xs
xsm
sm
md
lg

ฟัน"เนวิน"ทุจริตเซ็นทรัลแล็บ คตส.ส่ง ปปง.-DSI บี้ฟอกเงิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คตส.ฟัน "เนวิน" รับนายกฯ คนใหม่ พร้อมพวกรวม 53 ราย ร่วมทุจริต "เซ็นทรัลแล็บ" พร้อมส่ง "ปปง.-ดีเอสไอ" สอบเส้นทางฟอกเงิน พร้อมตั้ง "เสาวนีย์" เป็นประธานอนุฯ ไต่สวน ประธาน "นาม ยิ้มแย้ม" บอกไม่ตื่นเต้น "สมัคร" ขึ้นนายกฯ ลั่นเดินหน้าลุยสางรถดับเพลิงฉาว เชื่อทัน มิ.ย.นี้ ระบุศาลมีอำนาจอธิปไตยใครก็สั่งไม่ได้

ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วานนี้ (28 ม.ค.) มีการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) นายสัก กอแสงเรือง โฆษก คตส. แถลงหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ของบริษัทห้องปฏิบัติการกลางตรวจสอบผลิตภัณฑ์เกษตรและอาหาร จำกัด (เซ็นทรัลแล็บ) พร้อมทั้งชี้มูลความผิดบุคคลที่เกี่ยวข้องกว่า 53 คน ประกอบด้วย

1.กลุ่มนักการเมือง คือนายเนวิน ชิดชอบ รมช.เกษตรและสหกรณ์ในขณะนั้น โดยใช้อำนาจสั่งการ และชี้นำในการดำเนินการโครงการดังกล่าว มีความผิดตาม มาตรา 10,11,13 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 ประกอบมาตรา 84 ประมวลกฎหมายอาญา และมาตรา 66 แห่งพ.ร.บ. ป.ป.ช.

2.คณะกรรมการบริหาร กรรมการผู้จัดการ คณะกรมการบริษัท คณะทำงานด้านเทคนิคสถานที่และอุปกรณ์ และคณะทำงานพิจารณาด้านเทคนิคอุปกรณ์ ของ บริษัท เซ็นทรัลแล็บ ได้ร่วมกันกำหนดคุณสมบัติหรือล็อกสเปกในลักษณะเจาะจง และมีคณะกรรมการบางคนมีส่วนได้เสียกับการดำเนินการครั้งนี้ มีความผิด ตามมาตรา 11 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 หรือ พ.ร.บ.ฮั้ว ประกอบมาตรา 151 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และมาตรา 8 แห่งพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502

ทั้งนี้ ในส่วนของการประกวดราคาที่ไม่ชอบ เห็นควรดำเนินการกับกรรมการผู้จัดการ และคณะกรรมการบริหาร ตามมาตรา 11 และ 12 แห่งพ.ร.บ.ฮั้ว มาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายาญา และมาตรา 8 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดต่อพนักงานของรัฐฯ พ.ศ.2502

3.กลุ่มบริษัทเอกชน รวมกันฮั้วในการเสนอราคามีความผิดตามาตรา 4 ,9 แห่ง พ.ร.บ.อั้ว และมาตรา 341 แห่งประมาลกฎหมายอาญา และกลุ่มที่ 4 บุคคลและนิติบุคคล ที่ร่วมกันในการสมยอมราคาและฉ้อโกงรัฐ ทำให้รัฐเสียหายมีความผิด ตามมาตรา 5 ,9 แห่งพ.ร.บ.ฟอกเงิน พ.ศ. 2542 ซึ่งต้องรับโทษตามมาตรา 60,61 ตาม พ.ร.บ.ดังกล่าวและมีความผิดฐานรับของโจร ตามมาตรา 357 แห่งประมวลกฎหมายอาญา นอกจากการกล่าวหาของ คตส.แล้วจะมีการส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ง.และดีเอสไอ เพื่อสอบประเด็นการฟอกเงินด้วย

โดยที่ประชุมมีมติตั้ง นาง เสาวนีย์ อัศวโรจน์ เป็นประธานอนุไต่สวน พร้อมเตรียมส่งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาได้รับทราบข้อกล่าวหาพร้อมทั้ง แก้ข้อกล่าวหา และคัดค้านการตั้งอนุกรรมการไต่สวนต่อไป

ตั้งบริษัทขัดรัฐธรรมนูญ

นายสักกล่าวว่า จาการตรวจสอบของอนุกรรมการตรวจสอบ พบความผิด ในหลายประเด็น คือ 1. การกำหนดนโยบายเพื่อจัดตั้งบริษัทห้องปฏิบัติการกลาง ฯ ถูกต้องหรือไม่ ซึ่งพบว่าการเสนอเรื่องต่อที่ประชุม ครม. ที่ครั้งแรก เป็นการดำเนินงานในลักษณะองค์กรมหาชน แต่ต่อมาผู้รับผิดชอบโครงการ เปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินงานให้เป็นลักษณะบริษัทจำกัด เพื่อที่จะได้ไม่ต้องยึดติดกับกฎหมายและข้อบังคับที่หน่วยงานรัฐถือปฏิบัติมากนัก เพื่อเหตุผลที่จะทำให้สามารถเข้ามากำหนดรูปแบบการดำเนินงานของบริษัทได้ง่ายขึ้น อาทิ การคัดเลือกบุคคลเข้ามานั่งเป็นคณะกรรมการชุดต่างๆ การใช้จ่ายเงิน รวมถึงการออกกฎระเบียบของบริษัทในเรื่องต่างๆ และจากการตรวจสอบข้อมูลบันทึกการประชุมของคณะกรรมการจัดตั้งบริษัท

ภายหลังจากที่ ครม.ได้เห็นชอบในการก่อตั้งบริษัทแห่งนี้ พบว่ามี รมช.เกษตรฯเข้าไปทำหน้าที่เป็นประธานเพื่อให้การดำเนินงานทั้งหมดของบริษัทห้องปฏิบัติการกลาง ฯ เป็นไปตามความต้องการของตนเอง

จากการตรวจสอบพบว่าการจัดตั้งบริษัทไม่สมเหตุสมผล เพราะในช่วงการนำเสนอเรื่องเข้าที่ประชุม ครม.นั้นมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ให้ความเห็นในลักษณะของการให้ผู้รับผิดชอบกลับไปพิจารณาทบทวน ถึงความจำเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาความซ้ำซ้อนกับการดำเนินงานของ หน่วยงานอื่น ที่มีการดำเนินการให้บริการตรวจสอบเรื่องปัญหาสารตกค้าง ในสินค้าเกษตรอยู่แล้ว นอกจากนี้ เงินที่นำมาใช้ในการจัดตั้งบริษัทก็เป็นของรัฐ การดำเนินงานในทุกเรื่องก็ควรที่จะอ้างกับกฎระเบียบของภาครัฐเป็นสำคัญ

การจัดตั้งหน่วยงานนี้ในรูปบริษัทจำกัดเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2540 มาตรา 87 ที่ไม่ให้รัฐค้าขายแข่งขันกับเอกชน ไม่สอดคล้องกับภารกิจของกระทรวงการคลัง ตามพ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ.2545 มาตรา 10 และพ.ร.บ.ส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ.2543

ใช้อุปกรณ์ไม่คุ้มค่าราคาที่จัดซื้อ

นอกจากนั้นในการก่อตั้งไม่ได้ศึกษาความเป็นไปได้และรายละเอียดในเรื่อง ความคุ้มทุน เนื่องจากในการลงพื้นที่ตรวจสอบการดำเนินงานของบริษัทห้องปฏิบัติการกลาง ฯ ที่เปิดให้บริการก็ลูกค้า ก็พบว่าการดำเนินงานไม่ประสบความสำเร็จมากนัก เนื่องจากแม้ว่าสินค้าจะผ่านการรับรองจากบริษัทห้องปฏิบัติการกลาง ฯ แล้ว แต่ผลการรับรองก็ต้องผ่านการพิจารณาจากห้องปฏิบัติการของหน่วยงานราชการอีก รวมถึงราคาของห้องปฏิบัติการภาครัฐ ก็อยู่ในอัตราที่ต่ำกว่าด้วย จึงทำให้ลูกค้าของบริษัทห้องปฏิบัติการกลางฯ มีไม่มากนัก และหลังจากการเปิดให้บริการของบริษัทห้องปฏิบัติการกลาง ฯ พบว่าได้มีการจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ ในราคาแพงใช้ไม่คุ้มค่า บางสาขาก็ไม่ได้ใช้ บางสาขาพื้นที่ให้บริการไม่มีการตรวจสอบอาหารทะเล เพราะอยู่ในจังหวัดห่างไกลจากทะเล แต่มีการซื้อเครื่องมือที่ใช้ตรวจสอบอาหารทะเล เนื่องจากมีการจัดซื้อเครื่องมือที่เหมือนกันในทุกสาขา

นายสัก กล่าวว่า ประเด็นที่ 2 คือ สถานะของบริษัทห้องปฏิบัติการกลาง ฯ มีสถานะเป็นหน่วยงานของรัฐประเภทรัฐวิสาหกิจไม่ใช่บริษัทจำกัด ตาม พ.ร.บ.ต่าง ๆ เช่น พ.ร.บ.พนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2534 มาตรา 4 พ.ร.บ.คุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2518 มาตรา 4 และพ.ร.บ.พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2521 มาตรา 4

ทำผิด กม.ทั้งการกำหนดคุณบัติ-ราคา

สำหรับประเด็นที่ 3 คือ การดำเนินการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ของบริษัทห้องปฏิบัติการกลาง ฯ นั้นมีการกระทำผิดกฎหมาย ตั้งแต่การกำหนดคุณลักษณะเฉพาะและราคากลางของเครื่องมือและอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ของบริษัทห้องปฏิบัติการกลาง ฯ เพื่อนำไปใช้ในการประกวดราคา มีลักษณะเป็นการให้ประโยชน์กับบริษัทเอกชนบางรายและกีดกันบริษัทอื่น ๆ มีความผิดปกติในการดำเนินการในการประกวดราคา เช่น การจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ พบว่ามีความผิดปกติ เช่น การประมูลจัดซื้อ มีบริษัทเอกชนบางราย ใช้แหล่งเงินในการออกหนังสือค้ำประกันธนาคารแห่งเดียวกัน บุคคลที่ดำเนินการเป็นคนเดียวกัน บริษัทที่เข้าประมูลหลายแห่งจะได้รับใบอนุญาตให้เป็นตัวแทนการขายเครื่องมือ จากบริษัทจำหน่ายเครื่องมือรายใหญ่รายหนึ่ง ทำให้มีลักษณะเป็นการกีดกันผู้เสนอราคา รายอื่น และกรรมการรายหนึ่งที่ทำหน้าที่ในการกำหนดคุณลักษณะเครื่องมือ มีความสัมพันธ์ทางครอบครัวกับผู้บริหารระดับสูงในบริษัทขายเครื่องมือรายหนึ่งด้วย

นอกจากนั้น เครื่องมือที่มีการจัดซื้อก็มีราคาสูงมากกว่าความเป็นจริง เพราะในกระบวนการซื้อขายเครื่องมือของเอกชนเป็นลักษณะการซื้อเครื่องมือมาเป็นทอดๆ เช่น กิจการร่วมค้าบริษัทสิทธิพร ฯ ซึ่งเป็นผู้ประมูลการจัดหาเครื่องมือทาง วิทยาศาสตร์ได้ นั้นไม่ได้จัดซื้อเครื่องมือจากบริษัทผู้ผลิต เช่น บริษัทเอจิเลนต์ ฯ โดยตรง แต่ได้ให้บริษัทเอกชนอื่น เช่น บริษัท เอส. ดับเบี้ลยู. เอ็น. คอมพิวเทค จำกัด (ซี่งไม่มีประสบการณ์ในการประกอบธุรกิจประเภทการค้าเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ มาก่อนและภายหลังได้เลิกกิจการไปหลังจากการซื้อขายสินค้าครั้งนี้) ดำเนินการซื้อจากบริษัทเหล่านั้นและนำมาขายกับกิจการร่วมค้าบริษัทสิทธิพร และมีบางบริษัทเป็นผู้ดำเนินการในลักษณะตัวแทนจำหน่ายสินค้าให้กับบริษัทผู้ผลิตสินค้า เช่น บริษัทเวิลด์สยาม กรุ๊ป จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของบริษัทเอจิเลนต์ฯ

(บริษัทต่าง ๆ ดังกล่าวนั้นมีความเกี่ยวพันใกล้ชิดกันในการประกอบธุรกิจกับโครงการต่าง ๆ ของกระทรวงเกษตรฯ โดยจากการตรวจสอบเส้นทางการเงิน ที่โอนไปจากกิจการร่วมค้าบริษัทสิทธิพร ฯ ที่ได้เงินไปจากบริษัทห้องปฏิบัติการกลาง ฯ พบว่าบริษัทเหล่านี้ ได้เคยเข้าร่วมประมูลงานข้อมูลในโครงการอื่นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 3 โครงการ ที่เกี่ยวเนื่องมาแล้ว ชี้ให้เห็นว่าบริษัทเอกชนเหล่านี้ มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกัน)

จากการที่มีการซื้อขายสินค้ากันหลายทอดดังกล่าวจึงทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้น มากกว่าที่ควรจะเป็นโดยมีส่วนต่างประมาณ 343 ล้านบาท อันทำให้บริษัทห้องปฏิบัติการกลาง ฯ เสียประโยชน์จากการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ของบริษัทดังกล่าว และเงินที่ได้รับไปจากบริษัทห้องปฏิบัติการกลาง ฯ ถูกสั่งจ่ายเป็นเช็คมากกว่าหลายร้อยใบ ไปให้บุคคลและบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก ก่อนที่เงินจำนวนนี้จะถูกถอน เป็นเงินสดและหายไปโดยไม่สามารถติดตามได้ และมีเงินจากบริษัทห้องปฏิบัติการกลาง ฯ บางส่วนโอนข้าไปในบัญชีของกลุ่มนักเล่นหุ้นกลุ่มหนึ่งด้วย

บิ๊ก คตส.ไม่สน "สมัคร" ขึ้นนั่งนายกฯ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานของ คตส.ว่า ภายหลังจากข่าวสภามีมติโหวตให้นาย สมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชน หนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาคดีการทุจริตการจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิงกทม. เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ปรากฏว่า ในช่วงบ่าย ได้มีประชาชนประมาณ 10 คน ที่เคยร่วมชุมนุมกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในขับไล่รัฐบาลพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เข้ามอบดอกไม้เพื่อให้กำลังใจต่อ คตส. ทั้ง 10 คน

นายนาม ยิ้มแย้ม ประธาน คตส. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวน คดีการจัดซื้อรถ-เรือดับเพลิง กทม. กล่าวว่า ไม่รู้สึกตื้นเต้นกับการที่นายสมัคร ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะบ่ สน และคิดว่าทุกอย่างเป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย เมื่อสภามีมติให้เป็นอย่างนี้ก็ต้องเป็น ทั้งนี้ที่ผ่านมาอนุกรรมการไต่สวนฯ ได้ดำเนินการไต่สวนคดีนี้มาตลอด มั่นใจว่าจะเสร็จทันก่อนที่ คตส.จะหมดอายุเดือน มิ.ย.

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการคาดหวังว่าคดีดังกล่าวจะสั่นคลอนเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ของนายสมัคร ได้ นายนาม กล่าวว่า แล้วแต่ข้อเท็จจริง และข้อกฎหมาย ซึ่งหากการทำงานของ คตส.มีปัญหา ก็คงต้องหารือกันเอง เพราะเราเป็น คตส.ขิงแก่ แต่ถ้าจำเป็นต้องประสานงานไปยังรัฐบาล ก็ต้องประสานไป ส่วนจะได้ผลหรือไม่ ก็แล้วแต่ อย่างไรก็ตามขณะนี้ตนมีคดีความที่ถูกนายสมัคร ฟ้องร้องเรื่องคดีรถดับเพลิงเรื่องอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล ซึงศาลมีอำนาจอธิปไตยส่วนหนึ่งอยู่แล้ว ไม่มีใครสามารถสั่งศาลได้
กำลังโหลดความคิดเห็น