“ภูวดล” แฉกำพืด “สมชาย” แค่ทาสรับใช้ “แม้ว” ไร้ทางนั่งนายกฯ

“ภูวดล” แฉกำพืด “สมชาย” ได้ดีเพราะเป็นทาสรับใช้ “แม้ว” ปูดซ้ำเคยช่วย “อดีตนายกฯ” หนีคดีเช็คเด้งจนต้องหลบไปอยู่ที่ จ.พังงา ชี้เป็นเพียง “หมาก” ราคาถูก-ไม่มีทางทางได้นั่ง “เก้าอี้นายกฯ” เหตุเพราะวางเฉยต่อความชั่วช้าสามานของ พปช. มั่นใจ “สถาบัน” ช่วยชี้ทางสว่าง-ให้อนาคตกับสังคมไทยได้อย่างแน่นอน

 คลิกที่นี่ เพื่อฟัง ศ.ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ ปราศรัย 

วันนี้ (16 ก.ย.) ศ.ดร.ภูวดล ทรงประเสริฐ อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ขึ้นเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยกล่าวถึงจุดหักเหอันสำคัญของประวัติศาสตร์การเมืองไทยว่า ขณะนี้บ้านเมืองไทยกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านทางการเมืองที่สำคัญ เพราะถ้าสังเกตให้ดี ขณะนี้มีข่าวการแตกแยกภายในพรรคพลังประชาชนค่อนข้างที่จะชัดเจน โดยมีการแบ่งขั้ว คือ สายของนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ซึ่งมีสามีเป็นหมากเดิน ส่วนอีกสายหนึ่งคือ สายของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ซึ่งหลงใหลในฤทธิ์เดชของห้อยร้อยยี่ ซึ่งส่งม้าแข่ง คือ นายสุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ฉะนั้น ความฉิบหายจึงเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะต่างก็จ้องจะแทงข้างหลังของกันและกัน

ส่วนกำพืดของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ รักษาการนายกรัฐมนตรี นั้น ศ.ดร.ภูวดล กล่าวว่า นายสมชายไม่ใช่คนชั่ว โดยพ่อแม่ของเขาเป็นคนธรรมะธัมโม และไม่ได้ร่ำรวยอะไร โดยนายสมชายเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย และขี้กลัว ซึ่งเมื่อมาอยู่กรุงเทพฯ ไปอยู่ที่วัดระฆัง โดยเรียนหนังสือจนสามารถสอบบรรจุเป็นผู้ว่าศาลได้ แต่ปัญหาของนายสมชายก็คือ มักจะเป็นที่หมายปองของพ่อเลี้ยงเมืองเหนือ จนตกเป็นเขยของตระกูลชินวัตร ที่สำคัญนายสมชายให้ความอนุเคราะห์พี่เมีย ซึ่งที่โดนปัญหาเช็คเด้งแล้วหนีไปหลบอยู่ที่สวนปาล์มแห่งหนึ่งใน อ.ปง จ.พังงา ซึ่งจริงหรือไม่นั้น นายสมชายตอบได้แน่นอน

“เมื่อรัฐบาลทักษิณเข้ามาบริหารประเทศ นายสมชายก็มั่งคั่ง อู้ฟู่ ทั้งๆ ที่เคยมีฐานะยากจน ซึ่งคงรู้อยู่แก่ใจ โดยเฉพาะวันนี้พี่น้องของนายสมชายอยู่ที่ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราชไม่ได้ ต้องขายบ้านทิ้ง เพราะไม่มีใครปฏิสัมพันธ์ด้วย เพราะคนใต้มีศักดิ์ศรี และรักความจริง อนาคตของนายสมชาย จึงผูกอยู่กับภรรยา โดยพี่เมียสั่งอะไรก็ทำตามทุกอย่าง ฉะนั้น อย่าฝันว่าจะเป็นนายกฯ เพราะตำแหน่งนายกฯ เด็กวัดระฆัง ก็ยังไม่สามรถเป็นได้” ศ.ดร.ภูวดล กล่าว

ศ.ดร.ภูวดล กล่าวอีกว่า นายสมชาย รู้อยู่แก่ใจว่า พรรคพลังประชาชนเป็นพรรคที่ทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ แต่กระบวนการยุติธรรมในช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมา ไม่กล้าทำอะไรพรรคของตัวเอง โดยเฉพาะที่พี่เมียมาเมืองไทย ก็ช่วยเหลือทุกรูปแบบ ทั้งๆ ที่ทำตัวชั่วช้าสามาน และเฮงซวย แล้วในฐานะที่นายสมชาย เรียนวิชานิติศาสตร์ จึงน่าจะมีหลักนิติธรรม แต่กลับไม่ยอมทำอะไร อีกทั้งวันนี้เมียนายสมชาย ไม่มีทางออก นายสมชายจึงกลายเป็นหมากราคาถูกที่จะเข้ามาเป็นนายกฯ แต่อย่าฝันหวานไปเลย เพราะพรรคดังกล่าวไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นนายกฯ อีกต่อไป เพราะพรรคของนายสมชาย เป็นพรรคที่ผิดกฎหมาย โดยคนธรรมดาที่ไม่กินหญ้าก็จะรู้แจ้งเห็นจริงว่า พรรคดังกล่าวนำพาความฉิบหายมาสู่ประเทศนี้ตอลดมาจนถึงขณะนี้

“ปัญหาวันนี้อยู่ที่ว่า อัยการสูงสุดกำลังทำอะไรอยู่ เพราะศาลรัฐธรรมนูญ และ กกต.ก็ลงมติแล้ว อาศัยแต่ข้อเท็จจริงในชีวิตอัยการสูงสุด ก็น่าที่จะรู้ว่ากำลังสุ่มเสี่ยงที่จะช่วยเหลือทรราชทักษิณ และนายสมัคร สุนทรเวช ที่เพิ่งจะตายคาชามซีอิ๊วดำไปก่อนหน้านี้ อยากถามว่าคน 65 ล้านคน ทำตัวเป็นเด็กอนุบาลไปถึงไหน จะยอมให้นักการเมืองบัดซบจูงจมูกอนาคตของประเทศชาติโดยไม่ยำเกรงสถาบันสูงสุดได้อีกต่อไปอย่างนั้นหรือ ฉะนั้นประเทศนี้จะต้องเปลี่ยนแปลง โดยตุลาการภิวัฒ์จะต้องเกิดขึ้นควบคู่ไปกับประชาภิวัฒน์ ซึ่งจะเป็นเฟืองสำคัญที่จะทำให้ประเทศก้าวไปสู่การเมืองใหม่ ซึ่งไม่มีโอกาสหันกลับไปใช้วัฒนธรรมการเมืองบัดซบกว่า 30 ปี เพราะนักการเมืองชั่วๆ ทำให้ประเทศนี้อ่อนแอจนถึงขณะนี้” ศ.ดร.ภูวดล ระบุ

ศ.ดร.กล่าวอีกว่า ประเทศเราเจริญไม่ได้ ถ้าเรารักประเทศเพียงแค่ปาก แล้วอนาคตของลูกหลานเราจะเป็นอย่างไร ฉะนั้นประเทศนี้จะต้องสร้างจิตสำนึกที่ดี เพื่อทำให้เกิดความรักชาติ รักประชาธิปไตย และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ของเราให้อยู่คู่ฟ้านิรันดร ส่วนสาเหตุที่ตนมาชุมนุมทุกวันนั้น เพราะจิตใจตนต้องการทำให้ประเทศนี้เจริญด้วยน้ำมือของคนรุ่นเรา เพื่ออนาคตของลูกหลานจะได้มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ในความเป็นคนไทย เพราะไม่เช่นนั้นแล้วประเทศของเราก็จะกลายเป็นสถานที่ที่บรรดานักการเมืองบัดซบพากันฉ้อฉล โดยนำเอาทุนต่างชาติมาโฉบเฉี่ยว โกงกินประเทศ

“คนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น สุนัขยังมีราคามากกว่า ฉะนั้นประเทศของเราจึงไม่มีทางที่จะกลับไปเป็นเหมือนในอดีตอีกต่อไป ดังนั้นเราขอเรียกร้องให้หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลว่า โปรดสำเหนียกว่าคุณคือมนุษย์ผู้รักชาติหรือไม่ ดังนั้นจงลด ละ เลิก ความชั่วช้าสามานย์ แล้วหันกลับมาร่วมมือกับประชาชนที่รักชาติ รักประชาธิปไตย รวมทั้งรักสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อจรุงรักษา พี่น้องประชาชนยังพอให้อภัยได้ แต่ถ้าคิดว่าพี่น้องประชาชนยังโง่เขลา ผมยืนยันว่าไม่เกิน 7 วัน ชีวิตคุณ และครอบครัวของคุณ ก็จะกลับตาลปัตรหมุนแบบ 360 องศา ทันที เพราะกระแสประชาภิวัฒน์นั้นรุนแรงมาก” ศ.ดร.ภูวดล กล่าว

ศ.ดร.ภูวดล กล่าวอีกว่า ประเทศนี้เป็นของพ่อหลวง และแม่หลวงเท่านั้น ฉะนั้นทุกคนจะต้องเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วให้พระองค์ทรงชี้แนะ นำทางไปสู่การเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะกรณีที่พระองค์ท่านได้ทรงตรัสกับศาลปกครองสูงสุดวานนี้ ซึ่งถ้าใครอ่านให้ดี คิดให้ลึก ก็จะยิ้มทั้งน้ำตา เพราะประเทศนี้มีอนาคตอย่างแน่นอน เนื่องจากประชาภิวัฒน์จะร่วมมือกับตุลาการภิวัฒน์อย่างแข็งขัน เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ไปสู่จุดสูงสุดอย่างแน่นอน