“เทพไท” การันตี “มาร์ค” ลูกผู้ชายตัวจริง! ท้า “สุรพงษ์” โชว์ท่อน้ำเลี้ยง ปชป.

“เทพไท” ยัน “มาร์ค” สุภาพบุรุษตัวจริง ปัดดูถูก “ปลวกแดง” ซัดเคลื่อนไหวล้มอำมาตย์แค่บังหน้าบีบศาลตัดสินยึดทรัพย์ เย้ย “เพื่อไทย” เจ้าของฟาร์มแกะ ฉะ “พงศ์เทพ” กินปูนร้อนท้อง ด่าพวกพูดคดี 76,000 ล้าน แขวะเป็นถึงอดีตผู้พิพากษทำไมไม่ใช้หลักกฎหมายโต้ ชี้ฝ่ายค้านอ้างคนโร่ให้ข้อมูล แค่ยกเมฆชิงพื้นที่ข่าว ท้า “สุรพงษ์” โชว์ท่อน้ำเลี้ยงประชาธิปัตย์ บอกคงเห็นของพรรคตัวเองจนชินเลยคิดว่าพรรคอื่นจะมีบ้าง

วันนี้ (18 ม.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่โฆษกพรรคเพื่อไทยออกมาพาดพิงว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พูดดูถูกคนเสื้อแดงไม่เป็นสุภาพบุรุษทางการเมืองนั้น ตนขอชี้แจงว่า ถ้าติดตามบทบาทของนายกฯ มาโดยตลอดจะเห็นว่า นายกฯ คนนี้เป็นสุภาพบุรุษทางการเมืองที่แท้จริง เป็นที่ยอมรับของคนทั้งประเทศว่าเป็นนักการเมืองที่ซี่อสัตย์สุจริต และมีมารยาททางการเมืองมากที่สุดคนหนึ่ง การที่นายกฯ ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการชุมนุมของคนเสื้อแดงก็เป็นการวิเคราะห์สถานการณ์ตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงมีส่วนทำให้เกิดแรงกดดันต่อการพิจารณาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้นั้น ไม่ได้เป็นการใส้ร้ายหรือดูถูกประชาชนแต่อย่างใด

นายเทพไทกล่าวต่อว่า การที่โฆษกพรรคเพื่อไทยประกาศว่าการชุมนุมของคนเสื้อแดงไม่เกี่ยวกับเรื่องคดียึดทรัพย์ แต่เป็นการเรียกร้องหาประชาธิปไตยและล้มระบอบอำมาตยาธิปไตย ก็เป็นแค่ข้ออ้างที่ใช้บังหน้า ทั้งที่ข้อเท็จจริงคนเหล่านี้ต่างทำเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงคนเดียว คนทั้งประเทศก็รู้ดีว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ส่วนที่ใส่ร้ายนายกฯว่าเป็นเด็กเลี้ยงแกะที่ได้ประโยชน์จากระบบอำมาตย์จนได้มา เป็นนายกฯ ในวันนี้ ขอชี้แจงว่า การก้าวขึ้นมาเป็นนายกฯ ของนายอภิสิทธิ์ไม่ได้มาจากระบบอำมาตยาธิปไตยตามที่กล่าวหา แต่ได้มาจากระบอบประชาธิปไตยในการลงมติของ ส.ส.ในสภาฯ จึงไม่ได้เป็นเด็กเลี้ยงแกะตามที่ถูกกล่าวหา แต่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยต่างหากที่ทำตัวเป็นเด็กเลี้ยงแกะตลอดเวลา ไม่ใช่เป็นแค่เด็กเลี้ยงแกะแต่เป็นเจ้าของฟาร์มแกะกันทั้งพรรค

โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา โฆษกส่วนตัวของ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาโจมตีกล่าวหาบุคคลต่างๆที่มีความเห็นเกี่ยวกับ การดำเนินคดีของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองว่าเป็นการชี้นำศาลนั้น ตนเห็นว่าคนที่ออกมาพูดมีพฤติกรรมเข้าลักษณะกินปูนร้อนท้อง เพราะการพูดเรื่องดังกล่าวเป็นการพูดถึงหลักกฏหมายในคดีการยึดทรัพย์โดยทั่วไป ซึ่งเคยมีคำพิพากษาของศาลฏีกาเป็นหลักอยู่แล้ว จึงไม่ใช่การพูดชี้นำหรือแทรกแซงการพิจารณาคดีใดๆ ทั้งสิ้น การพยายามที่จะเชื่อมโยงให้สังคมเห็นว่า คนที่มีความเห็นตามหลักกฏหมายที่อคติต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ ตัวนายพงศ์เทพเคยเป็นถึงอดีตผู้พิพากษา ถ้าไม่เห็นด้วยกับหลักและข้อกฎหมายก็ควรออกมาโต้แย้งด้วยเหตุผลทางกฎหมายจึงจะเหมาะสมกว่า ไม่ใช่ออกมาใช้โวหารพูดจาเสียดสีเพื่อหวังผลทางการเมือง

นายเทพไทกล่าวถึงกรณีที่นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่ออกมาระบุว่าไม่รีบร้อนในการอภิปรายฯ ว่า ก็เป็นเรื่องดีที่พรรคฝ่ายค้านจะใช้ความรอบคอบ ถ้าชะลอญัตติยื่นอภิปรายออกไปก็จะทำให้การเมืองในสภามีบรรยากาศดีขึ้นจะได้ ไม่ไปผสมโรงกับคนเสื้อแดงที่นัดชุมนุมนอกสภา แต่เกรงว่าเมื่อถึงเวลานั้นพรรคเพื่อไทยก็จะทนแรงกดดันจากแกนนำคนเสื้อแดงไม่ไหว จะเปลี่ยนท่าทีมารีบยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อสุมไฟการเมืองทั้งใน และนอกสภาฯ ตามความต้องการของนายใหญ่ ส่วนที่กล่าวอ้างว่ามีข้าราชการจำนวนมากส่งข้อมูลการทุจริตมาให้นั้น ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เพราะไม่มีการทุจริตเกิดขึ้เนแล้วจะเอาหลักฐาน อะไรมาส่ง เชื่อว่าพฤติกรรมของข้าราชการไทยคงไม่มีเช่นนั้น เป็นการชิงพื้นที่ข่าวรายวันแบบตีปลาหน้าไซเพื่อให้สังคมเห็นว่าฝ่ายค้านมีแนวร่วมในการส่งข้อมูลมาให้ ล้วนแต่เป็นการยกเมฆ กุข่าวขึ้นทั้งสิ้น วันก่อนบอกว่ามีคนในพรรคปะชาธิปัตย์ส่งข้อมูลให้ พอวันนี้มาบอกว่ามีข้าราชการส่งมาให้ และพรุ่งนี้ก็คงบอกว่ามีข้อมูลจากพรรคร่วมรัฐบาลส่งมาให้อีก ซึ่งล้วนแต่เชื่อถือไม่ได้ คนที่มีข้อมูลเจ๋งจริง เขาไม่ออกมาคุยคำใหญ่เพื่อสร้างราคาเช่นนี้แน่ ถ้ามีข้อมูลดีจริงก็ขอไปพิสูจน์ในสภาดีกว่ามาออกข่าวโฆษณาไปวันๆ

ส่วนที่ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เพื่อไทย ระบุจะเปิดอภิปรายเรื่องท่อน้ำเลี้ยงของนายทุนใหญ่ที่หนุนพรรคประชาธิปัตย์นั้น นายเทพไทกล่าวว่า ตนขอท้าเลยว่าขอให้กล้าเปิดเผยข้อมูลที่อ้างนั้นออกมาเลย ถ้าเป็นความเท็จก็จะได้ให้บุคคลที่ถูกพาดพิงถึงและส่วนที่เกี่ยวข้องต่างๆ ไปฟ้องพิสูจน์ความจริงกันในชั้นศาล ตนขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีระบบท่อน้ำเลี้ยงเกิดขึ้นภายในพรรคเหมือนพรรคการเมืองบางพรรคที่ขาดท่อน้ำเลี้ยงเมื่อไหร่ก็จะเฉาไปในทันที ถ้าพรรคประชาปัตย์มีระบท่อน้ำเลี้ยงจริง คงจะไม่อยู่ยืนยาวมาถึง 63 ปีอย่างนี้ นายสุรพงษ์สังกัดพรรคเพื่อไทย ได้เห็นระบบท่อน้ำเลี้ยงอยู่ทุกวันจึงเข้าใจว่าพรรคการเมืองอื่นจะมีระบบเหมือนกับตัวเองด้วย ทั้งที่ความจริงนายสุรพงษ์ได้เกิดทางการเมืองมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ก็น่าจะรู้ระบบพรรคประชาธิปัตย์ดีว่าอะไรเป็นอะไร เพียงแต่เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีระบบท่อน้ำเลี้ยงใช่หรือไม่ นายสุรพงษ์จึงหนีไปหาท่อน้ำเลี้ยงจากพรรคการเมืองอื่น

นายเทพไทกล่าวต่อว่า ส่วนที่ตั้งคำถามว่าเหตุใดรัฐบาลจึงอยากอยู่บริหารต่อไปนานๆ นั้น ก็ขอให้กลับไปดูผลโพลสำรวจความเห็นของประชาชนที่ 70% ระบุว่าให้โอกาสรัฐบาลอยู่บริหารราชการแผ่นดินต่อไป แสดงให้เห็นว่าประชาชนเริ่มเชื่อมั่นในรัฐบาลนี้เพราะทุกอย่างดีขึ้นกว่า สมัยรัฐบาลก่อนๆ จนเป็นที่ยอมรับของชาวบ้านในเกือบทุกนโยบาย และที่ประเมินว่าการปรับ ครม.ก่อนอภิปรายจะสร้างความแตกแยกในหมู่พรรคร่วมนั้น มันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะรัฐบาลนี้ใส่ใจในความรู้สึกของประชาชน 2 เรื่อง คือ การทุจริตคอร์รัปชัน และความแตกแยกของพรรคร่วมรัฐบาล เมือ่เป็นเช่นนี้ก็จะไม่มีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นในรัฐบาลนี้แน่นอน