หนองคาย-เกษตรกรชาวหนองคายสนใจปลูกปาล์มน้ำมันกว่า 6 หมื่น ไร่ หลังรัฐบาลผุดโครงการปลูกปาล์มน้ำมันเป็นพลังงานทดแทน อย่างไรก็ตาม โครงการต้องชะงักเพราะติดปัญหา ธ.ก.ส.ไม่ปล่อยเงินกู้ อ้างสถานการณ์การเมืองไม่นิ่ง
เมื่อเร็วๆนี้ นายบุรินทร์ ศรีสุภาพ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร 7 ว. สำนักงานเกษตรจังหวัดหนองคาย ได้นำคณะสื่อมวลชนเข้าชมแปลงสาธิตการปลูกปาล์มน้ำมัน ที่ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพการเกษตร จ.หนองคาย
นายบุรินทร์ กล่าวว่า จ.หนองคาย มีโครงการปลูกปาล์มน้ำมันทดแทนพลังงาน ในพื้นที่ตั้งแต่ ปี 2549 เป็นต้นมา ซึ่งหลังจากเปิดโครงการมีเกษตรกรแสดงความประสงค์เข้าร่วมโครงการปลูกปาล์มน้ำมันมากถึง 60,000 ไร่ ใน 14 อำเภอของจังหวัด แต่จำนวนเกษตรกรที่ประสงค์เข้าร่วมโครงการ ภาครัฐจะทำการตรวจสอบสภาพพื้นที่ว่าเหมาะสมที่จะปลูกปาล์มน้ำมันหรือไม่ ซึ่งมีหลายหน่วยงานร่วมกัน
ปรากฏว่าขณะนี้มีเกษตรกรทั้งเข้าร่วมโครงการและอยู่ภายนอกโครงการประมาณ 10,000 ไร่ โดยที่อำเภอโพนพิสัย มีการปลูกปาล์มน้ำมันมากที่สุด นับว่าเป็นปริมาณที่สูง เนื่องจากขณะนี้พืชที่สามารถนำไปทำเป็นพลังงานทดแทน ไบโอดีเซลได้ เช่น ปาล์มน้ำมัน มันสำปะหลัง อ้อย เป็นต้น ภาครัฐต้องการกระตุ้นให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชเหล่านี้มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ก็ยังติดขัดปัญหาในการปลูกปาล์มน้ำมัน เนื่องจาก เกษตรกรขาดแหล่งเงินกู้ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ซึ่งเป็นแหล่งปล่อยสินเชื่อของเกษตรกร ยังไม่พิจารณาปล่อยกู้ให้แก่เกษตรกร เนื่องจากนโยบายภาครัฐยังไม่ชัดเจน จึงทำให้การลงทุนทำสวนปาล์มในพื้นที่ จ.หนองคาย ชะงัก โดยเฉลี่ยแล้วเกษตรกรจะต้องลงทุนเสียค่าใช้จ่ายในการปลูกปาล์ม ตั้งแต่ขั้นตอนของการไถดิน ยกร่อง ซื้อกล้าปาล์ม ใส่ปุ๋ยดูแลรักษา ประมาณ 13,000 บาท/ไร่
นายบุรินทร์ระบุว่า ทั้งนี้ทิศทางของการปลูกปาล์มน้ำมัน หากเกษตรกรมีการปลูกมากจะทำให้ไบโอดีเซล หรือพลังงานทดแทนที่กำลังรณรงค์ให้มีการใช้พลังงานทดแทนนั้น เพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งในพื้นที่ จ.หนองคาย บริเวณที่เหมาะกับการปลูกปาล์มน้ำมัน อยู่ที่ อ.ท่าบ่อ อ.ศรีเชียงใหม่ และ อ.โพธิ์ตาก เนื่องจากสภาพภูมิประเทศเอื้ออำนวย มีแหล่งน้ำที่เพียงพอ มากกว่าอำเภออื่น ๆ ส่วนพื้นที่อื่นก็สามารถปลูกได้หากมีแหล่งน้ำที่เพียงพอ
สำหรับปาล์มที่เกษตรกรเริ่มปลูกในพื้นที่ ขณะนี้ยังไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ คาดว่าในปี 2553 ถึงจะได้ผลผลิตที่นำไปผลิตไบโอดีเซลได้อย่างมีประสิทธิภาพ