xs
xsm
sm
md
lg

พปช.มั่นใจยกฟ้องนอมินี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน - พปช.มั่นใจศาลยกฟ้องคดีนอมินี และให้การเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นโมฆะ อ้างเหตุไม่ไตร่สวน แต่ดิ้นสู้ยื่นคำแถลงชี้แจง 2 ข้อ "ศาลไม่มีอำนาจวินิจฉัย-ไชยวัฒน์ ไม่มีสิทธิฟ้อง" ขณะที่อดีตผู้สมัคร ส.ส.เตรียมยื่น ศาล รธน.ยุบ พปช.ฐานเป็นนอมินี "ทักษิณ" ด้าน กกต.หวั่น ชท.ฮั้ว พปช.ถอนคำร้อง "ยุทธ ตู้เย็น" เตรียมใช้อำนาจสอบต่อ ส่วนการประกาศรับรองผล กกต.นัดหารือวันนี้หลังความเห็นแตก กรณีรับรองครบ 95 % แล้วที่เหลือสอบไม่ครบต้องประกาศทั้งหมดหรือไม่ มีมติเลือกตั้งใหม่ "ปราจีนฯ-ชัยนาท" 27 ม.ค. ความผิด "สุนทร" โยงยุบมัชฌิมาฯ ให้นายทะเบียนพรรคไปตรวจสอบก่อนส่งให้ กกต.ชี้ขาด ผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ ประชาราช โวย ฝ่ายสืบสวนฯ กกต.มีเกลือเป็นหนอนแขวน "ทรงศักดิ์" ปล่อย 2 ว่าที่ ส.ส.ทั้งที่ถูกร้องเหมือนกัน

นายยืนหยัด ใจสมุทร คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคพลังประชาชน เปิดเผยว่า วานนี้ (16 ม.ค.) คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคพลังประชาชน ได้ยื่นคำแถลงการณ์เป็นหนังสือต่อศาลฎีกา กรณีที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ อดีตผู้สมัคร ส.ส.บุรีรัมย์ พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัยเพื่อมีคำสั่งให้พรรคพลังประชาชนซึ่งเป็นนอมินีพรรคไทยรักไทยไม่มีสิทธิส่งผู้สมัครส.ส.ในนามพรรคพลังประชาชน และให้เป็นโมฆะรวมทั้งให้ศาลมีคำพิพากษาว่า การเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 15 -16 ธ.ค. 2550 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และให้เพิกถอนการเลือกตั้งล่วงหน้า และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งศาลฎีกาจะตัดสินในวันที่ 18 ม.ค.นี้ โดยคำแถลงการณ์ ดังกล่าวจะชี้แจงในทุกข้อกล่าวหา ซึ่งทีมกฎหมายของพรรคมีความเชื่อมั่นว่า ศาลฎีกาจะยกคำร้องในคดีดังกล่าว

“ศาลจะยกฟ้องแน่นอน เพราะหากศาลจะวินิจฉัยเป็นโมฆะ ศาลจะต้องฟังพยานหลักฐานอย่างครบถ้วนทั้ง 2 ฝ่าย แต่คดีนี้ศาลงดไตร่สวน แสดงว่าศาล ไม่ได้ให้ความสำคัญกับกรณีนี้แล้ว พรรคจึงจะยื่นคำแถลงการณ์เป็นหนังสือชี้แจงไปยังศาล 2 ประเด็น คือ 1.ศาลฎีกา ไม่มีอำนาจพิจารณาวินิจฉัยคดีนี้ และ 2.นายไชยวัฒน์ ไม่มีอำนาจจะยื่นคำร้องในคดีนี้”

นายยืนหยัด กล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายมีการพูดคุยนอกรอบถึงกรณีการเปิดประชุมสภาภายใน 30 วันหลังการเลือกตั้ง โดยมองว่า องค์กรต่างๆ ที่มีส่วนรับผิดชอบ ในการรับรองผลการเลือกตั้ง จะทำหน้าที่ของตัวเองได้เสร็จสิ้นตามกรอบระยะเวลาที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ เพื่อให้ประเทศสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ฉะนั้นเชื่อว่า กกต.จะรับรองส.ส.ให้ครบร้อยละ 95 หรือ 456 คนได้ทันวันเปิดสภาอย่างแน่นอน

นายคมสัน โพธิคง อดีตคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ต้องดูว่านายไชยวัฒน์ ฟ้องในประเด็นใด ถ้าฟ้องเพื่อให้ยุบพรรคพลังประชาชนเพราะเป็นนอมินีพรรคไทยรักไทยก็ถือว่าฟ้องผิดศาลเพราะศาลฎีกาไม่มีอำนาจวินิจฉัยคดี ถ้าจะต้องในประเด็นยุบพรรคต้องไปฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าฟ้องในประเด็นว่า กกต.ไม่รับคำร้องสามารถฟ้องได้

ส่วนประเด็นให้การเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นโมฆะนั้น ต้องดูว่าศาลฎีกาจะวินิจฉัยอย่างไร คงต้องดูในวันที่ 18 ม.ค.

แหล่งข่าวในวงการกฎหมายมหาชน กล่าวว่า การที่คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคพลังประชาชนออกมาแสดงความมั่นใจว่าศาลฎีกาจะยกฟ้องคดีที่นายไชยวัฒน์ ฟ้องพรรคพลังประชาชนเป็นนอมินี และให้การเลือกตั้งล่วงหน้าเป็นโมฆะ เพราะไม่มีไตร่สวนอาจเป็นความเข้าใจผิดเพราะขบวนการพิจารณา ของศาลฎีกาอาจใช้วิธีไตร่สวนแบบเร่งรัด โดยดูจากข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายประกอบเห็นว่าเพียงพอที่จะวินิจฉัยจึงไม่จำเป็นต้องไตร่สวนก็ได้ส่วนผลจะออกมาอย่างไรต้องอยู่ที่ศาลฎีกาจะวินิจฉัย

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวกล่าวว่า นายไชยวัฒน์ ได้ฟ้องในหลายประเด็น บางประเด็นศาลฎีกาอาจพิพากษาออกมาจะไม่เป็นลักษณะขาว หรือดำ แต่จะวินิจฉัยออกมาคล้ายกับการวินิจฉัยของศาลปกครองในคดี ปตท.

มีรายงานแจ้งว่าขณะนี้อดีตผู้สมัคร ส.ส.กลุ่มหนึ่งเตรียมยื่นฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ ให้ยุบพรรคพลังประชาชนกรณีเป็นนอมินีพรรคพลังประชาชน ในกรณีที่ศาลฎีกาตัดสินให้ยกฟ้องคดีของนายไชยวัฒน์

กกต.หวั่นฮั้วขอดูเองถอนหรือไม่ให้ถอน

นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึง กรณีที่นายวิจิตร ยอดสุวรรณ อดีตผู้สมัครส.ส.เขต 1 เชียงราย พรรคชาติไทย ได้ถอนคำร้องคัดค้านนายยงยุทธ ติยะไพรัช รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชนว่า ขณะนี้ตนทราบว่ามีหนังสือเข้ามาแล้วแต่ยังไม่เห็นห ซึ่ง กกต.ต้องประชุมพิจารณาถึง เหตุผลในการขอถอนคำฟ้อง แต่กฎหมายก็ให้อำนาจ กกต. อย่างกว้างขวาง ดังนั้น กกต.จะต้องใช้ดุลยพินิจพิจารณาในรายละเอียดการถอยคำฟ้อง

ส่วนหากยอมให้มีการถอนคำฟ้องต่อไปเกรงหรือไม่จะมีการฮั้วกันหรือไม่นั้น นายอภิชาต กล่าวว่า "ก็นั่นนะซิถึงได้บอกว่าเป็นอำนาจที่กว้างขวางที่กกต. ที่จะพิจารณาให้ถอน หรือไม่ให้ถอน"

นายอภิชาต ยังกล่าวถึงกรณีที่นายยงยุทธขอนำช่างเทคนิคเข้ามาดูวีซีดี ว่า ที่คุยกันในที่ประชุมเรื่องวีซีดี นายยงยุทธบอกว่าไม่เคยเห็นวีซีดีทั้ง 8 แผ่นเลย ที่ประชุมจึงอนุญาต ให้ดู ซึ่งนายยงยุทธก็ขอนำผู้เชียวชาญเกี่ยวกับการตัดต่อมาดู เราให้มาดูได้ แต่ไม่อนุญาตให้นำออกไป และในการดูก็ต้องมีกรรมการร่วมอยู่ด้วย ผู้สื่อข่าวถามว่า นายยงยุทธนำช่างเทคนิคมาดูแล้วระบุว่า มีการตัดต่อภาพ นั้น นายอภิชาต กล่าว่า ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ทั้งนี้ กกต.ได้มอบอำนาจให้คณะอนุกรรมการไปพิจารณา ซึ่งทราบมาว่าทั้งคณะอนุกรรมการและนายยงยุทธ ก็พึ่งได้ดู วีซีดีเป็นครั้งแรกพร้อมกัน ซึ่งมีอยู่ 8 แผ่น ส่วนหลังจากดูแล้ว จะอ้างเหตุผลอะไร เป็นความเห็นส่วนตัว

"ยืนยันว่า กกต.ไม่ได้เป็นคนตัดต่อ และกกต.ก็ไม่ได้ทำวีซีดีนี้ เพราะมาจากสันติบาล กกต.มีหน้าที่ในการพิจารณาในเนื้อหา ไม่ใช่หน้าที่ของ กกต.จะต้องไปดู ในเรื่องของเทคนิคว่ามีการตัดต่อหรือไม่"

วันนี้รู้การประกาศรับรองผลครบหรือไม่

นายอภิชาต ยังกล่าวถึงการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งว่า ในวันนี้ ( 17 ม.ค.) จะมีการประชุมในเรื่องนี้เพื่อให้ออกมาเป็นมติที่ชัดเจนเพราะก่อนหน้านี้ มีกกต. แสดงความเห็นไปคนละด้าน นั่นก็เป็นการแสดงความคิดเห็น ส่วนตัวจะไม่ขอออกความคิดเห็นต้องขอเข้าประชุมเท่านั้น

ส่วนการรับรองผลที่นายประพันธ์ นัยโกวิท กกต.ที่รับผิดชอบเรื่องดังกล่าวระบุว่าจะสามารถประกาศผลได้ทันในการลือกตั้งใหม่วันที่ 20 ม.ค. เพราะได้สั่งการให้ ผอ.กต.จังหวัดส่งรายงานผลภายในเช้าเวลา 09.00 น.ของวันที่ 21 ม.ค. ซึ่งถ้าเปิดประชุมสภาในช่วงบ่ายก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะช่วงเช้าจะสามารถเปิดประชุมได้ทัน ทั้งนี้ในการเปิดสภาทราบมาว่าจะต้องมีกฤษ์ยามเข้ามาเกี่ยวข้อง

ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก กกต.ประกาศรับรองผลส.ส.ได้ตามจำนวนที่สามารถ เปิดประชุมสภาได้แล้วในส่วนที่ยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ กกต.จะประกาศรับรองภายใน 30 วันนับแต่วันเลือกตั้งทันหรือไม่ นายอภิชาต กล่าวว่า กฎหมายปัจจุบันมันแปลกกว่าอดีต เพราะอย่างมาตรา 8 ของ พ.ร.บ.เลือกตั้งก็เขียนไว้ให้ กกต.วินิจฉัยให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน แต่รัฐธรรมนูญมาตรา 93 ก็มีเขียนเรื่อง 95 % ไว้ เราก็มองว่าถ้าได้ส.ส. 95 % แล้วที่เหลืองก็ไม่น่าจะมีปัญหา

"สุเมธ"เชื่อสอบต่อได้แม้ถอนคำร้อง

ด้าน นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวการถอนคำร้องคัดค้านการทุจริต การเลือกตั้งของนายยงยุทธว่า ขณะนี้กกต.ได้มอบอำนาจให้คณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนฯ ที่มีนาย สุวิทย์ ธีรพงษ์ เป็นประธาน เป็นผู้สอบปากคำ นายวิจิตร ยอดสุวรรณผู้ถอนคำร้องว่า มีเหตุอะไร จากนั้นนายสุวิทย์ก็จะส่งสำนวน พร้อมถ้อยคำการสอบปากคำมาให้ กกต.พิจารณาว่าจะให้ถอนคำร้องหรือไม่

"แม้มีการถอนคำร้องคัดค้าน แต่ พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว. มาตรา มาตรา 103 ก็ให้อำนาจ กกต.สอบสวนต่อได้ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่า กกต. ได้มอบอำนาจให้อนุกรรมการฯ สอบสวนพยานแทนแล้ว โดยกกต.ไม่ต้องสอบปากคำ ผู้ถอนคำร้องด้วยตัวเอง ทั้งนี้ไม่แน่ใจว่า อนุกรรมการฯ จะเสนอความเห็นเข้ามาเมื่อใด แต่บอกให้เขาทำให้เร็วที่สุด และขณะนี้ก็ทราบว่าคณะอนุกรรมการฯ ได้เดินทางไป สอบสวนเพิ่มเติมที่จังหวัดเชียงรายแล้ว"

ส่วนกรณีนายยงยุทธ ระบุหลังดูวีซีดีว่าเป็นการสร้างหลักฐานเท็จ ตนไม่ทราบ หากนายยงยุทธ กล่าวหาเช่นนี้ก็ต้องให้ปากคำกับคณะอนุกรรมการสอบสวนที่ตั้งขึ้นมาใหม่ และคณะอนุกรรมการก็ต้องนำมาประกอบการพิจารณาชั่งน้ำหนัก ซึ่งความเห็นที่คณะอนุกรรมการต้องเสนอคือจะให้ถอนสำนวนนี้หรือไม่และจะต้องส่งมาพร้อมกับสำนวนสอบสวนทั้งหมด

นายสุเมธ ยังกล่าวว่าไม่ทราบว่าคณะอนุกรรมการจะส่งสำนวนเรื่อง นายยงยุทธมาให กกต.พิจารณาทันก่อนที่กกต.จะประกาศรับรองส.ส.ให้ได้ 456 คนหรือไม่ แต่กกต.ก็ได้ขอให้อนุฯเร่งทำงานเร็วที่สุด

นายสุเมธ ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นพ้องในการให้ใบแดง นายสุนทร วิลาวัลย์ อดีต ส.ส.จังหวัดปราจีนบุรี รองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตย (มฌ.)ว่า คงต้องสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ส่วนกรณีที่นายสุนทร เป็นกรรมการบริหารพรรค แล้วกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งนั้น กกต.ยังไม่ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา สอบสวนฯ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการให้เจ้าหน้าที่เสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม กกต. หากตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนแล้ว มีผลอย่างไรก็จะเสนอให้ กกต. พิจารณา คาดว่า กกต.จะไปใช้เวลาพิจารณาไม่นาน เพราะแต่ละเรื่องอย่างมากก็มีเวลา พิจารณาเพียง 2-3 ชั่วโมงก็เสร็จแล้ว โดยหากมีความชัดเจน กกต.ก็จะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณา

กกต.ถอนคำร้อง"ยงยุทธ"ไม่ถูกฟ้อง

ด้าน นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า หากคณะอนุกรรมการ สอบสวนฯ ที่มีนายสุวิทย์ ส่งความเห็นเรื่องการถอนคำร้องของนายวิจิตรมายัง กกต.แล้ว กกต. ก็จะเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณา โดยอนุคณะกรรมการฯ ไม่มีหน้าที่ตัดสินว่าจะให้ถอนคำร้องหรือไม่

ส่วนที่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า หาก กกต. ยอมให้ถอนคำร้อง กกต. อาจถูกฟ้องร้องได้นั้น นายสุทธิพล กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นดุลยพินิจของ กกต. ถ้า กกต. พิจารณาอย่างรอบคอบตามกรอบอำนาจของกฎหมายแล้ว การใช้อำนาจของ กกต. เป็นไปอย่างสุจริตก็จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ทั้งนี้การพิจารณาให้ถอนคำ ร้องหรือไม่นั้นก็ต้องดูหลายกรณี โดยเฉพาะในแง่การทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือ กฎหมายอื่นใด ซึ่ง กกต. มีอำนาจในการดำเนินการ แม้จะไม่มีผู้ร้องคัดค้านแต่ถ้า ความจริงปรากฎ กกต. ก็ต้องสอบสวน ยืนยันว่าจะพิจารณาปัจจัยต่างๆ ให้รอบคอบ

ส่วนที่นายยงยุทธ เตรียมฟ้องร้องตำรวจสันติบาล หลังดูวีซีดี เห็นว่า ควรให้ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคนิคที่มีความเป็นกลางมาตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อเปรียบ เทียบว่า มีการตัดต่อจริงตามที่นายยงยุทธ กล่าวอ้างหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจในการทำงานของอนุกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าว

โยนนายทะเบียนสอบยุบ มฌ.หรือไม่

นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต. ให้สัมภาษณ์อีกครั้งหลังการประชุม กกต.ว่า หลังจากคณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นชอบให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายสุนทร วิลาวัลย์ ว่าที่ ส.ส.ปราจีนบุรี รองหัวหน้าพรรคมัชฌิมาธิปไตยแล้ว กกต.จึงมีมติให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายสุนทร เป็นเวลา 1 ปี และเรียกค่าเสียหายที่ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ และมีมติให้เลือกตั้งใหม่ในวันที่ 27 ม.ค.นี้ ขณะเดียวกันที่ประชุม กกต.ยังเห็นชอบในหลักการที่จะให้มีการเลือกตั้งใหม่ใน จ.ชัยนาทวันที่ 27 ม.ค.เช่นกัน หากกฤษฎีกาที่ะประชุมในวันที่ 18 ม.ค.เห็นชอบให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตามที่ กกต.เสนอในกรณี นายมณเทียร และน.ส. นันทนา สงค์ประชา ว่าที่ส.ส.ชัยนาท พรรคชาติไทย

นายสุนธิพล กล่าวว่า สำหรับนายสุนทร ซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรคมัชฌิมาฯ ซึ่งอาจทำให้พรรคมีความผิดฐานรู้เห็นจนต้องเสนอยุบพรรคนั้น ที่ประชุมมีมติให้ นายทะเบียนพรรคไปดำเนินการพิจารณาโดยอาจจะมีการนำเข้าสู่กรรมการด้าน กิจกรรมพรรคการเมืองก่อนเพื่อดูว่าเห็นควรอย่างไรและจึงค่อยเสนอต่อที่ประชุมกกต.พิจารณา ดังนั้นขณะนี้จึงยังไม่สามารถบอกได้ว่ากรณีดังกล่าวจะมีการดำเนินการอย่างไรและจะเสนออัยการสูงสุดเพื่อเสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะต้องมีการตรวจสอบก่อนว่าพรรคมัฌชิมาธิปไตยได้มีการ ดำเนินการตามมาตรา 94 ของกฎหมายพรรคการเมือง จนเป็นเหตุต้องยุบพรรคหรือไม่

นอกจากนี้ที่ประชุมมีมติสั่งให้มีการสอบสวนเพิ่มเติมและแจ้งข้อกล่าวหา นายบรรฑูรย์ เกียรติก้องชูชัย ว่าที่ส.ส.เขต 2 จ.ชัยภูมิ พรรคชาติไทย เนื่องจาก มีการร้องคัดค้านว่ามีการให้เงินเพื่อจูงใจ และมีการยกคำร้องกรณีที่มีการร้องคัดค้านว่า ที่ส.ส.เขต2 จ.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชาชนที่ถูกกล่าวหาว่ามีการจัดเลี้ยง และให้ทรัพย์แต่เนื่องจากว่าที่ส.ส.คนดังกล่าวยังมีเรื่องร้องคัดค้านอยู่ ซึ่ง กกต. ต้องตรวจสอบก่อน จึงยังไม่มีการประกาศรับรอง

มั่นใจรับรอง ส.ส.ได้ครบ 456 คน

นายสุทธิพลยังกล่าวถึงการเลือกตั้งใหม่ในเขต 1 จ.บุรีรัมย์ในวันนี้ ( 17 ม.ค.) ว่า ได้รับการแจ้งจากรักษาการผอ.กต.จว.บุรีรัมย์ว่า ขณะนี้สถานการณ์ปกติ แต่เพื่อความไม่ประมาทได้ประสานกับตำรวจและ ฝ่ายปกครองให้ระมัดระวังในเรื่องของความปลอดภัย ซึ่งหากไม่มีการทุจริตเกิดขึ้น แม้จะมีบัตรเสียหรือบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนนจำนวนมากก็คงไม่มีปัญหา แต่ก็ได้กำชับให้มีการรณรงค์ ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งให้มาก และขณะนี้กกต.ก็ค่อนข้างมั่นใจว่า หลังการเลือกตั้งรอบใหม่วันที่ 17 ม.ค. กกต.น่าจะสามารถประกาศรับรองส.ส.ได้ครบ 456 คนเพื่อจะสามารถเปิดประชุมสภาฯนัดแรกได้ แต่หากมีปัญหาก็ต้องรอการ เลือกตั้งรอบใหม่ซึ่งครม.ได้กำหนดวันที่กกต.ต้องส่งรายชื่อให้ครม.เพื่อใช้ในการ เปิดประชุมสภาฯภายในวันที่ 21 ม.ค.

ประชาราชโวยฝ่ายสืบสวนเกลือเป็นหนอน

วันเดียวกัน นายประเสริฐ เลิศยโส ผู้สมัครรับเลือกตั้งเขต 2 สส.พรรคประชาราช จ.บุรีรัมย์ ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อกกต.คัดค้านการประกาศรับรองผล การเลือกตั้งโดยระบุว่าการที่ กกต.ไม่ประกาศรับรองนายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่ส.ส. ของพรรคพลังประชาชนของเขตเลือกตั้งนี้คนเดียวถือว่าไม่ถูกต้อง ต้องไม่ประกาศทั้ง นายมนต์ไชย ชาติวัฒนศิริ และนายรังสิกร ทิมาตฤกะ ส.ส.พรรคเดียวกัน เพราะตนได้ร้องคัดค้านบุคคลทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. 2550 ว่ามีการใช้เจ้าหน้าที่รัฐไปช่วยหาเสียง มีการซื้อเสียงแต่เมื่อยื่นเรื่องมาก็พบว่ามีเกลือเป็นหนอนในกกต. โดย พ.ต.อ.วรกร ทิมาตฤกะ ผอ.สำนักสืบสวนของ กกต. ซึ่งเป็นพี่ชายของนายรังสิกร มีการดึงสำนวนของตนที่ส่งมาจากทางจังหวัดออก ทำให้กกต.ไม่มีการพิจารณา ในเรื่องดังกล่าว จึงต้องการให้กกต.ดำเนินการสอบสวนเรื่องดังกล่าว

"สมชัย"เตรียมฟ้อง"วีระ"ทำเสียหาย

ด้าน นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย เปิดเผยว่า ได้ให้ฝ่ายสืบสวนสอบสวนฯไปดูแลรวบรวมเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับกรณีที่นายวีระ สมความคิด ประธานคณะกรรมการอำนวยการเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอรัปชั่น (คปต.) กล่าวหาว่า ตนทำสำนวนการทุจริตของ จ.เชียงราย รั่ว ไปถึงนาย ยงยุทธ โดยให้เจ้าหน้าที่ไปประสานขอเอกสารที่นายวีระไปยื่นต่อ ป.ป.ช.เพื่อนำมาพิจารณา ดำเนินการฟ้องร้องนายวีระ ที่ทำให้ตนเกิดความเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียง

นายสมชัย ยังได้นำเอกสารเรื่อง สิทธิ์ในสำนวนการสืบสวนสอบสวนและการเก็บรักษาสำนวนมาแจกจ่ายต่อสื่อมวลชน โดยเอกสารดังกล่าวสรุปว่า การที่ กกต.แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนเพื่อสรุปข้อเทํจจริงและเหตุผลในการทุจริต เลือกตั้ง เมื่อสืบสวนสอบสวนเสร็จแล้วจะจัดทำสำเนาและความเห็นให้ กกต.แต่ละคนเพื่อวินิจฉัยและลงมติในที่ประชุม ซึ่งสำนวนจะไม่มีการเรียกคืน

กรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบัญชาการตรวจสันติบาลได้รับแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการสืบสวนสอบสวน เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนการร้องคัดค้านการเลือกตั้งส.ส.แบบสัดส่วนกลุ่มที่ 1 กรณีนายยงยุทธ ติยะไพรัช ผู้สมัครส.ส.พรรคพลังประชาชน แล้วนำเสนอต่อ กกต.แต่ต่อมามีการให้สัมภาษณ์ทำนองว่า มี กกต.คนหนึ่งไม่ส่งคืนสำนวนให้แก่ตนเป็นเหตุให้สำนวนรั่วไหลถึงบุคคลอื่น จึงเป็นการนำเสนอข่าวที่คาดเคลื่อน เพราะการเก็บรักษาสำนวนเป็นอำนาจของ กกต.ที่จะเก็บสำนวนไว้

และการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับสำนวนเชียงรายโดยระบุว่า มีกกต. คนหนึ่งไม่คืนสำนวน และเป็นหตุให้ข้อเท็จจริงสำนวนถูกเปิดเผยให้คนอื่นได้รับรู้นั้นด้านกิจการสืบสวนสอบสวนได้ตรวจสอบเบื้องต้นแล้วยังไม่พบว่าสำนวนดังกล่าว หรือสำนวนอื่นถูกเปิดเผย แต่เป็นเพียงการกล่าวหา โดยปราศจากหลักฐาน

อย่างไรก็ตามนายสุทธิพล ทวีชัยการ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวตนไม่ทราบ และไม่ได้เป็นมติของกกต. เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของนาย สมชัย ต้องไปถามท่านเอง แต่หากเรื่องดังกล่าวเป็นมติของกกต.ก็ต้องสั่งทางสำนักงานไปดำเนินการ
กำลังโหลดความคิดเห็น