พัทลุง - ประธานสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย วอนหน่วยงานภาครัฐจริงใจในการกระจายงบประมาณขับเคลื่อนขยายพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน
นายธนภัทร เหมือนจันทร์ ประธานสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับเรื่องโครงการขยายพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน ตามแผนยุทธศาสตร์ของชาติ ในการขยายพื้นที่ปลูกปาล์มใหม่ 2 ล้าน 5 แสนไร่ และอีก 5 แสนไร่ในพื้นที่ปลูกปาล์มเก่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในวันนี้คืองบประมาณ เนื่องจากแผนในการพัฒนาและขยายพื้นที่ปลูกปาล์มมันมีมานานแล้ว แต่รัฐขาดความจริงใจในการกระจายงบประมาณ
วันนี้เกษตรกรพร้อม แต่มีข้อจำกัด เนื่องจากเข้าถึงแหล่งเงินทุนยาก เพราะงบประมาณไปอยู่ที่ ธกส. ซึ่งเกษตรกรเป็นหนี้แหล่งเงินทุนเดิมอยู่แล้ว เวลาจะไปกู้เงินเพื่อปลูกปาล์มน้ำมันก็จะยาก ตนคิดว่ารัฐควรจัดสรรงบประมาณลงไปยังสหกรณ์การเกษตรด้วย เพื่อเพิ่มช่องทางให้แก่เกษตรกร ส่วนการจัดสรรงบประมาณจะใช้วิธีถัวจะเฉลี่ยสมบูรณ์ไม่ได้ ถ้าเปรียบกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดกระบี่ และจังหวัดชุมพร ซึ่งปรับมาใช้กับพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาไม่ได้เช่นเดียวกัน เนื่องจาก จังหวัดพัทลุง จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดสงขลา เป็นพื้นที่ลุ่มต้องใช้ทุนสูง รัฐต้องแยกโซนลงพื้นที่ทำยุทธศาสตร์ออกมาต่างหาก ซึ่งพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบดังกล่าวมีพื้นที่ที่มีศักยภาพไม่น้อยกว่า 2 ล้านไร่
สำหรับด้านการประกันราคานั้นตนคิดว่า สินค้าเกษตรในวันนี้ โดยเฉพาะปาล์มน้ำมันปล่อยให้เป็นไปตามสภาวะการตลาดโลกน่าจะดีกว่า เนื่องจากศักยภาพของปาล์มน้ำมันปลูกได้ไม่กี่ประเทศ และประเทศไทยเป็นประเทศที่โชคดี ที่สามารถปลูกปาล์มน้ำมันได้ จึงต้องปล่อยให้ราคาเป็นไปตามกลไกของตลาด เนื่องจากประเทศไทยไม่มีพืชชนิดไหนที่มีศักยภาพเท่ากับปาล์มน้ำมัน ยางพารา ข้าว มันสำปะหลัง และอ้อย ดังนั้นรัฐควรส่งเสริมพืชชนิดดังกล่าว เนื่องจากพืชเหล่านี้สามารถนำไปแปลงเป็นอาหารและพลังงานได้ ซึ่งมีผลต่อเศรษฐกิจโดยตรง และตนเชื่อว่าพืชเหล่านี้จะอยู่ได้ไปอีกนาน
นายธนภัทร เหมือนจันทร์ ประธานสมาพันธ์ชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับเรื่องโครงการขยายพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน ตามแผนยุทธศาสตร์ของชาติ ในการขยายพื้นที่ปลูกปาล์มใหม่ 2 ล้าน 5 แสนไร่ และอีก 5 แสนไร่ในพื้นที่ปลูกปาล์มเก่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในวันนี้คืองบประมาณ เนื่องจากแผนในการพัฒนาและขยายพื้นที่ปลูกปาล์มมันมีมานานแล้ว แต่รัฐขาดความจริงใจในการกระจายงบประมาณ
วันนี้เกษตรกรพร้อม แต่มีข้อจำกัด เนื่องจากเข้าถึงแหล่งเงินทุนยาก เพราะงบประมาณไปอยู่ที่ ธกส. ซึ่งเกษตรกรเป็นหนี้แหล่งเงินทุนเดิมอยู่แล้ว เวลาจะไปกู้เงินเพื่อปลูกปาล์มน้ำมันก็จะยาก ตนคิดว่ารัฐควรจัดสรรงบประมาณลงไปยังสหกรณ์การเกษตรด้วย เพื่อเพิ่มช่องทางให้แก่เกษตรกร ส่วนการจัดสรรงบประมาณจะใช้วิธีถัวจะเฉลี่ยสมบูรณ์ไม่ได้ ถ้าเปรียบกับจังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดกระบี่ และจังหวัดชุมพร ซึ่งปรับมาใช้กับพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาไม่ได้เช่นเดียวกัน เนื่องจาก จังหวัดพัทลุง จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดสงขลา เป็นพื้นที่ลุ่มต้องใช้ทุนสูง รัฐต้องแยกโซนลงพื้นที่ทำยุทธศาสตร์ออกมาต่างหาก ซึ่งพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบดังกล่าวมีพื้นที่ที่มีศักยภาพไม่น้อยกว่า 2 ล้านไร่
สำหรับด้านการประกันราคานั้นตนคิดว่า สินค้าเกษตรในวันนี้ โดยเฉพาะปาล์มน้ำมันปล่อยให้เป็นไปตามสภาวะการตลาดโลกน่าจะดีกว่า เนื่องจากศักยภาพของปาล์มน้ำมันปลูกได้ไม่กี่ประเทศ และประเทศไทยเป็นประเทศที่โชคดี ที่สามารถปลูกปาล์มน้ำมันได้ จึงต้องปล่อยให้ราคาเป็นไปตามกลไกของตลาด เนื่องจากประเทศไทยไม่มีพืชชนิดไหนที่มีศักยภาพเท่ากับปาล์มน้ำมัน ยางพารา ข้าว มันสำปะหลัง และอ้อย ดังนั้นรัฐควรส่งเสริมพืชชนิดดังกล่าว เนื่องจากพืชเหล่านี้สามารถนำไปแปลงเป็นอาหารและพลังงานได้ ซึ่งมีผลต่อเศรษฐกิจโดยตรง และตนเชื่อว่าพืชเหล่านี้จะอยู่ได้ไปอีกนาน
