สมเด็จพระราชาธิบดีจอร์จ ทูโพ ที่ 5 แห่งราชอาณาจักรตองกา ถวายสักการะและวางพวงมาลาพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ด้านสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยตั้งคณะกรรมการคัดเลือกศิลปิน 100 คนเพื่อถ่ายทอดพระกรณียกิจ คาดไม่เกิน 1 เดือนเสร็จ ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติเผยจัดพิมพ์หนังสือ “กัลยาณิวัฒนาคารวาลัย องค์อุปถัมภ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย” จำนวน 8 หมื่นเล่มเสร็จเรียบร้อยแล้ว เตรียมแจกจ่ายประชาชน สถาบันการศึกษาและสำนักงานวัฒนธรรมทั่วประเทศ
วานนี้ (27 ม.ค.2551) เวลา 06.30 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในการพระพิธีธรรมรับพระราชทานฉันเช้า โดยมีพระสงฆ์จากวัดมหาธาตุฯ และวัดสุทัศน์เทพวราราม ร่วมในพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
จากนั้นเวลา 07.50 น. สำนักพระราชวัง ได้เปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระศพ ซึ่งมีประชาชนหลั่งไหลเข้าถวายสักการะอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เดินทางมาเป็นหมู่คณะจากต่างจังหวัด อาทิ จ.พิจิตร, อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบฯ, จ. กาญจนบุรี, จ.อ่างทอง, ชมรมผู้สูงอายุ รพ.บางบ่อ, ท่านผู้หญิงยศวดี อัมพรไพศาล รวมทั้งพระสงฆ์จากวัดดาวดึงส์ (ธนบุรี) จำนวน 30 รูป ซึ่งมีนักเรียนจากโรงเรียนวีรสุนทร เขตหนองแขม มาแจกพิมเสนให้กับประชาชน
เวลา 15.45 น. สมเด็จพระราชาธิบดีจอร์จ ทูโพ ที่ 5 แห่งราชอาณาจักรตองกา เสด็จมายังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เพื่อถวายสักการะและวางพวงมาลาพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ในโอกาสเสด็จเยือนประเทศไทยเป็นการส่วนพระองค์ ระหว่างวันที่ 24-28 ม.ค. 51 โดยมี ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม นายสินธู ศรสงคราม และ ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ เฝ้ารับเสด็จ
**สศร.ตั้งกก.คัดเลือกศิลปิน
นายอภินันท์ โปษยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย(สศร.) กล่าวถึงการจัดทำหนังสือที่ระลึกในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ว่า ตามที่ สศร.ได้รับมอบหมายจากคุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดทำจดหมายเหตุและหนังสือที่ระลึก ในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ให้จัดทำหนังสือที่ระลึก 1 ใน 9 เล่ม โดยให้รวบรวมภาพที่ศิลปินทำขึ้นใหม่ เพื่อถ่ายทอดพระกรณียกิจ และแสดงความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ นั้น เนื่องจากที่ผ่านมา สศร.ได้จัดนิทรรศการจิตรกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในชื่อ“พระผู้ทรงงานอันยิ่งใหญ่” โดยได้คัดเลือกศิลปินตัวแทนจาก 75 จังหวัดมาผลิตชิ้นงานเกี่ยวกับในหลวง ซึ่งงานดังกล่าวได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ก็ได้เสด็จฯ ทอดพระเนตรนิทรรศการครั้งนั้นด้วย
คุณหญิงไขศรีจึงเห็นว่าศิลปินมีความพร้อมที่จะเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ อยู่แล้ว จึงน่าจะจัดนิทรรศการลักษณะนี้และรวบรวมเป็นหนังสือที่ระลึกในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ โดยให้ สศร.ดำเนินการคัดสรร ประสานศิลปินที่จะมาร่วมถ่ายทอดผลงาน และจัดหาที่แสดงผลงานให้สมพระเกียรติ
ทั้งนี้ ในเบื้องต้น สศร.จะแต่งตั้งคณะกรรมการ 4-5 คน เพื่อทำหน้าที่สรรหาศิลปินที่จะมาสร้างสรรค์ผลงาน โดยจะเชิญผู้ทรงคุณวุฒิด้านศิลปะและศิลปินแห่งชาติที่เข้าใจการทำงานลักษณะนี้มาทำหน้าที่ดังกล่าว ซึ่งต้องร่วมกันสำรวจและคัดเลือกศิลปินที่เขียนงานได้ตามจุดมุ่งหมาย ซึ่งคาดว่าจะคัดเลือกศิลปินประมาณ 70-100 คน นอกจากนี้ สศร.จะประสานไปยังสำนักพระราชวังเพื่อขอผู้เชี่ยวชาญเรื่องของพระราชพิธี ตราสัญลักษณ์ ตลอดจนรายละเอียดต่างๆ มาช่วยดูเรื่องความถูกต้องและเหมาะสมของงานเขียนด้วย ซึ่งในการจัดนิทรรศการ “พระผู้ทรงงานอันยิ่งใหญ่” ก็ทำเช่นนี้เช่นกัน
“สำหรับศิลปินที่จะมาร่วมสร้างสรรค์ผลงานนั้นจะคัดจากทั้งศิลปินแห่งชาติ ศิลปินยอดเยี่ยม และศิลปินหนุ่มสาวรุ่นใหม่ เพื่อเปิดให้ศิลปินทุกกลุ่มได้ร่วมกันแสดงความจงรักภักดีและแสดงความอาลัยถวายแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ คาดว่าจะใช้เวลาในการคัดเลือกศิลปินประมาณ 1 เดือน จากนั้นจะให้เวลาศิลปินในการผลิตผลงานประมาณ 3 เดือน ซึ่งศิลปินสามารถเขียนได้ทั้งภาพเขียนสีน้ำมัน สีอะคริลิก สีน้ำ หรือภาพลายเส้นดินสอในรูปแบบ 2 มิติ ขนาดตามความเหมาะสม ทั้งนี้ อาจจะขอให้ศิลปินทำงานใหม่ขึ้นมา หรือกรณีที่มีชิ้นงานอยู่แล้วก็อาจจะนำมาร่วมแสดงได้เลย เชื่อว่าศิลปินทุกคนต่างพร้อมให้ความร่วมมือ และตั้งใจทำงานสุดฝีมือ เชื่อว่าจะทำให้การทำงานขับเคลื่อนไปได้อย่างรวดเร็ว”
ผอ.สศร.กล่าวอีกว่า สำหรับงบประมาณ ส่วนหนึ่งจะใช้งบฯ จากฝ่ายจัดทำจดหมายเหตุและหนังสือที่ระลึก โดยส่วนหนึ่งจะเป็นงบฯ ของ สศร.เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายเรื่องวัสดุ อุปกรณ์ให้กับศิลปินทุกคนที่ร่วมงาน ส่วนนิทรรศการที่จะจัดแสดงภาพเขียนเหล่านี้นั้น ต้องการให้มีขึ้นหลังจากการก่อสร้างพระเมรุเสร็จแล้ว แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาสถานที่ที่จะจัดแสดงภาพ ซึ่งต้องเหมาะสม และสมพระเกียรติด้วย
**แจกหนังสือ"กัลยาณิวัฒนาคารวาลัยฯ"
นายปรีชา กันธิยะ เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) ได้จัดพิมพ์หนังสือ “กัลยาณิวัฒนาคารวาลัย องค์อุปถัมภ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย” จำนวน 8 หมื่นเล่มเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดย สวช.จะนำไปมอบไว้ที่ สำนักพระราชวัง กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย จำนวน 4 หมื่นเล่ม เพื่อแจกจ่ายให้แก่ประชาชน หรือบุคคลสำคัญที่มาถวายสักการะพระศพ และอีก 4 หมื่นเล่ม จะนำไปมอบให้ตามสถาบันการศึกษา สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทั่วประเทศ ในหนังสือจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับพระประวัติ ชีวิตครอบครัว การทรงงาน ความสนพระทัยด้านกีฬา การถ่ายภาพ การอ่านและการเขียน ด้านศิลปวัฒนธรรม ดนตรี ตลอดจนพระกรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย อาทิ การพัฒนาวงออเคสตรา วงดุริยางค์เยาวชนไทย ในพระอุปถัมภ์ กองทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิกในพระอุปถัมภ์ การอนุรักษ์สืบสานหุ่นละครเล็กโจหลุยส์ เป็นต้น ประกอบภาพสี่สีสวยงามทั้ง 149 หน้า
“สวช.ขอยกย่องพระองค์ท่านในฐานะที่เป็นองค์อุปถัมภ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย เนื่องจากพระองค์สนพระทัยในศิลปวัฒนธรรมของชาติเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการเสด็จไปทอดพระเนตรแหล่งโบราณสถาน พระองค์จะทรงแนะนำวิธีการถ่ายทอดความรู้ในเรื่องประวัติความเป็นมาให้แก่ข้าราชการโดยเสมอ ในขณะเดียวกัน พระองค์ยังพระราชทานทุนการศึกษาแก่นักเรียนดนตรี นักดนตรี อาจารย์มหาวิทยาลัย ได้มีโอกาสเรียนดนตรีในสถาบันดนตรีที่มีชื่อเสียง รวมทั้งทรงจัดตั้งทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิก ตลอดจนทรงสนับสนุนวงดริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ วงซิมโฟนีออเคสตราแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และทรงรับวงดุริยางค์เยาวชนไทยไว้ในพระอุปถัมภ์ด้วย ขณะนี้มีนักเรียนดนตรีที่อยู่ในพระอุปถัมภ์แล้ว 20 คน” เลขาธิการ กวช.กล่าว
**สธ.จัดหน่วยแพทย์ดูแลปชช.เสาร์-อาทิตย์
พญ.ศิริพร กัญชนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ประกอบด้วยแพทย์ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล และพนักงานขับรถพยาบาล ร่วมให้บริการประชาชนที่เดินทางเข้าสักการะพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เสริมกับกองแพทย์หลวง สำนักพระราชวัง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง เพื่อน้อมเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สำนักพระราชวังจัดการพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ถวายพระเกียรติยศสูงสุดตามราชประเพณี ซึ่งมีพิธีสวดพระอภิธรรมตลอด 100 วัน
วันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลาตั้งแต่ 08.30 น.ถึงเวลา 17.00 น. เริ่มตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 7 เม.ย.โดยเป็นหน่วยแพทย์จากโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ซึ่งอยู่ในกทม. ปริมณฑล โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี โรงพยาบาลสมุทรสาคร โรงพยาบาลปทุมธานี โรงพยาบาลสมุทรปราการ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และโรงพยาบาลนครปฐม
วานนี้ (27 ม.ค.2551) เวลา 06.30 น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ในการพระพิธีธรรมรับพระราชทานฉันเช้า โดยมีพระสงฆ์จากวัดมหาธาตุฯ และวัดสุทัศน์เทพวราราม ร่วมในพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
จากนั้นเวลา 07.50 น. สำนักพระราชวัง ได้เปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระศพ ซึ่งมีประชาชนหลั่งไหลเข้าถวายสักการะอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เดินทางมาเป็นหมู่คณะจากต่างจังหวัด อาทิ จ.พิจิตร, อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบฯ, จ. กาญจนบุรี, จ.อ่างทอง, ชมรมผู้สูงอายุ รพ.บางบ่อ, ท่านผู้หญิงยศวดี อัมพรไพศาล รวมทั้งพระสงฆ์จากวัดดาวดึงส์ (ธนบุรี) จำนวน 30 รูป ซึ่งมีนักเรียนจากโรงเรียนวีรสุนทร เขตหนองแขม มาแจกพิมเสนให้กับประชาชน
เวลา 15.45 น. สมเด็จพระราชาธิบดีจอร์จ ทูโพ ที่ 5 แห่งราชอาณาจักรตองกา เสด็จมายังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เพื่อถวายสักการะและวางพวงมาลาพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ในโอกาสเสด็จเยือนประเทศไทยเป็นการส่วนพระองค์ ระหว่างวันที่ 24-28 ม.ค. 51 โดยมี ท่านผู้หญิงทัศนาวลัย ศรสงคราม นายสินธู ศรสงคราม และ ท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ เฝ้ารับเสด็จ
**สศร.ตั้งกก.คัดเลือกศิลปิน
นายอภินันท์ โปษยานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย(สศร.) กล่าวถึงการจัดทำหนังสือที่ระลึกในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ว่า ตามที่ สศร.ได้รับมอบหมายจากคุณหญิงไขศรี ศรีอรุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดทำจดหมายเหตุและหนังสือที่ระลึก ในคณะกรรมการอำนวยการจัดงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ให้จัดทำหนังสือที่ระลึก 1 ใน 9 เล่ม โดยให้รวบรวมภาพที่ศิลปินทำขึ้นใหม่ เพื่อถ่ายทอดพระกรณียกิจ และแสดงความจงรักภักดีต่อสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ นั้น เนื่องจากที่ผ่านมา สศร.ได้จัดนิทรรศการจิตรกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในชื่อ“พระผู้ทรงงานอันยิ่งใหญ่” โดยได้คัดเลือกศิลปินตัวแทนจาก 75 จังหวัดมาผลิตชิ้นงานเกี่ยวกับในหลวง ซึ่งงานดังกล่าวได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ก็ได้เสด็จฯ ทอดพระเนตรนิทรรศการครั้งนั้นด้วย
คุณหญิงไขศรีจึงเห็นว่าศิลปินมีความพร้อมที่จะเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ อยู่แล้ว จึงน่าจะจัดนิทรรศการลักษณะนี้และรวบรวมเป็นหนังสือที่ระลึกในพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ โดยให้ สศร.ดำเนินการคัดสรร ประสานศิลปินที่จะมาร่วมถ่ายทอดผลงาน และจัดหาที่แสดงผลงานให้สมพระเกียรติ
ทั้งนี้ ในเบื้องต้น สศร.จะแต่งตั้งคณะกรรมการ 4-5 คน เพื่อทำหน้าที่สรรหาศิลปินที่จะมาสร้างสรรค์ผลงาน โดยจะเชิญผู้ทรงคุณวุฒิด้านศิลปะและศิลปินแห่งชาติที่เข้าใจการทำงานลักษณะนี้มาทำหน้าที่ดังกล่าว ซึ่งต้องร่วมกันสำรวจและคัดเลือกศิลปินที่เขียนงานได้ตามจุดมุ่งหมาย ซึ่งคาดว่าจะคัดเลือกศิลปินประมาณ 70-100 คน นอกจากนี้ สศร.จะประสานไปยังสำนักพระราชวังเพื่อขอผู้เชี่ยวชาญเรื่องของพระราชพิธี ตราสัญลักษณ์ ตลอดจนรายละเอียดต่างๆ มาช่วยดูเรื่องความถูกต้องและเหมาะสมของงานเขียนด้วย ซึ่งในการจัดนิทรรศการ “พระผู้ทรงงานอันยิ่งใหญ่” ก็ทำเช่นนี้เช่นกัน
“สำหรับศิลปินที่จะมาร่วมสร้างสรรค์ผลงานนั้นจะคัดจากทั้งศิลปินแห่งชาติ ศิลปินยอดเยี่ยม และศิลปินหนุ่มสาวรุ่นใหม่ เพื่อเปิดให้ศิลปินทุกกลุ่มได้ร่วมกันแสดงความจงรักภักดีและแสดงความอาลัยถวายแด่สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ คาดว่าจะใช้เวลาในการคัดเลือกศิลปินประมาณ 1 เดือน จากนั้นจะให้เวลาศิลปินในการผลิตผลงานประมาณ 3 เดือน ซึ่งศิลปินสามารถเขียนได้ทั้งภาพเขียนสีน้ำมัน สีอะคริลิก สีน้ำ หรือภาพลายเส้นดินสอในรูปแบบ 2 มิติ ขนาดตามความเหมาะสม ทั้งนี้ อาจจะขอให้ศิลปินทำงานใหม่ขึ้นมา หรือกรณีที่มีชิ้นงานอยู่แล้วก็อาจจะนำมาร่วมแสดงได้เลย เชื่อว่าศิลปินทุกคนต่างพร้อมให้ความร่วมมือ และตั้งใจทำงานสุดฝีมือ เชื่อว่าจะทำให้การทำงานขับเคลื่อนไปได้อย่างรวดเร็ว”
ผอ.สศร.กล่าวอีกว่า สำหรับงบประมาณ ส่วนหนึ่งจะใช้งบฯ จากฝ่ายจัดทำจดหมายเหตุและหนังสือที่ระลึก โดยส่วนหนึ่งจะเป็นงบฯ ของ สศร.เพื่อสนับสนุนค่าใช้จ่ายเรื่องวัสดุ อุปกรณ์ให้กับศิลปินทุกคนที่ร่วมงาน ส่วนนิทรรศการที่จะจัดแสดงภาพเขียนเหล่านี้นั้น ต้องการให้มีขึ้นหลังจากการก่อสร้างพระเมรุเสร็จแล้ว แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาสถานที่ที่จะจัดแสดงภาพ ซึ่งต้องเหมาะสม และสมพระเกียรติด้วย
**แจกหนังสือ"กัลยาณิวัฒนาคารวาลัยฯ"
นายปรีชา กันธิยะ เลขาธิการคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (กวช.) กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) ได้จัดพิมพ์หนังสือ “กัลยาณิวัฒนาคารวาลัย องค์อุปถัมภ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย” จำนวน 8 หมื่นเล่มเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดย สวช.จะนำไปมอบไว้ที่ สำนักพระราชวัง กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย จำนวน 4 หมื่นเล่ม เพื่อแจกจ่ายให้แก่ประชาชน หรือบุคคลสำคัญที่มาถวายสักการะพระศพ และอีก 4 หมื่นเล่ม จะนำไปมอบให้ตามสถาบันการศึกษา สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดทั่วประเทศ ในหนังสือจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับพระประวัติ ชีวิตครอบครัว การทรงงาน ความสนพระทัยด้านกีฬา การถ่ายภาพ การอ่านและการเขียน ด้านศิลปวัฒนธรรม ดนตรี ตลอดจนพระกรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทย อาทิ การพัฒนาวงออเคสตรา วงดุริยางค์เยาวชนไทย ในพระอุปถัมภ์ กองทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิกในพระอุปถัมภ์ การอนุรักษ์สืบสานหุ่นละครเล็กโจหลุยส์ เป็นต้น ประกอบภาพสี่สีสวยงามทั้ง 149 หน้า
“สวช.ขอยกย่องพระองค์ท่านในฐานะที่เป็นองค์อุปถัมภ์สืบสานศิลปวัฒนธรรมไทย เนื่องจากพระองค์สนพระทัยในศิลปวัฒนธรรมของชาติเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการเสด็จไปทอดพระเนตรแหล่งโบราณสถาน พระองค์จะทรงแนะนำวิธีการถ่ายทอดความรู้ในเรื่องประวัติความเป็นมาให้แก่ข้าราชการโดยเสมอ ในขณะเดียวกัน พระองค์ยังพระราชทานทุนการศึกษาแก่นักเรียนดนตรี นักดนตรี อาจารย์มหาวิทยาลัย ได้มีโอกาสเรียนดนตรีในสถาบันดนตรีที่มีชื่อเสียง รวมทั้งทรงจัดตั้งทุนส่งเสริมดนตรีคลาสสิก ตลอดจนทรงสนับสนุนวงดริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ วงซิมโฟนีออเคสตราแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และทรงรับวงดุริยางค์เยาวชนไทยไว้ในพระอุปถัมภ์ด้วย ขณะนี้มีนักเรียนดนตรีที่อยู่ในพระอุปถัมภ์แล้ว 20 คน” เลขาธิการ กวช.กล่าว
**สธ.จัดหน่วยแพทย์ดูแลปชช.เสาร์-อาทิตย์
พญ.ศิริพร กัญชนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ ประกอบด้วยแพทย์ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล และพนักงานขับรถพยาบาล ร่วมให้บริการประชาชนที่เดินทางเข้าสักการะพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ เสริมกับกองแพทย์หลวง สำนักพระราชวัง ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง เพื่อน้อมเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้สำนักพระราชวังจัดการพระศพ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ถวายพระเกียรติยศสูงสุดตามราชประเพณี ซึ่งมีพิธีสวดพระอภิธรรมตลอด 100 วัน
วันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลาตั้งแต่ 08.30 น.ถึงเวลา 17.00 น. เริ่มตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค.เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 7 เม.ย.โดยเป็นหน่วยแพทย์จากโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ซึ่งอยู่ในกทม. ปริมณฑล โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี โรงพยาบาลสมุทรสาคร โรงพยาบาลปทุมธานี โรงพยาบาลสมุทรปราการ โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา และโรงพยาบาลนครปฐม