พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงถึงกระแสข่าวว่า คุณหญิงพจมานชินวัตร ภริยา อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เข้าหารือเพื่อหาแนวทางสมานฉันท์ว่า ขณะนี้ยังไม่เคยพบกัน แต่ถ้าอยากคุยเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น ก็ทำเอกสารมาได้เลย แต่ถ้าจะพูดคุยเรื่องคดีก็ต้องว่ากันไปในทางคดี ซึ่งมีแนวทางอยู่แล้ว
"ประเด็นที่คุณหญิงพจมานจะมาพูดคุยแล้วทำให้สังคมดีขึ้น คิดว่าทำได้เลย แต่ประเด็นใดที่ต้องเป็นไปตามเรื่องราว เช่นคดีที่ถูกตรวจสอบ หรือเรื่องอื่นก็ต้องว่าตามนั้น หากเป็นเรื่องที่สร้างความเรียบร้อยหรือสร้างกระแสความเข้าใจ เพื่อให้สังคมสงบเรียบร้อยเศรษฐกิจก็จะดี ตลาดหลักทรัพย์ก็จะดี ผมว่าก็น่าฟัง" พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่า หากคุณหญิงพจมาน ประสานเข้ามาเพื่อหารือกับ คมช. จะมีการหารือด้วยหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า คมช. ยังไม่มีการหยิบยกประเด็นนี้มาพูดคุย และไม่แน่ใจว่า คมช. จะมีความสามารถจัดการเรื่องนี้หรือไม่ เพราะยุ่งเกี่ยวกันหลายเรื่อง การเมืองต้องปล่อยเป็นเรื่องการเมือง หาก คมช.ไปยุ่งเกี่ยวคงจะไม่ได้ ในภาพรวมต้องปล่อยให้การเมืองว่ากันเอง
เมื่อถามถึงกระแสข่าวสนับสนุน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ทบ. เป็นรมว.กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า คงต้องปล่อยเป็นหน้าที่การเมืองดีกว่า เพราะหากไปแทรกแซงคงจะไม่ดี ซึ่งความลงตัวทางการเมืองต้องมาก่อน แล้วถึงเป็นเรื่องการจัดตั้ง เมื่อถามว่า หากพล.อ.ประวิตร มาเป็น รมว.กลาโหม พร้อมจะทำงานด้วยใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร เป็นบุคคลที่ได้รับความน่าเชื่อถือจากสถาบันทหาร และมีความสามารถ
**"บุญรอด"หนุนอ้อเจรจา"ป๋า-อนุพงษ์"
พล.อ. บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ คุณหญิงพจมาน เคลื่อนไหวต่อสายเข้าพบผู้ใหญ่ เพื่อขอจัดตั้งรัฐบาลว่า ที่จริงเรื่องการเมืองไม่อยากตอบ เป็นการคาดเดากัน แต่สิ่งที่คุณหญิงพจมาน กลับเข้ามาต่อสู้คดี หรือไปกราบพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ก็เป็นไปตามนั้น เรื่องอื่นเราไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า คุณหญิงพจมานได้มีการต่อสายพูดคุยกับทางรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ไม่มี รัฐบาลไม่มีอะไรอยู่แล้ว เพราะเป็นรัฐบาลชั่วคราว ไม่มีบทบาทอะไร
เมื่อถามว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่ คุณหญิงพจมานจะเข้าพบพล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษเพื่อเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ถ้าเข้าพบ และทำให้สถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้น ก็เป็นสิ่งที่ดี เมื่อถามว่าจะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองด้วยการยุบพรรคพลังประชาชน พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ตามครรลองของกฎหมาย ซึ่งมีขั้นตอน เรื่องถึงศาลก็แล้วแต่ศาลจะเป็นผู้พิจารณา ไม่สามารถให้ความเห็นอะไรได้ เพียงแต่ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย ถ้าทุกคนฟัง และเชื่อกรอบของกฎหมาย ความวุ่นวายจะไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าหากเป็นอนาธิปไตยเมื่อไร ก็เกิดความวุ่นวายเมื่อนั้น
เมื่อถามว่า มองกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ พร้อมเจรจากับ คุณหญิงพจมาน อย่างไร พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ตนเห็นด้วยที่จะปฏิบัติตามพระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่อยากจะให้คนไทย และ กองทัพมีความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์ ฉะนั้นการที่มาพูดคุยกันก็เป็นเรื่องที่นำไปสู่ความสมานฉันท์ ถ้าบ้านเมืองมีความสมานฉันท์ ก็สามารถแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติที่กำลังรออยู่นี้ได้ ฉะนั้นอะไรก็ตามที่ทำให้เกิดความสมานฉันท์เป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ
พล.อ.บุญรอด กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชาชนก็เป็นแกนนำที่ทุกฝ่ายยอมรับแล้ว ดูตามเนื้อผ้าแล้ว พรรคพลังประชาชนน่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้ แม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยอมรับให้พรรคพลังประชาชนเป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลก่อน รวมถึงทุกพรรคการเมืองก็ยินดีจะร่วมกับพรรคพลังประชาชน ส่วนที่ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ คงเป็นการรอใบเหลือง ใบแดง และความชัดเจนที่จะเกิดขึ้น ซึ่งไม่นานเกินรอวันที่ 17 ม.ค.นี้ ก็จะมีความชัดเจนมากขึ้น
หากนายกรัฐมนตรีคนต่อไปชื่อ นายสมัคร สุนทรเวช ทาง คมช. และรัฐบาล ยอมรับได้หรือไม่ พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ใครก็ได้ หากสภาฯเลือกใครก็จะต้องยอมรับ เป็นเรื่องของ ส.ส.ที่จะโหวตเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนบุคลิกลักษณะของนายสมัครควรจะปรับเปลี่ยนหรือไม่นั้น ตนไม่ขอออกความคิดเห็น ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก นายสมัคร เป็นนายกฯ จะสามารถบริหารงานได้นานหรือไม่ พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวว่าจะอยู่ได้นานหรือไม่ได้นาน แต่มีปัจจัยหลายอย่าง
**ไม่ขัด"ประวิตร"นั่งรมว.กลาโหม
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า พล.อ. อนุพงษ์ เจรจาเพื่อขอตำแหน่ง รมว.กลาโหมให้พล.อ. ประวิตร วงศ์สุวรรณ พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ไม่มี เพราะ รัฐบาล และกระทรวงกลาโหม จะไปพร้อมกับรัฐบาลอยู่แล้ว แต่ว่ากองทัพยังอยู่ ทั้ง ผบ.เหล่าทัพ และปลัดกระทรวงกลาโหม ยังอยู่ในตำแหน่งถึงเดือนต.ค. นี้ ฉะนั้นการเคลื่อนไหวของ ผบ.เหล่าทัพ ตนไม่ทราบ
เมื่อถามว่าส่วนตำแหน่ง รมว.กลาโหม คิดว่าใครเหมาะสมในสถานการณ์ในขณะนี้ ทั้งพล.อ. เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ อดีต ผบ.สส. พล.อ. ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีต ผบ.สส. และพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ทบ. พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ใครก็ได้ที่เป็นทหารสามารถเป็นได้ แต่ถ้าเป็นพลเรือนจะลำบาก เมื่อถามว่า ทหารทุกเหล่าทัพสามารถยอมรับได้หรือไม่ หากรมว.กลาโหม เป็นทหาร พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า เป็นทหารเป็นได้ แต่ว่าการที่จะเป็นที่ยอมรับขึ้นอยู่กับตัวผู้นั้นและทางเหล่าทัพเอง เมื่อถามว่า มองอย่างไรหากแคนดิเดตชื่อ พล.อ. ประวิตร อดีต ผบ.ทบ. พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า เป็นได้ทุกคน เขาขึ้นมาจนกระทั่งเป็น ผบ.ทบ. และ มาดูแลกระทรวงกลาโหม และ กองทัพ เป็นได้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า การที่ปรากฏชื่อ พล.อ.ประวิตร ขึ้นมา แสดงว่ามีการพูดคุยกันระหว่าง คุณหญิงพจมาน และพล.อ.อนุพงษ์ แล้ว พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่เป็นเรื่องที่ออกมาเป็นข่าว ทั้งนี้เห็นว่าพล.อ.ประวิตร ก็เป็นที่ยอมรับของกำลังพลในกองทัพบก
** แนะ"บิ๊กบัง"ปล่อยวาง
ผู้สื่อข่าวถามว่า รวมถึงแนวทางรัฐบาลแห่งชาติ พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า อะไรก็แล้วแต่ที่นำไปสู่ความสมานฉันท์ และลดประโยชน์ส่วนตน เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ก็จะเป็นเรื่องที่ดี เมื่อถามว่า หลังการเลือกตั้งได้มีการพูดคุยกับ พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ท่านก็ทำตามที่ตนว่า คือ ปล่อยวาง ตอนนี้ พล.อ. สนธิ พยายามปล่อยวาง เรื่องอย่างนี้ก็ต้องปล่อยวางไปตามที่ควรจะเป็น ซึ่งไม่ได้เรียกว่า ถอดใจ แต่ทำมาได้แค่นี้ก็ต้องแค่นี้ ถือว่าจบ เมื่อออกมาลักษณะแบบนี้แล้วก็ยอมรับ
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า คมช. ต่อรองตำแหน่ง รมว.กลาโหม ให้กับ พล.อ.สนธิ เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง เรื่องที่จะกลับมาเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่คาดคะเนไว้ตอนต้น หมายถึง ต้องอีกฝ่ายหนึ่งเป็นรัฐบาล ถ้าพรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาล ไม่มีทางที่ พล.อ.สนธิ จะมาเป็นอะไรทั้งสิ้น
เมื่อถามย้ำว่า หากต้องการความสมานฉันท์ มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ พล.อ. สนธิ จะมาดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในรัฐบาลของพรรคพลังประชาชน พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ถ้าต้องการความสมานฉันท์ต้องขึ้นอยู่กับว่า มีคนเสนอ ถ้าเป็นไปตามเนื้อผ้า พล.อ.สนธิ ก็รู้ว่า พรรคพลังประชาชนไม่เชิญไปเป็น รมว.กลาโหม อยู่แล้ว
"เท่าที่ปรากฎข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ ยังไม่มี มีเฉพาะชื่อ 3 คน ที่กล่าวมาข้างต้นแค่นั้น ทั้งนี้ คนที่จะทำประโยชน์ให้กับพรรคมากที่สุดควรจะเป็นใคร ถ้าเข้ามาแล้วยังไม่เป็นที่ยอมรับ ควรจะเป็นใครก็จะออกมาอีกรูปแบบหนึ่ง ตอนนี้มองว่า กองทัพยอมรับใครมากกว่าเพื่อน พล.อ. ประวิตร เป็น ตท.6 เคยเป็น ผบ.ทบ. และ เป็นนายเก่าของ ผบ.ทบ. ฉะนั้นทุกอย่างจะออกมา ถ้าเลือกคนนี้จะมีข้อดีอย่างนี้ หรือเลือกคนนั้น ก็จะมีข้อดี ข้อเสีย ซึ่งแล้วแต่ว่าจะเลือกใครขึ้นมาดำรงตำแหน่ง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ ทั้งนี้ อยู่ที่พรรคพลังประชาชนที่เป็นเจ้าของโควตาจะเป็นผู้พิจารณา"
เมื่อถามว่า จากที่พูด ดูแล้ว พล.อ. ประวิตร มีภาษีดีกว่าเพื่อน พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า " ตอนนี้ม้าเพิ่งออกสตาร์ทยังไม่ได้เข้าโค้งตรงไหนเลย ดังนั้นจะต้องดูที่ทางโค้งว่าผ่านกี่โค้งแล้ว ถ้าออกทางวัดเบญจมบพิตร แล้วออกทางตรงเมื่อไร ก็จะรู้ว่าใครเป็น" รมว.กลาโหม กล่าว
**"เรืองโรจน์"ตีกัน"ประวิตร"คุมกลาโหม
พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ รองหัวหน้าพรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณี่มีกระแสข่าวว่าคุณหญิงพจมาน ได้เข้าหารือกับผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ซึ่งปรากฎว่า ผู้ใหญ่สามารถรับได้หากพรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาล ว่า เรื่องนี้พรรคไม่เคยคิด ในเมื่อเป็นแนวทางของพรรคทุกคนก็ต้องยอมรับ และในการประชุมกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 15 ม.ค. คิดว่าคงจะไม่นำเรื่องนี้เข้าเข้าไปหารือในที่ประชุม ส่วนกระแสข่าวเกี่ยวกับ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ อดีต ผบ.ทบ จะเข้ามารับตำแหน่ง รมว.กลาโหม พล.อ.เรืองโรจน์ กล่าวว่า พรรคได้มีการวงตัวบุคคลเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคงต้องพิจาณาจากบุคลากรของพรรค ที่เป็นทหาร ก็มีอยู่มาก แต่ตนก็ยังไม่สามารถบอกได้ เพราะเป็นมารยาท และก็ไม่ได้บอกว่าจะเข้ามานั่งตำแหน่งนี้เอง
**"วีระ"ซัด"อ้อ"จุ้นตั้งรัฐบาลพปช.
นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) กล่าวถึงข่าวการฮั้วกันทางการเมืองโดยอ้างเพื่อความสมานฉันท์ในช่วงนี้ ว่า หากฮั้วกันแล้วมาบอกว่านี่คือการสมานฉันท์ ขอบอกว่าไม่ถูกต้อง การฮั้วกันทางการเมืองเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่เรื่องสมานฉันท์เด็ดขาด
"เพราะการสมานฉันท์ไม่ได้หมายความว่าหยวน ๆ คุณจะผิด จะเลวจะโกง ก็หยวนๆ เพื่อให้บ้านเมืองผ่านวิกฤต ไม่ได้ ไม่มีประเทศใดในโลกทำกัน ถ้าเราปกครองกันด้วยหลักนิติรัฐ โดยเฉพาะกับเวลานี้ที่มีรัฐธรรมนูญบังคับใช้แล้ว แล้วยิ่งคุณหญิงพจมานเดินทางกลับมาเข้าหาบิ๊กทหารคนโน้น คนนี้ หรือมาจัดตั้งรัฐบาล ขอถามว่า คุณหญิงพจมานเข้าไปคุยในฐานะอะไร และเกี่ยวข้องอะไรกับพรรคพลังประชาชน ถ้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคนี้จริง ก็แสดงว่าเป็นเจ้าของพรรคพลังประชาชน มันก็สอดคล้องกับที่ผมยื่นเรื่องฟ้องไปในเรื่องนอมินี เพราะถือว่าเข้าไปยุ่ง และก็ยอมรับ" นายวีระกล่าว
**ดัน"เลี้ยบ" นั่งรองนายกฯ ควบคลัง
แหล่งข่าวจากระดับแกนนำพรรคพลังประชาชน แจ้งว่า ภายหลังที่ นายวีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรี ตอบปฎิเสธ ที่จะรับตำแหน่งรมว. คลัง และนายทนง พิทยะ อดีตรมว.คลัง ยังสงวนท่าทีอยู่นั้น ล่าสุดมีความเป็นไปได้สูงที่พรรคจะวางตัว นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค เป็นรมว.คลัง เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีความไว้ใจตัว นพ.สุรพงษ์ เป็นอย่างมาก และจะเป็นการง่ายหาก พ.ต.ท.ทักษิณ จะให้คำปรึกษาการบริหารงานด้านเศรษฐกิจ ซึ่งที่ผ่านมา นพ.สุรพงษ์ ก็ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงสำคัญมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นรมว. สาธารณสุข และ รมว. ไอซีที
"ที่แน่ๆ นพ.สุรพงษ์ ได้เป็นรองนายกฯ แต่ไม่แน่ใจว่าจะควบรัฐมนตรีกระทรวงใด ซึ่งหากควบ รมว.คลัง ทีมเศรษฐกิจ ก็ไม่มีปัญหา เพราะนพ.สุรพงษ์ ก็รู้เรื่องเศรษฐกิจพอสมควร ส่วนการแต่งตั้งรมช. และเลขารมว.นั้น คงจะดันทีมงานในทีมเศรษฐกิจมารับผิดชอบงานตรงนี้" แหล่งข่าวกล่าว
ด้านนายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกระแสข่าวที่จะไม่ให้นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคฯ เป็นนายกรัฐมนตรี ว่าขอยืนยันว่า พรรคไม่มีแนวคิดนี้ เพราะนายสมัครได้ร่วมหาเสียงทำงานมาด้วยกัน รวมทั้งในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค ทุกคนต่างมีความเป็นเอกภาพ และคิดไปแนวทางเดียวกัน จึงไม่มีทางที่จะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ซึ่งตนเห็นว่ากระแสข่าวที่ออกมา มีความพยายามที่จะให้เกิดความแตกแยกภายในพรรค จากคนที่ไม่หวังดีมากกว่า
"ประเด็นที่คุณหญิงพจมานจะมาพูดคุยแล้วทำให้สังคมดีขึ้น คิดว่าทำได้เลย แต่ประเด็นใดที่ต้องเป็นไปตามเรื่องราว เช่นคดีที่ถูกตรวจสอบ หรือเรื่องอื่นก็ต้องว่าตามนั้น หากเป็นเรื่องที่สร้างความเรียบร้อยหรือสร้างกระแสความเข้าใจ เพื่อให้สังคมสงบเรียบร้อยเศรษฐกิจก็จะดี ตลาดหลักทรัพย์ก็จะดี ผมว่าก็น่าฟัง" พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่า หากคุณหญิงพจมาน ประสานเข้ามาเพื่อหารือกับ คมช. จะมีการหารือด้วยหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า คมช. ยังไม่มีการหยิบยกประเด็นนี้มาพูดคุย และไม่แน่ใจว่า คมช. จะมีความสามารถจัดการเรื่องนี้หรือไม่ เพราะยุ่งเกี่ยวกันหลายเรื่อง การเมืองต้องปล่อยเป็นเรื่องการเมือง หาก คมช.ไปยุ่งเกี่ยวคงจะไม่ได้ ในภาพรวมต้องปล่อยให้การเมืองว่ากันเอง
เมื่อถามถึงกระแสข่าวสนับสนุน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ทบ. เป็นรมว.กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า คงต้องปล่อยเป็นหน้าที่การเมืองดีกว่า เพราะหากไปแทรกแซงคงจะไม่ดี ซึ่งความลงตัวทางการเมืองต้องมาก่อน แล้วถึงเป็นเรื่องการจัดตั้ง เมื่อถามว่า หากพล.อ.ประวิตร มาเป็น รมว.กลาโหม พร้อมจะทำงานด้วยใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร เป็นบุคคลที่ได้รับความน่าเชื่อถือจากสถาบันทหาร และมีความสามารถ
**"บุญรอด"หนุนอ้อเจรจา"ป๋า-อนุพงษ์"
พล.อ. บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่ คุณหญิงพจมาน เคลื่อนไหวต่อสายเข้าพบผู้ใหญ่ เพื่อขอจัดตั้งรัฐบาลว่า ที่จริงเรื่องการเมืองไม่อยากตอบ เป็นการคาดเดากัน แต่สิ่งที่คุณหญิงพจมาน กลับเข้ามาต่อสู้คดี หรือไปกราบพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ก็เป็นไปตามนั้น เรื่องอื่นเราไม่ทราบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า คุณหญิงพจมานได้มีการต่อสายพูดคุยกับทางรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ไม่มี รัฐบาลไม่มีอะไรอยู่แล้ว เพราะเป็นรัฐบาลชั่วคราว ไม่มีบทบาทอะไร
เมื่อถามว่าเห็นด้วยหรือไม่ที่ คุณหญิงพจมานจะเข้าพบพล.อ. เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษเพื่อเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ถ้าเข้าพบ และทำให้สถานการณ์ต่างๆ ดีขึ้น ก็เป็นสิ่งที่ดี เมื่อถามว่าจะเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองด้วยการยุบพรรคพลังประชาชน พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ตามครรลองของกฎหมาย ซึ่งมีขั้นตอน เรื่องถึงศาลก็แล้วแต่ศาลจะเป็นผู้พิจารณา ไม่สามารถให้ความเห็นอะไรได้ เพียงแต่ขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย ถ้าทุกคนฟัง และเชื่อกรอบของกฎหมาย ความวุ่นวายจะไม่เกิดขึ้น แต่ถ้าหากเป็นอนาธิปไตยเมื่อไร ก็เกิดความวุ่นวายเมื่อนั้น
เมื่อถามว่า มองกรณีที่ พล.อ.อนุพงษ์ พร้อมเจรจากับ คุณหญิงพจมาน อย่างไร พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ตนเห็นด้วยที่จะปฏิบัติตามพระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่อยากจะให้คนไทย และ กองทัพมีความสามัคคีปรองดองสมานฉันท์ ฉะนั้นการที่มาพูดคุยกันก็เป็นเรื่องที่นำไปสู่ความสมานฉันท์ ถ้าบ้านเมืองมีความสมานฉันท์ ก็สามารถแก้ไขปัญหาสำคัญของชาติที่กำลังรออยู่นี้ได้ ฉะนั้นอะไรก็ตามที่ทำให้เกิดความสมานฉันท์เป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ
พล.อ.บุญรอด กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชาชนก็เป็นแกนนำที่ทุกฝ่ายยอมรับแล้ว ดูตามเนื้อผ้าแล้ว พรรคพลังประชาชนน่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้ แม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยอมรับให้พรรคพลังประชาชนเป็นฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลก่อน รวมถึงทุกพรรคการเมืองก็ยินดีจะร่วมกับพรรคพลังประชาชน ส่วนที่ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ คงเป็นการรอใบเหลือง ใบแดง และความชัดเจนที่จะเกิดขึ้น ซึ่งไม่นานเกินรอวันที่ 17 ม.ค.นี้ ก็จะมีความชัดเจนมากขึ้น
หากนายกรัฐมนตรีคนต่อไปชื่อ นายสมัคร สุนทรเวช ทาง คมช. และรัฐบาล ยอมรับได้หรือไม่ พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ใครก็ได้ หากสภาฯเลือกใครก็จะต้องยอมรับ เป็นเรื่องของ ส.ส.ที่จะโหวตเลือกใครเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนบุคลิกลักษณะของนายสมัครควรจะปรับเปลี่ยนหรือไม่นั้น ตนไม่ขอออกความคิดเห็น ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก นายสมัคร เป็นนายกฯ จะสามารถบริหารงานได้นานหรือไม่ พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวว่าจะอยู่ได้นานหรือไม่ได้นาน แต่มีปัจจัยหลายอย่าง
**ไม่ขัด"ประวิตร"นั่งรมว.กลาโหม
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า พล.อ. อนุพงษ์ เจรจาเพื่อขอตำแหน่ง รมว.กลาโหมให้พล.อ. ประวิตร วงศ์สุวรรณ พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ไม่มี เพราะ รัฐบาล และกระทรวงกลาโหม จะไปพร้อมกับรัฐบาลอยู่แล้ว แต่ว่ากองทัพยังอยู่ ทั้ง ผบ.เหล่าทัพ และปลัดกระทรวงกลาโหม ยังอยู่ในตำแหน่งถึงเดือนต.ค. นี้ ฉะนั้นการเคลื่อนไหวของ ผบ.เหล่าทัพ ตนไม่ทราบ
เมื่อถามว่าส่วนตำแหน่ง รมว.กลาโหม คิดว่าใครเหมาะสมในสถานการณ์ในขณะนี้ ทั้งพล.อ. เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ อดีต ผบ.สส. พล.อ. ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีต ผบ.สส. และพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ทบ. พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ใครก็ได้ที่เป็นทหารสามารถเป็นได้ แต่ถ้าเป็นพลเรือนจะลำบาก เมื่อถามว่า ทหารทุกเหล่าทัพสามารถยอมรับได้หรือไม่ หากรมว.กลาโหม เป็นทหาร พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า เป็นทหารเป็นได้ แต่ว่าการที่จะเป็นที่ยอมรับขึ้นอยู่กับตัวผู้นั้นและทางเหล่าทัพเอง เมื่อถามว่า มองอย่างไรหากแคนดิเดตชื่อ พล.อ. ประวิตร อดีต ผบ.ทบ. พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า เป็นได้ทุกคน เขาขึ้นมาจนกระทั่งเป็น ผบ.ทบ. และ มาดูแลกระทรวงกลาโหม และ กองทัพ เป็นได้อยู่แล้ว
เมื่อถามว่า การที่ปรากฏชื่อ พล.อ.ประวิตร ขึ้นมา แสดงว่ามีการพูดคุยกันระหว่าง คุณหญิงพจมาน และพล.อ.อนุพงษ์ แล้ว พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่เป็นเรื่องที่ออกมาเป็นข่าว ทั้งนี้เห็นว่าพล.อ.ประวิตร ก็เป็นที่ยอมรับของกำลังพลในกองทัพบก
** แนะ"บิ๊กบัง"ปล่อยวาง
ผู้สื่อข่าวถามว่า รวมถึงแนวทางรัฐบาลแห่งชาติ พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า อะไรก็แล้วแต่ที่นำไปสู่ความสมานฉันท์ และลดประโยชน์ส่วนตน เพื่อประโยชน์ส่วนรวม ก็จะเป็นเรื่องที่ดี เมื่อถามว่า หลังการเลือกตั้งได้มีการพูดคุยกับ พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ท่านก็ทำตามที่ตนว่า คือ ปล่อยวาง ตอนนี้ พล.อ. สนธิ พยายามปล่อยวาง เรื่องอย่างนี้ก็ต้องปล่อยวางไปตามที่ควรจะเป็น ซึ่งไม่ได้เรียกว่า ถอดใจ แต่ทำมาได้แค่นี้ก็ต้องแค่นี้ ถือว่าจบ เมื่อออกมาลักษณะแบบนี้แล้วก็ยอมรับ
เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า คมช. ต่อรองตำแหน่ง รมว.กลาโหม ให้กับ พล.อ.สนธิ เพื่อให้เกิดความสมานฉันท์ พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง เรื่องที่จะกลับมาเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ที่คาดคะเนไว้ตอนต้น หมายถึง ต้องอีกฝ่ายหนึ่งเป็นรัฐบาล ถ้าพรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาล ไม่มีทางที่ พล.อ.สนธิ จะมาเป็นอะไรทั้งสิ้น
เมื่อถามย้ำว่า หากต้องการความสมานฉันท์ มีความเป็นไปได้หรือไม่ที่ พล.อ. สนธิ จะมาดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในรัฐบาลของพรรคพลังประชาชน พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า ถ้าต้องการความสมานฉันท์ต้องขึ้นอยู่กับว่า มีคนเสนอ ถ้าเป็นไปตามเนื้อผ้า พล.อ.สนธิ ก็รู้ว่า พรรคพลังประชาชนไม่เชิญไปเป็น รมว.กลาโหม อยู่แล้ว
"เท่าที่ปรากฎข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ ยังไม่มี มีเฉพาะชื่อ 3 คน ที่กล่าวมาข้างต้นแค่นั้น ทั้งนี้ คนที่จะทำประโยชน์ให้กับพรรคมากที่สุดควรจะเป็นใคร ถ้าเข้ามาแล้วยังไม่เป็นที่ยอมรับ ควรจะเป็นใครก็จะออกมาอีกรูปแบบหนึ่ง ตอนนี้มองว่า กองทัพยอมรับใครมากกว่าเพื่อน พล.อ. ประวิตร เป็น ตท.6 เคยเป็น ผบ.ทบ. และ เป็นนายเก่าของ ผบ.ทบ. ฉะนั้นทุกอย่างจะออกมา ถ้าเลือกคนนี้จะมีข้อดีอย่างนี้ หรือเลือกคนนั้น ก็จะมีข้อดี ข้อเสีย ซึ่งแล้วแต่ว่าจะเลือกใครขึ้นมาดำรงตำแหน่ง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ ทั้งนี้ อยู่ที่พรรคพลังประชาชนที่เป็นเจ้าของโควตาจะเป็นผู้พิจารณา"
เมื่อถามว่า จากที่พูด ดูแล้ว พล.อ. ประวิตร มีภาษีดีกว่าเพื่อน พล.อ.บุญรอด กล่าวว่า " ตอนนี้ม้าเพิ่งออกสตาร์ทยังไม่ได้เข้าโค้งตรงไหนเลย ดังนั้นจะต้องดูที่ทางโค้งว่าผ่านกี่โค้งแล้ว ถ้าออกทางวัดเบญจมบพิตร แล้วออกทางตรงเมื่อไร ก็จะรู้ว่าใครเป็น" รมว.กลาโหม กล่าว
**"เรืองโรจน์"ตีกัน"ประวิตร"คุมกลาโหม
พล.อ.เรืองโรจน์ มหาศรานนท์ รองหัวหน้าพรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณี่มีกระแสข่าวว่าคุณหญิงพจมาน ได้เข้าหารือกับผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ซึ่งปรากฎว่า ผู้ใหญ่สามารถรับได้หากพรรคพลังประชาชนเป็นรัฐบาล ว่า เรื่องนี้พรรคไม่เคยคิด ในเมื่อเป็นแนวทางของพรรคทุกคนก็ต้องยอมรับ และในการประชุมกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 15 ม.ค. คิดว่าคงจะไม่นำเรื่องนี้เข้าเข้าไปหารือในที่ประชุม ส่วนกระแสข่าวเกี่ยวกับ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ อดีต ผบ.ทบ จะเข้ามารับตำแหน่ง รมว.กลาโหม พล.อ.เรืองโรจน์ กล่าวว่า พรรคได้มีการวงตัวบุคคลเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งคงต้องพิจาณาจากบุคลากรของพรรค ที่เป็นทหาร ก็มีอยู่มาก แต่ตนก็ยังไม่สามารถบอกได้ เพราะเป็นมารยาท และก็ไม่ได้บอกว่าจะเข้ามานั่งตำแหน่งนี้เอง
**"วีระ"ซัด"อ้อ"จุ้นตั้งรัฐบาลพปช.
นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) กล่าวถึงข่าวการฮั้วกันทางการเมืองโดยอ้างเพื่อความสมานฉันท์ในช่วงนี้ ว่า หากฮั้วกันแล้วมาบอกว่านี่คือการสมานฉันท์ ขอบอกว่าไม่ถูกต้อง การฮั้วกันทางการเมืองเป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่เรื่องสมานฉันท์เด็ดขาด
"เพราะการสมานฉันท์ไม่ได้หมายความว่าหยวน ๆ คุณจะผิด จะเลวจะโกง ก็หยวนๆ เพื่อให้บ้านเมืองผ่านวิกฤต ไม่ได้ ไม่มีประเทศใดในโลกทำกัน ถ้าเราปกครองกันด้วยหลักนิติรัฐ โดยเฉพาะกับเวลานี้ที่มีรัฐธรรมนูญบังคับใช้แล้ว แล้วยิ่งคุณหญิงพจมานเดินทางกลับมาเข้าหาบิ๊กทหารคนโน้น คนนี้ หรือมาจัดตั้งรัฐบาล ขอถามว่า คุณหญิงพจมานเข้าไปคุยในฐานะอะไร และเกี่ยวข้องอะไรกับพรรคพลังประชาชน ถ้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับพรรคนี้จริง ก็แสดงว่าเป็นเจ้าของพรรคพลังประชาชน มันก็สอดคล้องกับที่ผมยื่นเรื่องฟ้องไปในเรื่องนอมินี เพราะถือว่าเข้าไปยุ่ง และก็ยอมรับ" นายวีระกล่าว
**ดัน"เลี้ยบ" นั่งรองนายกฯ ควบคลัง
แหล่งข่าวจากระดับแกนนำพรรคพลังประชาชน แจ้งว่า ภายหลังที่ นายวีรพงษ์ รามางกูร อดีตรองนายกรัฐมนตรี ตอบปฎิเสธ ที่จะรับตำแหน่งรมว. คลัง และนายทนง พิทยะ อดีตรมว.คลัง ยังสงวนท่าทีอยู่นั้น ล่าสุดมีความเป็นไปได้สูงที่พรรคจะวางตัว นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี เลขาธิการพรรค เป็นรมว.คลัง เนื่องจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีความไว้ใจตัว นพ.สุรพงษ์ เป็นอย่างมาก และจะเป็นการง่ายหาก พ.ต.ท.ทักษิณ จะให้คำปรึกษาการบริหารงานด้านเศรษฐกิจ ซึ่งที่ผ่านมา นพ.สุรพงษ์ ก็ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงสำคัญมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นรมว. สาธารณสุข และ รมว. ไอซีที
"ที่แน่ๆ นพ.สุรพงษ์ ได้เป็นรองนายกฯ แต่ไม่แน่ใจว่าจะควบรัฐมนตรีกระทรวงใด ซึ่งหากควบ รมว.คลัง ทีมเศรษฐกิจ ก็ไม่มีปัญหา เพราะนพ.สุรพงษ์ ก็รู้เรื่องเศรษฐกิจพอสมควร ส่วนการแต่งตั้งรมช. และเลขารมว.นั้น คงจะดันทีมงานในทีมเศรษฐกิจมารับผิดชอบงานตรงนี้" แหล่งข่าวกล่าว
ด้านนายสุขุมพงศ์ โง่นคำ รองเลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกระแสข่าวที่จะไม่ให้นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคฯ เป็นนายกรัฐมนตรี ว่าขอยืนยันว่า พรรคไม่มีแนวคิดนี้ เพราะนายสมัครได้ร่วมหาเสียงทำงานมาด้วยกัน รวมทั้งในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค ทุกคนต่างมีความเป็นเอกภาพ และคิดไปแนวทางเดียวกัน จึงไม่มีทางที่จะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ซึ่งตนเห็นว่ากระแสข่าวที่ออกมา มีความพยายามที่จะให้เกิดความแตกแยกภายในพรรค จากคนที่ไม่หวังดีมากกว่า
