xs
xsm
sm
md
lg

โออิชิรับJTEPAซื้อแฟรนไชส์อีก เพิ่มวัตถุดิบนำเข้า70%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โออิชิดี๊ด๊า รับเจเทปป้า ภาษีวัตถุดิบนำเข้าลดเตรียมนำเข้าเพิ่มเป็น 70% เล็งซื้อแฟรนไชส์ร้านอาหารญี่ปุ่นเพ่มอีก 2 แบรนด์ ปรับร้านอินแอนด์เอาท์เจาะตลาดแมส

นายไพศาล อ่าวสถาพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากผลพวงของความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่นหรือ JTEPA ที่มีผลใช้เมื่อปลายปีที่แล้ว ส่งผลดีต่อการทำธุรกิจกับญี่ปุ่นโดยเฉพาะอาหารญี่ปุ่นประเด็นหลักๆคือ ภาษีวัตถุดิบบางตัวลดลงเหลือ 0% และการทำธุรกิจซื้อแฟรนไชส์จะง่ายขึ้นซึ่งร้านอาหารญี่ปุ่นหลายแบรนด์สนใจ
จะเข้าตลาดไทย
ล่าสุดโออิชิอยู่ระหว่างการเจรจาซื้อลิขสิทธิ์แฟรนไชส์ร้านอาหารจากญี่ปุ่นอีก 2 แบรนด์ คาดว่าเร็วๆนี้จะสรุปได้ ซึ่งเปลายปีที่แล้วได้เซ็นสัญญาเอ็มโอยูซื้อแฟรนไชส์ร้านอาหารญี่ปุ่นแบรนด์
Maido Ooikini Shokudo ไปแล้ว คาดว่าไตรมาสที่ 2 เปิดสาขาแรกได้ อยู่ระหว่างพิจารณาทำเลที่เซ็นทรัลเวิลด์ และสยามฟิวเจอร์แจ้งวัฒนะ ลงทุน 4-5 ล้านบาทต่อสาขา
ปีนี้จะนำเข้าวัตถุดิบจากญี่ปุ่นและประเทศอื่นเข้ามาเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วน 70% เพราะภาษีลดลง จากเดิมที่นำเข้ามาประมาณ 50% อย่างไรก็ตามราคาวัตถุดิบขณะนี้เพิ่มขึ้นกว่า 15-20% ในภาพรวม ซึ่งมากที่สุดที่เคยมีมา ส่งผลต่อต้นทุนดำเนินการเพิ่มขึ้น 1-2% แต่บริษัทฯยังไม่ปรับราคาอาหารในช่วงนี้
ส่วนแผนขยายสาขาปีนี้จะใช้งบ 200 ล้านบาท เพิ่มอีก 20 สาขา มากที่สุดจากเดิมลงทุนเฉลี่ย 100 ล้านบาทเปิดเพียง 10 กว่าสาขาเท่านั้นแบ่งเป็น ร้านแบบเดลโก้ 9 แห่ง ร้านชาบูชิ 5 แห่ง ส่วนที่เหลือเป็นแบรนด์อื่นรวมกัน ส่วนงบตลาดใช้ 100 ล้านบาทหรือ 5% จากยอดขาย ซึ่งปีนี้ตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท เติบโต 17% จากปีที่แล้วที่เติบโตประมาณ 13% โดยโออิชิมีส่วนแบ่งตลาด 35% จากมูลค่าตลาดอาหารญี่ปุ่นกว่า 6,000 ล้านบาทเมื่อปีที่แล้ว และคาดว่าปีนี้จะเพิ่มเป็น 38% จากมูลค่าตลาดรวมที่เพิ่มขึ้นเป็น 7,000 ล้านบาท
ปัจจุบันโออิชิมีร้านอาหารในเครือรวม 88 สาขา ( แบ่งเป็นของบริษัทฯ 84 สาขาและ แฟรนไชส์ 4 สาขา ) แบ่งเป็น บุฟเฟ่ท์ 3 แห่ง, เอ็กซ์เพรส 8 แห่ง, แกรนด์ 1 แห่ง, ชาบูชิ 14 แห่ง ซึ่ง ทั้ง 4 แบรนด์นี้เป็นบุฟเฟท์มีรายได้รวมกันเป็นสัดส่วนถึง 65% ที่เหลือเป็นแบรนด์ โออิชิราเมน อินแอนด์เอ้าท์ และอื่นๆ
สำหรับร้านอินแอนด์เอ้าท์นั้น จากเดิมมีแผนที่จะรีแบรนด์ใหม่ แต่เนื่องจากใช้งบประมาณมาก และการหาทำเลดีๆเปิดร้านก็ลำบาก ปัจจุบันมี 11 สาขา จึงปรับแผนใหม่ไม่เน้นการเพิ่มสาขา แต่
จะหันมาเน้นตลาดแมสมากขึ้น โดยการผลิตสินค้าแล้วนำไปวางขายตามช่องทางโมเดิร์นเทรดต่างๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น