“พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา” ระบุพันธมิตรฯเคลื่อนไหวถือเป็นเสรีภาพ แนะให้โอกาสรัฐบาลบริหารประเทศก่อน ยืนยันกองทัพแน่นปั๋กไม่แตกแยก ยิ้มรับ “สมัคร” ไม่แตะเก้าอี้ ผบ.ทบ. ชี้ “บุช” เซย์ฮัลโหล นายกฯถือเป็นธรรมเนียมปฎิบัติ ด้าน “สุริยะใส” ระบุหาก “สมัคร” ทำตัวเป็นทาสระบอบทักษิณ อุ้ม “แม้ว” พ้นผิด พันธมิตรฯเคลื่อนไหวแน่
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวว่า การเดินทางไปครั้งนี้เพื่อเยี่ยมคำนับ ซึ่งอาจจะมีการพูดคุยเกี่ยวกับกิจกรรมที่ชายแดน โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติดในการหาหนทางช่วยกันสกัดกั้น ทั้งนี้ การพูดคุยจะต้องมีความละเอียดอ่อน จะไปกล่าวหาว่าเขาเป็นจุดเริ่มต้นจะต้องระมัดระวัง แต่คงจะมีการขอความร่วมมือช่วยกัน
ส่วนการที่ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โทรศัพท์มาแสดงความยินดีกับนายสมัคร สุนทรเวช ที่ได้รับการโปรดเกล้าแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 จะทำให้ภาพความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพไทย กับกองทัพสหรัฐอเมริกาดีขึ้นหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เป็นธรรมเนียมระหว่างประเทศที่จะมีการดำเนินการต่อกันในลักษณะมีความสัมพันธ์กันก็เป็นเรื่องของทางสหรัฐอเมริกา กับรัฐบาล กองทัพคงไม่มีอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะให้ความช่วยเหลือทางทหารกับกองทัพไทยเหมือนเดิมใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า คงจะดีขึ้น ถือเป็นสิ่งที่ดี เมื่อถามถึงกรณีที่ นายสมัคร ระบุจะเชิญ ผบ.เหล่าทัพไปหารือ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการนัดหมาย เมื่อถามว่า พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม ได้ฝากอะไรเป็นพิเศษกับ ผบ.เหล่าทัพบ้าง พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่ได้ฝากอะไรเป็นกรณีพิเศษ นอกจากขอบคุณที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ และขอให้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติต่อไป
ส่วนที่ พล.อ.บุญรอด ยังเป็นห่วงเรื่องความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของกองทัพ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่ว่าองค์กรใดก็ตามในเรื่องความเป็นยูนิตี้(เอกภาพ) ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเป็นเรื่องสำคัญ เพราะว่าจะทำให้เกิดพลังในการทำงาน กองทัพบก หรือ เหล่าทัพ ก็ไม่ได้แตกแยกในเรื่องความสามัคคี เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ นายสมัคร มาดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า "ก็ดี ผมว่าท่านก็เป็นผู้ใหญ่"
ผู้สื่อข่าวถามว่านายสมัคร ประกาศชัดเจนแล้วว่า ตำแหน่ง ผบ.ทบ.จะอยู่ครบวาระรู้สึกอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวพร้อมแสดงอาการยิ้มที่ริมฝีปากเล็กว่า เป็นเรื่องของวันข้างหน้าก็แล้วแต่ไม่แน่นอน ทั้งนี้ในวันนี้ไม่ได้มีการนัด ผบ.เหล่าทัพ ร่วมรับประทานเช้าที่ บก.ทบ. เหมือนที่ผ่านมา
ส่วนที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะออกมาเคลื่อนไหว หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่เบื้องหลังการจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า จริง ๆ ตนยังไม่ทราบว่ามีอะไรบ้าง ทราบข่าวจากทีวีเท่านั้น แต่คงจะเป็นเรื่องปกติของประชาธิปไตย ใครก็สามารถแสดงความคิด ความอ่านได้ เป็นสิทธิเสรี ตราบใดที่ไม่รบกวนสิทธิ์ใคร และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายก็ไม่น่าจะเป็นอะไร ทั้งนี้ไม่น่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงเหมือนที่ผ่านมา เพราะว่าตอนนี้ไม่มีประเด็นอะไร รัฐบาลเองก็ยังไม่ได้ทำอะไรก็เข้ามาบริหารประเทศ ถ้าทำแล้วประเทศชาติมีความเจริญรุ่งเรือง ประชาชนมีความสุขก็ไม่น่าจะมีประเด็นอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทุกฝ่ายจะต้องให้โอกาสรัฐบาลในการทำงานใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า แน่นอน ต้องให้โอกาสรัฐบาล เพราะฉะนั้นจะไปไม่เป็นต้องให้รัฐบาลทำงาน และใช้กลไกแรกก่อน คือกลไกในสภา เราเป็นประชาชนเราใช้ระบบประชาธิปไตยตัวแทน มีส.ส. มีส.ว. มีรัฐสภาก็แก้กันไป เราอยู่ข้างนอกก็ดู ในรายละเอียดมีคณะกรรมาธิการ ที่จะดูในเรื่องนี้ เราเป็นประชาชนก็รอรับผลการปกครอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ จะเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ท่านมีความเห็นกับเรื่องนี้อย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่มีความเห็น เมื่อถามย้ำว่า เราควรเปิดรับหรือไม่การมีส่วนร่วมของอดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า "ขออนุญาตไม่มีความเห็นจริงๆ ไกลเกินไป รัฐบาลก็ไม่ใช่ ผมคงไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง"
ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นกับ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นการกระทำของผู้เสียผลประโยชน์และต้องการดิสเครดิตหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ ถามกลับว่า ต้องอธิบายให้ผมฟังหน่อย เพราะผมยังไม่ทราบ ผู้สื่อข่าวตอบกลับว่า เป็นกรณีที่พล.อ.สพรั่ง ถูกโจมตีว่าทุจริตในฐานะที่เป็นบอร์ด ทอท.และทีโอที พล.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องจริงๆ ตนจะไปวิจารณ์ไม่ได้แล้วแต่ว่ามีมูลเหตุอะไร ก็ปล่อยให้เป็นไปตามเรื่องตามราว ตนไมทราบจริงๆ
ด้าน นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย อดีตผู้ประสานงานกลุ่มพัฒธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการหารือกันของแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯถือเป็นการส่งสัญญาณว่าอาจจะรวมกลุ่มกันอีกครั้งเพื่อต่อต้านรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เช่นเดียวกับการต่อต้านระบอบทักษิณในอดีตหรือไม่ว่า อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับตัว นายสมัครเองว่า จะบริหารประเทศโดยรับใช้ หรือสานต่อระบอบทักษิณหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้พันธมิตรฯ กำลังจับตามองอยู่ แม้หลายคนจะรู้สึกผิดหวังต่อผลการเลือกตั้ง แต่สำหรับตนขอบอกว่าอย่าเพิ่งท้อแท้ จะปล่อยให้มวลชนเคว้งคว้างไม่ได้ เพราะฐานกำลังพันธมิตรฯ ส่วนใหญ่เป็นผู้มีความรู้ระดับปัญญาชน และอยู่ในเขตเมือง ดังนั้นจึงต้องเกาะเกี่ยวไว้
นายสุริยะใส กล่าวว่า หาก นายสมัคร เป็นตัวของตัวเอง ไม่ตกเป็นนอมินี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลุ่มพันธมิตรฯก็จะปล่อยให้บริหารต่อไป แต่หากไปปกป้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณพ้นผิด หรือไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ในเรื่องทุจริต อย่างนี้กลุ่มพันธมิตรฯ ต้องออกมาเคลื่อนไหวอีกแน่นอน
นายสุทิน คลังแสง กรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯที่นัดหารือเพื่อเคลื่อนไหวหากรัฐบาลนายสมัคร บริหารประเทศจนกลับสู้ระบอบทักษิณและให้การช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณว่า การเคลื่อนไหวไม่มีน้ำหนัก ที่จะใช้ประเด็นมาเป็นข้ออ้างในการเคลื่อนไหว แต่หากยกประเด็นการบริหารงานไม่เข้าเป้าจะมีเหตุผลมากกว่า
“เรื่องนี้ไม่กังวลว่าจะกระทบกับการทำงานของรัฐบาล เพราะเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจ และไม่ให้ความร่วมมือด้วยอีก อย่างไรก็ตาม อยากให้ทุกฝ่ายให้โอกาสรัฐบาลใหม่ได้ทำงานก่อนที่จะวิจารณ์หรือเตรียมเคลื่อนไหว ประเทศจะได้ไม่บอบช้ำไปมากกว่านี้”
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวว่า การเดินทางไปครั้งนี้เพื่อเยี่ยมคำนับ ซึ่งอาจจะมีการพูดคุยเกี่ยวกับกิจกรรมที่ชายแดน โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติดในการหาหนทางช่วยกันสกัดกั้น ทั้งนี้ การพูดคุยจะต้องมีความละเอียดอ่อน จะไปกล่าวหาว่าเขาเป็นจุดเริ่มต้นจะต้องระมัดระวัง แต่คงจะมีการขอความร่วมมือช่วยกัน
ส่วนการที่ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โทรศัพท์มาแสดงความยินดีกับนายสมัคร สุนทรเวช ที่ได้รับการโปรดเกล้าแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 25 จะทำให้ภาพความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพไทย กับกองทัพสหรัฐอเมริกาดีขึ้นหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า เป็นธรรมเนียมระหว่างประเทศที่จะมีการดำเนินการต่อกันในลักษณะมีความสัมพันธ์กันก็เป็นเรื่องของทางสหรัฐอเมริกา กับรัฐบาล กองทัพคงไม่มีอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้รัฐบาลสหรัฐอเมริกาจะให้ความช่วยเหลือทางทหารกับกองทัพไทยเหมือนเดิมใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า คงจะดีขึ้น ถือเป็นสิ่งที่ดี เมื่อถามถึงกรณีที่ นายสมัคร ระบุจะเชิญ ผบ.เหล่าทัพไปหารือ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการนัดหมาย เมื่อถามว่า พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม ได้ฝากอะไรเป็นพิเศษกับ ผบ.เหล่าทัพบ้าง พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่ได้ฝากอะไรเป็นกรณีพิเศษ นอกจากขอบคุณที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ และขอให้ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประเทศชาติต่อไป
ส่วนที่ พล.อ.บุญรอด ยังเป็นห่วงเรื่องความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของกองทัพ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่ว่าองค์กรใดก็ตามในเรื่องความเป็นยูนิตี้(เอกภาพ) ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเป็นเรื่องสำคัญ เพราะว่าจะทำให้เกิดพลังในการทำงาน กองทัพบก หรือ เหล่าทัพ ก็ไม่ได้แตกแยกในเรื่องความสามัคคี เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่ นายสมัคร มาดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า "ก็ดี ผมว่าท่านก็เป็นผู้ใหญ่"
ผู้สื่อข่าวถามว่านายสมัคร ประกาศชัดเจนแล้วว่า ตำแหน่ง ผบ.ทบ.จะอยู่ครบวาระรู้สึกอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวพร้อมแสดงอาการยิ้มที่ริมฝีปากเล็กว่า เป็นเรื่องของวันข้างหน้าก็แล้วแต่ไม่แน่นอน ทั้งนี้ในวันนี้ไม่ได้มีการนัด ผบ.เหล่าทัพ ร่วมรับประทานเช้าที่ บก.ทบ. เหมือนที่ผ่านมา
ส่วนที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จะออกมาเคลื่อนไหว หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่เบื้องหลังการจัดตั้งรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า จริง ๆ ตนยังไม่ทราบว่ามีอะไรบ้าง ทราบข่าวจากทีวีเท่านั้น แต่คงจะเป็นเรื่องปกติของประชาธิปไตย ใครก็สามารถแสดงความคิด ความอ่านได้ เป็นสิทธิเสรี ตราบใดที่ไม่รบกวนสิทธิ์ใคร และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายก็ไม่น่าจะเป็นอะไร ทั้งนี้ไม่น่าจะมีเหตุการณ์รุนแรงเหมือนที่ผ่านมา เพราะว่าตอนนี้ไม่มีประเด็นอะไร รัฐบาลเองก็ยังไม่ได้ทำอะไรก็เข้ามาบริหารประเทศ ถ้าทำแล้วประเทศชาติมีความเจริญรุ่งเรือง ประชาชนมีความสุขก็ไม่น่าจะมีประเด็นอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทุกฝ่ายจะต้องให้โอกาสรัฐบาลในการทำงานใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า แน่นอน ต้องให้โอกาสรัฐบาล เพราะฉะนั้นจะไปไม่เป็นต้องให้รัฐบาลทำงาน และใช้กลไกแรกก่อน คือกลไกในสภา เราเป็นประชาชนเราใช้ระบบประชาธิปไตยตัวแทน มีส.ส. มีส.ว. มีรัฐสภาก็แก้กันไป เราอยู่ข้างนอกก็ดู ในรายละเอียดมีคณะกรรมาธิการ ที่จะดูในเรื่องนี้ เราเป็นประชาชนก็รอรับผลการปกครอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ จะเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ท่านมีความเห็นกับเรื่องนี้อย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่มีความเห็น เมื่อถามย้ำว่า เราควรเปิดรับหรือไม่การมีส่วนร่วมของอดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า "ขออนุญาตไม่มีความเห็นจริงๆ ไกลเกินไป รัฐบาลก็ไม่ใช่ ผมคงไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง"
ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นกับ พล.อ.สพรั่ง กัลยาณมิตร รองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นการกระทำของผู้เสียผลประโยชน์และต้องการดิสเครดิตหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ ถามกลับว่า ต้องอธิบายให้ผมฟังหน่อย เพราะผมยังไม่ทราบ ผู้สื่อข่าวตอบกลับว่า เป็นกรณีที่พล.อ.สพรั่ง ถูกโจมตีว่าทุจริตในฐานะที่เป็นบอร์ด ทอท.และทีโอที พล.อนุพงษ์ กล่าวว่า ไม่ทราบเรื่องจริงๆ ตนจะไปวิจารณ์ไม่ได้แล้วแต่ว่ามีมูลเหตุอะไร ก็ปล่อยให้เป็นไปตามเรื่องตามราว ตนไมทราบจริงๆ
ด้าน นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย อดีตผู้ประสานงานกลุ่มพัฒธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการหารือกันของแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯถือเป็นการส่งสัญญาณว่าอาจจะรวมกลุ่มกันอีกครั้งเพื่อต่อต้านรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี เช่นเดียวกับการต่อต้านระบอบทักษิณในอดีตหรือไม่ว่า อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับตัว นายสมัครเองว่า จะบริหารประเทศโดยรับใช้ หรือสานต่อระบอบทักษิณหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้พันธมิตรฯ กำลังจับตามองอยู่ แม้หลายคนจะรู้สึกผิดหวังต่อผลการเลือกตั้ง แต่สำหรับตนขอบอกว่าอย่าเพิ่งท้อแท้ จะปล่อยให้มวลชนเคว้งคว้างไม่ได้ เพราะฐานกำลังพันธมิตรฯ ส่วนใหญ่เป็นผู้มีความรู้ระดับปัญญาชน และอยู่ในเขตเมือง ดังนั้นจึงต้องเกาะเกี่ยวไว้
นายสุริยะใส กล่าวว่า หาก นายสมัคร เป็นตัวของตัวเอง ไม่ตกเป็นนอมินี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลุ่มพันธมิตรฯก็จะปล่อยให้บริหารต่อไป แต่หากไปปกป้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณพ้นผิด หรือไม่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ในเรื่องทุจริต อย่างนี้กลุ่มพันธมิตรฯ ต้องออกมาเคลื่อนไหวอีกแน่นอน
นายสุทิน คลังแสง กรรมการบริหารพรรคพลังประชาชน กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มพันธมิตรฯที่นัดหารือเพื่อเคลื่อนไหวหากรัฐบาลนายสมัคร บริหารประเทศจนกลับสู้ระบอบทักษิณและให้การช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณว่า การเคลื่อนไหวไม่มีน้ำหนัก ที่จะใช้ประเด็นมาเป็นข้ออ้างในการเคลื่อนไหว แต่หากยกประเด็นการบริหารงานไม่เข้าเป้าจะมีเหตุผลมากกว่า
“เรื่องนี้ไม่กังวลว่าจะกระทบกับการทำงานของรัฐบาล เพราะเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจ และไม่ให้ความร่วมมือด้วยอีก อย่างไรก็ตาม อยากให้ทุกฝ่ายให้โอกาสรัฐบาลใหม่ได้ทำงานก่อนที่จะวิจารณ์หรือเตรียมเคลื่อนไหว ประเทศจะได้ไม่บอบช้ำไปมากกว่านี้”