครม."สมัคร 1"

สำหรับ ครม.ที่ได้รับโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่ง มีดังนี้ นายสมัคร สุนทรเวช เป็น นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม นายสมชาย วงสวัสดิ์ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรมว.ศึกษาธิการ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เป็นรองนายกณับมนตรีและรมว.คลัง นายสหัส บีณฑิตกุล เป็นรองนายกรัฐมนตรี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี นายสุวิทย์ คุณกิตติ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.อุตสาหกรรม

นายชูศักดิ์ ศิรินิล เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจักรภพ เพ็ญแข เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เป็น รมช.คลัง ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี เป็น รมช.คลัง นายนพดล ปัทมะ เป็น รมว.ต่างประเทศ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ เป็น รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา

นายสุธา ชันแสง เป็น รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล เป็น รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายสมพัฒน์ แก้วพิจิตร เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายธีระชัย แสนแก้ว เป็น รมช.เกษตรและสหกรณ์ นาสันติ พร้อมพัฒน์ เป็น รมว.คมนาคม นายทรงศักดิ์ ทองศรี เป็น รมช.คมนาคม นายอนุรักษ์ จุรีมาศ เป็น รมช.คมนาคม

นางงอนงค์วรรณ เทพสุทิน เป็น รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายมั่น พัธโนทัย เป็น รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ เป็น รมว.พลังงาน นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ เป็น รมช.พาณิชย์ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ เป็น รมช.พาณิชย์

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เป็น รมว.มหาดไทย นาสุพล ฟองงาม เป็น รมช.มหาดไทย นายสิทธิชัยโควสุรัตน์ เป็น รมช.มหาดไทย นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็น รมว.ยุติธรรม นางอุไรวรรรณ เทียนทอง เป็น รมว.แรงงาน นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ เป็น รมว.วัฒนธรรม นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง เป็น รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายบุญลือ ประเสริฐโสภา เป็น รมช.ศึกษาธิการ นายพงศกร อรรถนพพร เป็น รมช.ศึกษาธิการ นายไชยา สะสมทรัพย์ เป็น รมว.สาธารณสุข นายชวรัตน์ ชาญวีรกุล เป็น รมช.สาธารณสุข

"สมัคร"แถลงทุกอังคารกับศุกร์

นายสมัคร สุนทรเวช ให้สัมภาษณ์ภายหลังนำ ครม.เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า ครม.จะเริ่มทำงานในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ.นี้ โดยจะประชุมหารือกันในเรื่องต่างๆ ส่วนนโยบายรัฐบาลจะหารือกันในวันอังคารที่ 12 ก.พ. ก่อนที่จะนำไปแถลงต่อสภา โดยเรื่องเร่งด่วนของรัฐบาลแต่ละกระทรวงจะนำมาไปพุดคุยกันในวันอังคาร แต่หากมีเรื่องเร่งด่วนกว่านั้นก็จะนำเข้าหารือในวันศุกร์ที่ 8 ก.พ.นี้ สำหรับตนจะให้สัมภาษณ์ทุกวันอังคารและวันศุกร์

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีนโยบายกับสื่ออย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็พูดจากับสื่อดี ๆ ขอเป็นมิตรกับสื่อ "จะไม่เป็นศัตรูกับสื่อ จะพูดด้วยภาษาที่มีคนบอกว่าพูดาไพเราะ ไม่มีเสียหาย"

ส่วนหลักปฏิบัติใน ครม.นั้น นายสมัคร กล่าวว่า ก็ต้องทำงานร่วมกันอย่างดี ให้เรียบร้อยไม่ขัดแย้ง บ้านเมืองก็ล้มลุกคลุกคลานมานานแล้ว เราจะทำให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หากมาร่วมประชุมแล้ว ไม่ร่วมมือกัน ก็เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ รองนายกฯ 6 คน ตอนรอเข้าเฝ้าฯ ก็ได้คุยกันแล้วเบื้องต้น และวันศุกร์ก็จะคุยกันอีกรอบหนึ่ง ซึ่งหลังจากนี้ก็จะไปคุยกับ ครม.อีกรอบหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีนโยบายดูแลรัฐมนตรีอย่างไรไม่ให้เกิดการทุจริต นายสมัคร กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นมาตรฐานสากลไปแล้วในปัจจุบัน คือแน่ใจเมื่อไปถวายสัตย์มาแล้ว ใครไปทำอย่างนั้นให้ไปฟังรับสั่งในทีวีคืนนี้ก็แล้วกัน เพราะท่านทรงรับสั่งเรื่องนี้ด้วย

"มิ่งขวัญ"หาเงิน"เลี้ยบ"คุมการคลัง

สำหรับการให้ความสำคัญในเรื่องเศรษฐกิจนั้น นายกรัฐมนตร กล่าวว่า เรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องใหญ่เลยผ่าเป็น 2 ท่าน นายมิ่งขวัญ จะดูเรื่องการหาเงิน เรื่องใครจะมาลงทุน เอาเงินเข้าประเทศ ส่วนเรื่องสถาบันการเงิน การคลัง วินัยทางการเงิน การคลัง เรื่องค่าเงินบาท นพ.สุรพงษ์ จะดู

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีจะคุมอีกชั้นหนึ่งหรือไม่ นายสมัครกล่าวว่า มันเป็นไปโดยอัตโนมัติอยู่แล้ว แต่คงไม่ถึงขึ้นลงไปเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ แต่นายมิ่งขวัญและ นพ.สุรพงษ์ จะมีทีมงานแต่จะเป็นใครบ้างนั้นยังไม่กล้าบอก เพราะมีกฎหมาย 7 ชั่วโคตรกำกับอยู่ จึงไม่มีใคตรกล้า เลยต้องมาในฐานะที่ปรึกษา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ในสมัยรัฐบาลนายชวน หลีกภัย มีหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ 2 คนรคือนายศุภชัย พานิชภักดิ์ และนายธารินทร์ นิมมานเหมินทร์ แล้วมีปัญหา รัฐบาลนี้เกรงหรือไม่ว่าจะมีปัญหาเหมือนรัฐบาลนายชวนอีก นายสมัคร กล่าวนายศุภชัย กับนายธารินทร์ ทะเลาะกันก็เรื่องของเขา แต่ นพ.สุรพงษ์ และนายมิ่งขวัญ เขาไม่ทะเลาะกันก็เป็นเรื่องของเรา ถ้าไม่มั่นใจจะมาชวนเขาทั้ง 2 คนได้อย่างไร

ไม่ทะเลาะกันใครเพื่อความสมานฉันท์

สำหรับการสร้างความสมานฉันฑ์นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มันเป็นโดยอัติโนมัติ ถ้าเราไม่ไปทะเลาะอะไรกับใคร ก็อาจจะเรียบร้อยดี ใครมาทะเลาะอะไรกับเราก็ต้องดู เขาทำอะไร ทำทำไม มันไม่น่ามีปัญหาว่าจะเกิดอะไรเกิดขึ้นอีก เพราะบ้านเมืองมาถึงจุดที่ต้องอยู่ด้วยกันอย่างเรียบร้อย "ถ้าเราไม่ไปวอแวกับใคร เขาก็ควรจะรู้ว่าไม่ควรมาแตะต้องอะไรกับเรา"

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะให้เวลารัฐมนตรีทำงานถึงเมื่อไหร่ จึงจะประเมินผล นายสมั้คร กล่าวว่า ต้องให้โอกาสกันหน่อย รอสักพักหนึ่งก็แล้วกัน

ส่วนปัญหาเรื่องความมั่นคงนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะมีรองนายกฯดูแล โดจมีทหารทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาหลายคน ซึ่งคนเหล่านี้เขาจะทำงานกับตน ไม่ได้ทำงานกับกองทัพ ส่วนตนทำงานกับกองทัพ

"แล้วคุณคิดว่าจะมีปัญหาอะไร ในเมื่อเราจะไม่มีปัญหาซึ่งกันและกัน แล้วคุณจะมาตั้งปัญหาอะไร เอาพลเรือนมาก็เพื่อจะไม่ให้มีปัญหา ผมคิดว่าเรื่องทุกอย่าง เรียบร้อย ทุกคนก็เข้าใจดี นี่คุยหนเดียวยังเข้าใจดี"

สำหรับนโยบายภาคใต้นั้นนายสมัคร กล่าวว่า ภาคใต้เขามีคนดูแลอยู่ เราจะไปร่วมกับเขา เขาก็ต้องเล่าให้เราฟัง เมื่อวานประชุมก็มีคนฝากข้อเสนอแนะ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เราก็รับฟัง เขาบอกว่าให้ปลดอาวุธให้หมด โดยข้าราชการยังไม่ปลด ให้ปลดอาวุธจากราษฎรก่อน และบอกให้ปราบยาเสพติดให้หมดซึ่งน่าทำทั้งนั้น

โยนสำนักงบฯ ดูแลเงิน คตส.

ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลจะมีนโยบายสนับสนุนการทำงานของคตส.อย่างไร นายสมัคร กล่าวว่า คตส.เขามีหน้าที่ทำงานของเขาอยู่แล้ว เราไม่ต้องสนับสนุน เขาก็อยากทำของเขาเต็มที่ เมื่อถามว่าตอนนี้คตส.มีปัญหาในเรื่องของงบประมาณอยู่ จะพิจารณาให้การช่วยเหลืออย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "อ๋อ เหรอ เรื่องของเขา คตส.เขารู้ว่าจะต้องของบที่ไหน ไม่มีปัญหาอะไร สำนักงบเขาเป็นคนดู ไม่ใช่ผม ผมเป็นนายกรัฐมนตรี เขามีสำนักงบประมาณก็ขอตามช่องทางเขา เขาไม่มาเดินขอนายกฯ ตามถนนหรอก"

ส่วนกระแสข่าวจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ที่ว่าอาจจะมีการยุบพรรคมัชฌิมาธิปไตยและพรรคชาติไทย ได้เตรียมการช่วยเหลืออย่างไร นายสมัคร กล่าวว่า แล้วจะไปยุ่งกับเขาทำไม เพราะเขาเป็นองค์กรอิสระ "คุณเอาข่าวมาบอกก็ใจเต้นแล้ว"

ส่วนที่นักวิชาการวิจารณ์ว่ารัฐบาลจะมีความขัดแย้งภายในจนกลายเป็นปัญหา นายสมัคร ย้อนถามว่า ใครหมอดูหรือ ผู้สื่อข่าวบอกว่านักวิชาการ นายสมัคร จึงกล่าวว่า นักวิชาการก็ปล่อยให้ท่านวิพากษณ์วิจารณ์ไป

"ผมไม่อยากจะตอบโต้นักวิชาการ เดี๋ยวจะเกิดเหตุอย่างคุณทักษิณ (ชินวัตร) ต่อยมาต่อยกลับไปเดี๋ยวก็มีเรื่องอีก ก็ให้เข่าต่อยข้างเดียวก็แล้วกัน แต่ถ้าวิจาร์ผมจะอ่านนะ"

มั่นใจรัฐบาลลากยาวได้ 4 ปี

ผู้สื่อข่าวถามว่ายังยืนยันหรือไม่ว่าอายุรัฐบาลจะอยู่ย่างน้อย 4 ปี อย่างมาก 8 ปี นายสมัคร กล่าวว่า "ในรัฐธรรมนูญเขาว่าอย่างงั้น ผมปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญน่ะ" เมื่อถามว่า ครม.ของท่านจะลากถึง 4 ปีหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า "คุณใช้คำอย่างงี้ดูแคลนกัน ต้องลากเลยเหรอ" ผู้สื่อข่าวจึงกล่าวว่า หมายถึง สามารถทำงานไปถึง 4 ปีหรือ นายสมัคร กล่าวว่า คิดว่าทำได้ ตามสิทธิ แต่คิดว่า 3 เดือนก่อนหมดวาระจะไปจะดูแลเรื่องรัฐธรรมนูญ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ผลโพลต้องการให้รัฐบาลสร้างภาพลักษณ์ในการพัฒนาประเทศ แล้วรัฐบาลจะเอาอะไรมาสร้างภาพลักษณ์ นายสมัคร กล่าวว่า "ให้โพลเขาทำหน้าที่ของเขาไป ผมจะทำอะไรผมจะบอกวันหลัง คิดกันทันที ผมออกมาจากการเข้าเฝ้าฯ แล้วถาม-ตอบแช๊บ แช๊บ แช๊บ มันจะเก่งเกินเหตุ ให้ไปปรึกษาหารือพรรคพวกเขาก่อน"

สำหรับการจัดรายการวิทยุนั้น นายสมัคร กล่าวว่า พูดกันเรียบร้อยแล้วจะเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 10 ก.พ.นี้เวลา 08.30 น.เป็นต้นไป ชื่อรายการ "สนทนาภาษาสมัคร"

ชมตัวเองซื่อสัตย์ รมต.ต้องซื่อสัตย์

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการจับตารัฐมนตรีที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งหรือไม่ นายสมัคร กล่าวว่า "หน้าที่ของผมคือผมจะต้องพิสูจน์ให้คนในบ้านเมืองนี้เห็นว่า ผมเป็นคนยังไง ทุจริตฉ้อราษฎร์ บังหลวงไหม คดีความทั้งหลายก็สู้กันตรงไปตรงมาเลย ไม่ได้เอาอิทธิพลอะไรไปยุ่ง เพราะแน่ใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด จึงไม่ได้วิตกทุกข์ร้อนและไม่ท้าทาย เพราะเดี๋ยวเขาจะทำอะไรยังไง แต่ดูแล้วไม่วิตก เพราะงั้นเรื่องนี้ตลอดมาจนถึงป่านนี้ รักษาเนื้อรักษาตัวมาได้ คนมาอยู่กับผม 35 คนก็ควรจะต้องเป็นอย่างผม ไม่งั้นผมก็เสียชื่อเสียง ผมต้องรักษาของผมแน่"

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้คุยกับ ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมช.คลังหรือยัง ในเรื่องที่ไม่พอใจ นายสมัคร กล่าวว่า "โอย เธอก็หัวเราะ ขนาดนายสุวิทย์ คุณกิตติ ลูกพี่ของเธอ ที่ไปเจอกันที่งานของสถานทูตออสเตรเลียเขาเจอเขาก็มาไหว้"

ผู้สื่อข่าวถามว่า อย่างไรที่ถูกวิจารณ์ว่าเป็น ครม.ต่างตอบแทน นายสมัคร กล่าวว่า เขาจะนินทาก็นินทาไป แต่ตนได้เอ่ยไว้คำหนึ่งก็พอเพียงแก่เหตุแล้ว ไม่ต้องมาซ้ำซากอีก

"ที่เอ่ยไว้ว่าขี้เหร่ยังงี้ แปลว่ามันไม่ได้อย่างใจผม ไม่ได้ไปบ่นอะไรเขา เท่านั้นเอง ก็ไปตีความกันว่าคนนั้นคนนี้ คือไม่ได้อย่างใจเท่านั้นเอง แต่ว่าเรื่องนี้ก็เห็นความจำเป็นกรุณาเห็นใจผมหน่อย แต่ขี้เหร่ยังงี้ ถ้ามีคุณภาพดีจะว่าไง ฉะนั้นก็ให้เวลาหน่อย เรื่องบกพร่องอะไรต่างๆ ต่างคนต่างรู้กันอยู่ ผมมีหน้าที่ที่จะต้องดูแลให้เรียบร้อย เป็นหน้าที่อย่างยิ่งเลย ถ้าดูแลไม่เรียบร้อยก็เอาตัวไม่รอด"

เล็งนิรโทษกรรม 111 อดีตคน ทรท.

ผู้สื่อข่าวถามถึงการนิรโทษกรรม 111 อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายสมัคร กล่าวว่า อาจจะมาพร้อมกันหรืออาจะรอบรรยากาศดีแล้วทำ เพราะเขาบอกว่า บุคลากรทางการเมืองไม่มีใช้เลย หรือมาได้ครึ่งทางก็บอกว่าเอาเถอะเอาเขาออกมาดีกว่าเราก็ทำ แต่เสียงต้องเกินครึ่งหนึ่ง

"ไม่ใช่ความเห็นของประชาชน ปัญหามันอยู่ที่ว่าบุคลากรทางการเมืองมันหามาใช้งานไม่ค่อยได้ ดีดีทั้งนั้นน่ะ ตั้ง111 ผมไม่กล้าพูดอะไรหรอก ผมพูดก็ไม่มีเหตุผลอะไรหรอก ถ้ามีการว่ากล่าวผมก็ต้องหยุดเท่านั้นเอง"

นายสมัคร กล่าวถึงสาเหตุที่ 111 คนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองด้วยว่า มันไม่ใช่กระบวนการยุติธรรม เพราะไม่ได้มีตำรวจไปจับสอบสวน ไม่ได้มีอัยการสั่งฟ้อง แต่เป็นเรื่องว่าเขาขัดแย้งกันในความเห็น และตุลาการรัฐธรรมนูญไม่ใช่ศาลด้วย

"ชอบใช้กันนักศาลพิพากษา ชอบอ้างกันนัก ไม่ใช่เลย คณะกรรมการตุลาการรัฐธรรมนูญมีความขัดแย้งกัน คนหนึ่งบอกว่าไอ้พรรคนี้จ้างพรรคเล็กลง อีกพรรคบอก พรรคเล็กไม่ให้ลง แล้วตุลาการเขาก็บอก พรรคใหญ่จ้างพรรคเล็กลงยุบ พรรคใหญ่จ้างพรรคเล็กไม่ให้ลงไม่ยุบ เท่านั้นเอง คนวินิจฉัยก็เลนโดนนินทาไป ไปอ้างว่าพิพากษาไม่ได้เลย เพราะเป็นคำวินิจฉัยของคณะกรรมการเท่านั้นเอง เป็นบทเรียนสำหรับทุกคนด้วย ใครไม่โดนก็ไม่รู้สึกหรอก"

ครม.หุ่นเชิด"ทักษิณ"

สำหรับ ครม.ชุดดังกล่าวถูกมองว่าเป็น ครม.หุ่นเชิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เนื่องจากรายชื่อ ครม.ส่วนใหญ่ที่ได้รับการแต่งตั้งต้องการพิจารณาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีตำแหน่งสำคัญ ๆ จะเป็นใกล้ชิดของอดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็น นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกฯ และ รมว.คลัง นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ศึกษาธิการ นายชูศักดิ์ ศิรินิล นายจักรภพ เพ็ญแข เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ
 
ขณะเดียวกันยังมีตัวแทนสามีที่อยู่ใน 111 อดีตกรรมการบริหาร พรรคไทยรักไทย ที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี ได้แก่ พล.ท.หญิงพูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รมว.พลังงาน ภริยา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รมช.คลัง ภริยา ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ ภริยา นายสมศักดิ์ เทพสุทิน

นอกจากนี้ยังมี รัฐมนตรีนอมินี อย่างนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม นายพงศกร อรรถนพพร รมช.ศึกษาธิการ นายธีระชัย แสนแก้ว รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายสุพล ฟองงาม รมช.มหาดไทย ซึ่งเป็นคนของ นายเนวิน ชิดชอบ

"เลี้ยบ"ปฎิเสธปลดผู้ว่าฯ ธปท.

นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ปฎิเสธข่าวที่ว่าขัดแย้งกับ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ โดยกล่าวว่าประหลาดใจกับข่าวดังกล่าว เพราะได้พูดคุยกับนายมิ่งขวัญมาตลอด มีการแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจร่วมกัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีความเห็นไม่ตรงกัน

ส่วนกระแสข่าวการปรับเปลี่ยนตัวผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นนั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าข่าวมาจากไหน แต่ไม่ใช่เป็นความเห็นของ ผู้มีหน้าที่หรือบทบาทสำคัญ ตนก็ไม่เคยให้ความเห็นในลักษณะเช่นนี้ เพราะยังไม่ได้ทำหน้าที่อย่างเป็นทางการ

"ไชยา"ลั่นขึ้นเดือนหมอ-พยาบาล

นายไชยา สะสมทรัพย์ รมว.สาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า นโยบายหลักคือการแก้ไขโครงสร้างเงินเดือนแพทย์ พยาบาล ที่ถูกจัดสรรให้รวมอยู่ในงบประมาณรายหัวของผู้ป่วยในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า(บัตรทอง) จึงทำให้แพทย์ พยาบาล ไม่ได้รับการปรับขึ้นอัตราเงินเดือนได้อย่างเต็มที่เหมือนกับข้าราชการกรทะรวงอื่นๆ ทำให้เกิดปัญหาแพทย์สมองไหลลาออกไปอยู่โรงพยาบาลเอกชน เป็นจำนวนมาก โดยจะหาช่องเพิ่มเงินเดือนให้เต็มอัตราคือร้อยละ 6 และหาช่องจัดสรรเงินตอบแทน (โบนัส) ด้วย

นายไชยา กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องการประกาศบังคับใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตร(ซีแอล) หากเป็นยาตัวที่มีการประกาศและมีการจัดซื้อยาไปแล้วจำนวน 3 ตัว ก็ให้เดินหน้าต่อไปได้ เพราะเป็นโรคที่มีผู้ป่วยจำนวนมาก แต่สำหรับเรื่องการทำซีแอล ยามะเร็ง 4 รายการ ตนจะทบทวนเรื่องใหม่ โดยจะนำเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อให้มีการพิจารณาอย่างรอบครอบ
กำลังโหลดความคิดเห็น