กระบี่ - เอกชนกระบี่ อัดรัฐ นำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศ เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ส่งผลให้ราคาปาล์มภายในประเทศตก ชี้ที่ผ่านมาเหตุการณ์เดียวกันนี้เคยเกิดมาแล้ว แต่ไม่ยอมแก้ไข คอยแก้แต่ปัญหาเฉพาะหน้า
นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตามที่ทางกระทรวงพาณิชย์มีนโยบายนำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศ ประมาณ 6 หมื่นตัน เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำมันปาล์มภายในประเทศ ซึ่งตนมองว่า การกระทำดังกล่าวไม่ใช่เป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ แต่เป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุมากกว่า เพราะทุกครั้งที่มีการขาดแคลนน้ำมันปาล์ม รัฐบาลจะต้องออกนโยบายการนำเข้าทุกครั้งเรื่อยไป โดยที่ไม่มีการหาวิธีการแก้ไขปัญหาในระยะยาว เพราะเหตุการณ์ขาดแคลนน้ำมันปาล์มดิบภายในประเทศไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เกิดมานานแล้ว
ประธานหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า จากนโยบายการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบของกระทรวงพาณิชย์ ได้ส่งผลต่อการตลาดภายในประเทศเป็นอย่างมาก โดยทำให้การซื้อขายผลปาล์มดิบของเกษตรกรราคาตกวูบลงทันที เนื่องจากทางผู้ซื้อเกรงว่า น้ำมันจะล้นตลาด ทำให้ต้องลดราคาการรับซื้อลง แต่ขณะนี้ราคาการซื้อขายผลปาล์มดิบราคาเริ่มขยับขึ้นมา หลังจากที่หลายฝ่ายเริ่มคลายความวิตกจากการนำเข้าน้ำมันของกระทรวงพาณิชย์ และประกอบกับโรงงานแต่ละโรงงานต้องการผลปาล์ม ไปสกัดเป็นน้ำมันกันมากขึ้นทั้งใช้ในการบริโภค และเพื่อผลิตไบโอดีเซล
“ทุกครั้งที่มีการขาดแคลนน้ำมันปาล์ม รัฐบาลจะต้องมีนโยบายการนำเข้าทุกครั้ง ทำไมจึงไม่คิดหาวิธีการส่งเสริมให้มีการปลูกปาล์มเพิ่ม เพราะภาครัฐรู้ดีว่าในแต่ละปี สามารถผลิตน้ำมันปาล์มได้เท่าไร และจะต้องนำมาใช้ในการบริโภคมีประมาณเท่าไร แต่ก็ยังไม่มีการแก้ปัญหาที่ถูกวิธีคิดเป็นอย่างเดียวก็คือเมื่อขาดแคลนก็ต้องนำเข้า หากคิดได้เพียงแค่นี้ปัญหาการขาดแคลนก็คงจะไม่จบสิ้น ยังคงมีเรื่อยไป ทางที่ดีตนขอแนะว่าควรจะส่งเสริมให้มีการปลูกปาล์มน้ำมันเพิ่ม เพราะบางจังหวัดยังคงมีพื้นที่ปลูกอีกมาก”
นายวัฒนา ธนาศักดิ์เจริญ ประธานหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า ตามที่ทางกระทรวงพาณิชย์มีนโยบายนำเข้าน้ำมันปาล์มจากต่างประเทศ ประมาณ 6 หมื่นตัน เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำมันปาล์มภายในประเทศ ซึ่งตนมองว่า การกระทำดังกล่าวไม่ใช่เป็นการแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุ แต่เป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุมากกว่า เพราะทุกครั้งที่มีการขาดแคลนน้ำมันปาล์ม รัฐบาลจะต้องออกนโยบายการนำเข้าทุกครั้งเรื่อยไป โดยที่ไม่มีการหาวิธีการแก้ไขปัญหาในระยะยาว เพราะเหตุการณ์ขาดแคลนน้ำมันปาล์มดิบภายในประเทศไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น แต่เกิดมานานแล้ว
ประธานหอการค้าจังหวัดกระบี่ กล่าวอีกว่า จากนโยบายการนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบของกระทรวงพาณิชย์ ได้ส่งผลต่อการตลาดภายในประเทศเป็นอย่างมาก โดยทำให้การซื้อขายผลปาล์มดิบของเกษตรกรราคาตกวูบลงทันที เนื่องจากทางผู้ซื้อเกรงว่า น้ำมันจะล้นตลาด ทำให้ต้องลดราคาการรับซื้อลง แต่ขณะนี้ราคาการซื้อขายผลปาล์มดิบราคาเริ่มขยับขึ้นมา หลังจากที่หลายฝ่ายเริ่มคลายความวิตกจากการนำเข้าน้ำมันของกระทรวงพาณิชย์ และประกอบกับโรงงานแต่ละโรงงานต้องการผลปาล์ม ไปสกัดเป็นน้ำมันกันมากขึ้นทั้งใช้ในการบริโภค และเพื่อผลิตไบโอดีเซล
“ทุกครั้งที่มีการขาดแคลนน้ำมันปาล์ม รัฐบาลจะต้องมีนโยบายการนำเข้าทุกครั้ง ทำไมจึงไม่คิดหาวิธีการส่งเสริมให้มีการปลูกปาล์มเพิ่ม เพราะภาครัฐรู้ดีว่าในแต่ละปี สามารถผลิตน้ำมันปาล์มได้เท่าไร และจะต้องนำมาใช้ในการบริโภคมีประมาณเท่าไร แต่ก็ยังไม่มีการแก้ปัญหาที่ถูกวิธีคิดเป็นอย่างเดียวก็คือเมื่อขาดแคลนก็ต้องนำเข้า หากคิดได้เพียงแค่นี้ปัญหาการขาดแคลนก็คงจะไม่จบสิ้น ยังคงมีเรื่อยไป ทางที่ดีตนขอแนะว่าควรจะส่งเสริมให้มีการปลูกปาล์มน้ำมันเพิ่ม เพราะบางจังหวัดยังคงมีพื้นที่ปลูกอีกมาก”