xs
xsm
sm
md
lg

เหตุผลสำคัญ!

เผยแพร่:   โดย: ราวี เวียงพยัคฆ์

มีรายงานว่า กกต.รับรอง ส.ส.ไปแล้ว 484 คนจากจำนวน ส.ส.ที่ต้องมีในสภาฯ 480 คน จึงเหลือ ส.ส.ที่ยังไม่มีการประกาศรับรอง 56 คน แยกเป็น ส.ส.สัดส่วน 2 คน และ ส.ส.ระบบเขตเลือกตั้ง 54 คน

กกต.สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ (ใบเหลือง 18 ราย และสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) 7 ราย

เหลือสำนวนคัดค้านการเลือกตั้งว่าที่ ส.ส.ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของ กกต.ในขณะนี้ 31 ราย แยกเป็นพรรคพลังประชาชน 26 คน พรรคเพื่อแผ่นดิน 4 คน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา 1 คน

ถ้าหากจะเปิดสภาฯ ภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันเลือกตั้ง ก็จะเหลือ ส.ส.ที่จะต้องประกาศรับรองอีก 32 คน เพื่อให้มี ส.ส.ครบร้อยละ 95 หรือจำนวน 456 คนตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด

การเปิดประชุมสภาฯ ภายใน 30 วันไม่น่าจะมีปัญหา เพราะ กกต.อาจจะต้องรับรองว่าที่ ส.ส.ที่ยังไม่ประกาศไปก่อน การพิจารณาเรื่องร้องเรียนจะให้ใบเหลือง ใบแดง หลังจากเปิดสภาฯ ไปแล้วก็ย่อมทำได้

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม พรรคที่ได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงมากที่สุดคือ พรรคพลังประชาชนย่อมจะเป็นแกนในการจัดตั้งรัฐบาล หัวหน้าพรรคคือ นายสมัคร สุนทรเวช คือว่าที่นายกรัฐมนตรีอย่างไม่ต้องสงสัย

แต่กระนั้นก็มีความสงสัยขึ้นจนได้ จนกระทั่งตัวนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนอดรนทนไม่ได้ต้องตั้งคำถามกับนักข่าวที่รุมล้อมสัมภาษณ์เขาเสมอมานับตั้งแต่ที่เขารณรงค์หาเสียง และเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า พรรคพลังประชาชนที่เขาเป็นหัวหน้าพรรคอยู่ได้รับเสียงข้างมากกว่าพรรคการเมืองอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นพรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา ฯลฯ

“ทำไมผมจะเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้?”

ไม่แต่นายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนเท่านั้นที่สงสัย ประชาชนส่วนหนึ่งก็สงสัย และทำท่าจะไม่ยอมรับนายสมัคร สุนทรเวช อยู่เหมือนกัน

ความสงสัยดังกล่าวนี้เป็นปัญหาให้การจัดตั้งรัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช ดูจะไม่ราบรื่นสักเท่าไรนัก จนป่านนี้การเลือกตั้งผ่านมาเป็นเวลา 2 สัปดาห์แล้ว ผลของการเลือกตั้งก็ออกมาชัดเจนแล้ว อาจจะมีใบเหลืองใบแดงเกิดขึ้น แต่ก็ไม่ส่งผลต่อการที่พรรคพลังประชาชนจะเป็นพรรคที่ได้รับเลือกตั้งมาด้วยคะแนนเสียงข้างมากแต่ประการใด

แน่นอนรัฐบาลที่จะเกิดขึ้นโดยมีนายสมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคพลังประชาชนเป็นนายกรัฐมนตรี จะต้องเป็นรัฐบาลผสม โดยมีพรรคชาติไทย พรรคเพื่อแผ่นดิน พรรครวมใจไทยชาติพัฒนา พรรคมัฌชิมา และพรรคประชาราช โดยมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคฝ่ายค้านเพียงพรรคเดียว

การที่พรรคเล็กพรรคน้อยได้มีโอกาสร่วมรัฐบาล โดยทั้งหัวหน้าพรรคพลังประชาชน และเลขาธิการพรรค ก็ประกาศเชิญชวนชัดเจนแล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหา การได้ร่วมรัฐบาลนั้น เป็นลาภอันประเสริฐ เป็นสิ่งที่แต่ละพรรคต่างก็มุ่งมาดปรารถนาอยู่แล้ว

ไฉนการจัดตั้งรัฐบาล การก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช จึงเหมือนมีอุปสรรคขวากหนาม จนกระทั่งนายสมัคร สุนทรเวช สงสัยและโยนไปว่ามีมือสกปรกขัดขวางเขา

นายสมัคร สุนทรเวช อาจจะไม่สงสัยในเรื่องนี้เลย ถ้าหากเขาจะส่องกระจกพินิจพิจารณาตัวตนของเขาว่า มีที่มาที่เป็นอย่างไร

นายสมัคร สุนทรเวช ย่อมจะรู้ตัวเองดีว่า เขาเป็นอดีตหัวหน้าพรรคประชากรไทย ที่เด่นขจรขจายมากในกรุงเทพมหานครก่อนหน้านี้ ส่งใครลงสมัครก็ได้รับเลือกตั้ง แต่ในที่สุดก็พ่ายแพ้พรรคพลังธรรมของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ทำให้ความคาดหวังว่า จะก้าวไปให้ถึงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้ได้พังทลายลง จนในที่สุดจะเลิกเวทีใหญ่ มาเอาเวทีเล็กด้วยการเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ก็เอาดี

นายสมัคร สุนทรเวช มามีหน้ามีตามีจมูกขึ้นมาอีกทีก็เมื่อมีการยุบพรรคไทยรักไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แล้วพรรคไทยรักไทยเดิมก็มาเทกโอเวอร์พรรคพลังประชาชน และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งระเหระหนอยู่ต่างประเทศมองหาใครสักคนที่มาทำหน้าที่หัวหน้าพรรคแทนเขา

ในที่สุดก็เป็นนายสมัคร สุนทรเวช

เรื่องอย่างนี้ นายสมัคร สุนทรเวช ยังไม่รู้ตัวเองอีกหรือ

หรือคิดว่าบรรดาสมาชิกพรรคไทยรักไทยเดิม ที่ย้ายสังกัดมาอยู่พรรคพลังประชาชนแล้วยกตำแหน่งหัวหน้าพรรคให้ เขามีความศรัทธาตัวด้วยน้ำใสใจจริง ด้วยความยินยอมพร้อมใจ

เอาละ นายสมัคร สุนทรเวช อาจจะใสซื่อบริสุทธิ์ผุดผ่อง ไม่รู้เรื่องเหล่านี้เลย คิดแต่เพียงว่า สมาชิกพรรคทั้งที่ถูกต้องตามกฎหมายและแอบสนับสนุนช่วยเหลืออยู่วงนอก เขาศรัทธาตัวด้วยน้ำใสใจจริงก็ได้

แต่ประชาชนทั้งหลายทั้งปวงเล่า เขาไม่ได้กินผักกินหญ้านี่

ประชาชนเขารู้ว่าเทือกเถาเหล่ากอของพรรคพลังประชาชนนั้นมีที่ไปที่มาจากไหน ถ้าหากไม่มีสมาชิกพรรคไทยรักไทยเฮละโลเข้ามาหลังจากที่พรรคไทยรักไทยถูกยุบ พรรคการเมืองนี้จะมีคนรู้จักละหรือ ถ้าหากไม่มีท่อน้ำเลี้ยงดีเป็นพิเศษ พรรคการเมืองอย่างนี้จะเติบโตละหรือ

อุปสรรคสำคัญของการเป็นนายกรัฐมนตรีของนายสมัคร สุนทรเวช ก็คือประชาชนเขาต้องการนายกรัฐมนตรีตัวจริง เขาไม่ต้องการมือปืนรับจ้าง

คนที่ผ่านการเมืองมาอย่างยาวนานอย่างนายสมัคร สุนทรเวช ทำไมไม่รู้ในเรื่องอย่างนี้

โดยสติปัญญา โดยประสบการณ์ นายสมัคร สุนทรเวช ต้องรู้ แต่ที่แกล้งหรือไม่เข้าใจก็เพราะตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่เขาคาดหวังบดบังเอาไว้

ว่ากันด้วยเกียรติยศศักดิ์ศรีของนายสมัคร สุนทรเวช สมควรหรือที่จะต้องมาเป็นนักการเมืองประเภทมือปืนรับจ้าง เพราะเขาคือหนึ่งในจำนวนขวัญใจของคนกรุงเทพฯ เลือกตั้ง ส.ส.ในเขตเลือกตั้งดุสิต เขาก็ได้รับเลือกตั้งทุกครั้งด้วยคะแนนนับแสนๆ เลือกตั้งผู้ว่าฯ เขาก็ได้คะแนนเป็นล้าน

สมควรหรือที่เขาจะเล่นการเมืองด้วยการเป็นนอมินีของใคร?

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นอมินีของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่กำลังหนีศาลหัวซุกหัวซุนอยู่ขณะนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น