กกต.ปิดทาง “วิจิตร” ถอนคำร้องคัดค้าน “ยุทธ ตู้เย็น” หวั่นเกิดปัญหาการฮั้วตามมา เตรียมหารือรับรองผลเลือกตั้งพรุ่งนี้ ก่อนประกาศอย่างเป็นทางการ มั่นใจทันกำหนดเปิดสภา เมินข้ออ้างยุทธซีดีตัดต่อชี้เป็นเรื่องเทคนิค ต้องพิสูจน์กันเอง
วันนี้ (16 ม.ค.) นายสุเมธ อุปนิสากร กกต.ด้านการมีส่วนร่วม กล่าวถึงกรณีที่นายวิจิตร ยอดสุวรรณ อดีตผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 พรรคชาติไทย ถอนคำร้องคัดค้านการทุจริตการเลือกตั้งของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ว่าที่ ส.ส.สัดส่วนกลุ่ม 1 พรรคพลังประชาชน (พปช.) ว่า ขณะนี้ กกต.ได้มอบอำนาจให้คณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนฯ ที่มีนายสุวิทย์ ธีรพงษ์ เป็นประธาน เป็นผู้สอบปากคำนายวิจิตรว่ามีเหตุอะไรที่ต้องถอนคำร้อง จากนั้นนายสุวิทย์ก็จะส่งสำนวนพร้อมถ้อยคำการสอบปากคำมาให้ กกต.พิจารณาอีกครั้งว่าจะให้ถอนคำร้องหรือไม่
“แม้มีการถอนคำร้องคัดค้าน แต่ พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่ง ส.ว.มาตรา 103 ก็ให้อำนาจ กกต.สอบสวนต่อได้ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่า กกต.ได้มอบอำนาจให้อนุกรรมการฯ สอบสวนพยานแทนแล้ว โดย กกต.ไม่ต้องสอบปากคำผู้ถอนคำร้องด้วยตัวเอง ทั้งนี้ ไม่แน่ใจว่า อนุกรรมการฯ จะเสนอความเห็นเข้ามาเมื่อใด แต่บอกให้เขาทำให้เร็วที่สุด และขณะนี้ก็ทราบคณะอนุกรรมการฯ ได้เดินทางไปสอบสวนเพิ่มเติมที่จังหวัดเชียงรายแล้ว”
ส่วนกรณี นายยงยุทธ ระบุหลังดูวีซีดีว่าเป็นการสร้างหลักฐานเท็จ ตนไม่ทราบ หากนายยงยุทธ กล่าวหาเช่นนี้ก็ต้องให้ปากคำกับคณะอนุกรรมการสอบสวนที่ตั้งขึ้นมาใหม่ และคณะอนุกรรมการก็ต้องนำมาประกอบการพิจารณาชั่งน้ำหนัก ซึ่งความเห็นว่าที่คณะอนุกรรมการต้องเสนอว่าจะให้ถอนสำนวนนี้หรือไม่ และจะต้องส่งมาพร้อมกับสำนวนสอบสวนทั้งหมด
นายสุเมธ ยังกล่าวว่า ไม่ทราบว่าคณะอนุกรรมการจะส่งสำนวนเรื่องนายยงยุทธมาให้ กกต.พิจารณาทันก่อนที่ กกต.จะประกาศรับรอง ส.ส.ให้ได้ 456 คนหรือไม่ แต่ กกต.ก็ได้ขอให้อนุฯ เร่งทำงานเร็วที่สุด
นายสุเมธยังกล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีกาเห็นพ้องในการให้ใบแดงต่อนายสุนทร วิลาวัลย์ อดีต ส.ส.จังหวัดปราจีนบุรี พรรคมัชฌิมาธิปไตย (มฌ.) ว่า คงต้องสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ส่วนกรณีที่นายสุนทรเป็นกรรมการบริหารพรรคแล้วมีการกระทำความผิดกฎหมายเลือกตั้งนั้น กกต.ยังไม่ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนแต่อย่างใด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการให้เจ้าหน้าที่เสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม กกต. หากตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนแล้ว มีผลอย่างไรก็จะเสนอให้ กกต.พิจารณา คาดว่า กกต.จะไปใช้เวลาพิจารณาไม่นาน เพราะแต่ละเรื่องอย่างมากก็เวลาพิจารณาเพียง 2-3 ชั่วโมงก็เสร็จแล้ว โดยหากมีความชัดเจน กกต.ก็จะส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา
ด้าน นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า หากคณะอนุกรรมการสอบสวนฯ ที่มีนายสุวิทย์ส่งความเห็นเรื่องการถอนคำร้องของนายวิจิตรมายัง กกต.แล้ว กกต.ก็จะเป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณา แต่อนุคณะกรรมการฯ ไม่มีหน้าที่ตัดสินว่าจะให้ถอนคำร้องหรือไม่
ส่วนที่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่า หาก กกต.ยอมให้ถอนคำร้อง กกต.อาจถูกฟ้องร้องได้นั้น นายสุทธิพล กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นดุลยพินิจของ กกต. ถ้า กกต.พิจารณาอย่างรอบคอบตามกรอบอำนาจของกฎหมายแล้ว การใช้อำนาจของ กกต.เป็นไปอย่างสุจริตก็จะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย ทั้งนี้ การพิจารณาให้ถอนคำร้องหรือไม่นั้นก็ต้องดูหลายกรณี โดยเฉพาะในแง่การทำผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือกฎหมายอื่นใด ซึ่ง กกต.มีอำนาจในการดำเนินการ แม้จะไม่มีผู้ร้องคัดค้าน แต่ถ้าความจริงปรากฏว่า กกต.ก็ต้องสอบสวนยืนยันว่าจะพิจารณาปัจจัยต่างๆ รอบคอบ
สำหรับที่นายยงยุทธเตรียมฟ้องร้องตำรวจสันติบาลหลังดูวีซีดี เห็นว่าควรให้ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคนิคที่มีความเป็นกลางมาตรวจสอบเพิ่มเติม เพื่อเปรียบเทียบว่ามีการตัดต่อจริงตามที่นายยงยุทธ กล่าวอ้างหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ตนมั่นใจในการทำงานของอนุกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าว
นายอภิชาต สุขัคคานนท์ กล่าวถึงกรณีที่นายวิจิตร ยอดสุวรรณ สมาชิกพรรคชาติไทย อดีตผุ้สมัคร ส.ส.เขต 1 เชียงราย ได้ถอนคำร้องคัดค้านนายยงยุทธ ว่า ขณะนี้ตนทราบว่ามีหนังสือเข้ามาแล้วแต่ยังไม่เห็นหนังสือดังกล่าว ซึ่งเรื่องนี้ กกต.ก็ต้องมีการประชุมพิจารณาถึงเหตุผลในการขอถอนคำฟ้อง ทั้งนี้ ในกฎหมายได้ให้อำนาจ กกต.อย่างกว้างขวาง ดังนั้น กกต.จะต้องใช้ดุลพินิจพิจารณาในรายละเอียดในการถอนคำฟ้อง
เมื่อถามว่า หากยอมให้มีการถอนคำฟ้องต่อไปเกรงหรือไม่จะมีการฮั้วกัน นายอภิชาต กล่าวว่า ถึงได้บอกว่าเป็นอำนาจที่กว้างขวางที่ กกต.พิจารณาให้ถอนหรือไม่ให้ถอน
นายอภิชาตยังได้กล่าวถึงกรณีที่นายยงยุทธได้นำช่างเทคนิคเข้ามาดูวีซีดีว่า ที่คุยกันในที่ประชุมเรื่องวีซีดี บอกว่าไม่เคยเห็นวีซีดีทั้ง 8 แผ่นเลย ที่ประชุมจึงอนุญาตให้ดูและนายยงยุทธก็ขอว่าจะนำผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการตัดต่อมาดู เราก็บอกว่าให้มาดูได้ แต่ไม่อนุญาตนำออกไป และในการดูก็ต้องมีกรรมการร่วมอยู่ด้วย เมื่อถามว่านายยงยุทธนำช่างเทคนิคมาดูแล้วระบุว่ามีการตัดต่อภาพนั้น นายอภิชาต กล่าว่า ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ทั้งนี้กกต.ได้ มอบอำนาจให้คณะอนุกรรมการไปพิจารณา ซึ่งทราบมาว่าทั้งคณะอนุกรรมการและนายยุทธ ก็พึ่งได้ดูวีซีดีเป็นครั้งแรกพร้อมกัน ซึ่งมีอยู่ 8 แผ่น ส่วนหลังจากดูแล้วจะมีการกล่าวอ้างเหตุผลอะไรเป็นความเห็น
“ยืนยัน กกต.ไม่ได้เป็นคนตัดต่อ และกกต.ก็ไม่ได้ทำวีซีดีนี้ เพราะมาจากสันติบาล ทั้งนี้ กกต.มีหน้าที่ในการพิจารณาในเนื้อหา ไม่ใช่หน้าที่ของ กกต.จะต้องไปดูในเรื่องของเทคนิคว่ามีการตัดต่อหรือไม่” นายอภิชาต กล่าว
นายอภิชาต ยังได้กล่าวถึงการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งว่า ในวันพรุ่งนี้ (17 ม.ค.) จะมีการประชุมอีกครั้งในเรื่องนี้เพื่อให้ออกมาเป็นมติที่ชัดเจน เพราะก่อนหน้านี้ก็มีกกต.บางคนได้แสดงความคิดเห็นไปคนละด้าน นั่นก็เป็นการแสดงความคิดเห็น ส่วนตัวจะไม่ขอออกความคิดเห็นต้องขอเข้าประชุมเท่านั้น สำหรับเรื่องการรับรองผลที่นายประพันธ์ นัยโกวิท ที่รับผิดชอบเรื่องดังกล่าวออกมาระบุว่าจะสามารถประกาศผลได้ทันโดยการลือกตั้งใหม่ในวันที่ 20 ม.ค. เพราะได้สั่งการให้ ผอ.กต.จว.ส่งรายงานผลภายในเช้าเวลา 09.00 น.ของวันที่ 21 ม.ค. ซึ่งถ้าเปิดประชุมสภาในช่วงบ่ายก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะช่วงเช้าจะสามารถเปิดประชุมได้ทัน ทั้งนี้ ในการเปิดสภาทราบมาว่าจะต้องมีกฤษ์ยามเข้ามาเกี่ยวข้อง
เมื่อถามว่า หาก กกต.ประกาศรับรองผล ส.ส.ได้ตามจำนวนที่สามารถเปิดประชุมสภาได้แล้ว ในส่วนที่ยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ กกต.จะประกาศรับรองภายใน 30 วันนับแต่วันเลือกตั้งหรือไม่ นายอภิชาต กล่าวว่า กฎหมายปัจจุบันมันแปลกกว่าอดีต เพราะอย่างมาตรา 8 ของ พ.ร.บ.เลือกตั้งก็เขียนไว้ให้กกตงวินิจฉัยให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน แต่รัฐธรรมนูญมาตรา 93 ก็มีเขียนเรื่อง 95% ไว้ เราก็มองว่าถ้าได้ ส.ส. 95% แล้วที่เหลือก็ไม่น่าจะมีปัญหา