xs
xsm
sm
md
lg

Convergint มั่นใจตลาดระบบรักษาความปลอดภัยไทยยังโตได้อีก ชู AI และ IoT

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



คอนเวอร์จินต์ (Convergint) มั่นใจอุตสาหกรรมระบบเฝ้าระวังภัยและรักษาความปลอดภัยไทยยังไม่อิ่มตัว ระบุโอกาสยังไม่ถูกใช้จนเต็มศักยภาพโดยเฉพาะในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของภาคอุตสาหกรรมที่กำลังเปลี่ยนผ่านจากระบบเดิม สู่การใช้เทคโนโลยีแบบบูรณาการที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ย้ำรองรับ Blue Ocean ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่องในเทคโนโลยี AI และ IoT การันตีแพลตฟอร์มรองรับ IoT ได้จำนวนมาก ตั้งแต่อุปกรณ์หลักพันจนถึงหลักล้านทั่วทั้งระบบ

นายอดิศักดิ์ พลอยองุ่นศรี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท Convergint ประเทศไทย มองโอกาสทางธุรกิจในประเทศไทยยังสดใส แม้ตลาดระบบรักษาความปลอดภัยแบบบูรณาการจะถูกหลายคนมองว่าเริ่มอิ่มตัว ว่าประเทศไทยยังเป็น Blue Ocean สำหรับธุรกิจของ Convergint และยังเห็น 3 ปัจจัยขับเคลื่อนโอกาสใหม่ในประเทศไทย

"Convergint มุ่งมั่นลงทุนและขยายตลาดในประเทศไทย และมองว่าไทยคือหนึ่งในตลาดที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แม้อุตสาหกรรมระบบรักษาความปลอดภัยจะมีการพัฒนาไปไกลในบางภาคส่วนแล้ว แต่ Convergint มองว่าโอกาสยังไม่ถูกใช้จนเต็มศักยภาพในการขยายตัวของภาคการลงทุนในประเทศ โดยเฉพาะในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของภาคอุตสาหกรรมที่กำลังเปลี่ยนผ่านจากระบบเดิม สู่การใช้เทคโนโลยีแบบบูรณาการที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล การเฝ้าระวังแบบคาดการณ์ล่วงหน้า และระบบตอบสนองอัตโนมัติของระบบจัดการ"

อดิศักดิ์ พลอยองุ่นศรี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท Convergint ประเทศไทย
Convergint นั้นมองตัวเองว่าไม่ใช่แค่บริษัทระบบรักษาความปลอดภัยทั่วไป แต่คือผู้บูรณาการระบบระดับโลก ที่มุ่งมั่นส่งมอบผลลัพธ์ที่เหนือกว่าด้วยความเป็นเลิศด้านบริการ บริษัทเป็นองค์กรขนาดใหญ่ที่มีรายรับกว่า 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีสำนักงานกว่า 220 แห่งทั่วโลก ปักหลักในตลาดระบบรักษาความปลอดภัยอิเล็กทรอนิกส์ ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้และความปลอดภัย ระบบอาคารอัตโนมัติ, การควบคุม HVAC, การจัดการพลังงาน, คุณภาพอากาศภายในอาคาร รวมถึงระบบภาพและเสียงเพื่อการเฝ้าระวังภัย

เฉพาะภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APAC) เจ้าพ่ออย่าง Convergint มีประสบการณ์ยาวนาน 25 ปี โดยก่อนหน้านี้รู้จักกันในชื่อ ICD Security Solutions และเพิ่งจะเปลี่ยนมาเป็น Convergint ในปี 2022 ปัจจุบันใน APAC มีบุคลากรกว่า 1,400 คน และกว่า 60 สาขาพร้อมให้บริการโครงการกว่า 57,000 โครงการต่อปี และแก้ไขเคสบริการกว่า 6,000 เคสต่อปี

การรักษาความปลอดภัยในโรงเรียนยังมีการสงทุน ท่ามกลางเทรนด์ Smart Education ที่ได้รับความสนใจ
สำหรับประเทศไทย Convergint (Thailand) Ltd. กำลังขยายสาขาไปที่จังหวัดระยอง หลังก่อตั้งขึ้นในประเทศตั้งแต่ปี 2021 โดยมีอดิศักดิ์เป็นหัวเรือใหญ่ ต่อยอดประสบการณ์ในตลาดระบบควบคุมการเข้า-ออก (Access Control) ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) และการวิเคราะห์วิดีโอ รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยแบบบูรณาการ

ในสายตาของ Convergint ประเทศไทยคือหนึ่งในตลาดที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดย 1 ใน 3 ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนโอกาสใหม่ๆ ในประเทศไทยคือศูนย์ข้อมูล (Data Centres) และโครงสร้างพื้นฐานเทคโนโลยีขั้นสูง เนื่องจากการเติบโตของคลาวด์และ AI ทำให้ความต้องการระบบรักษาความปลอดภัยที่สามารถตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์ และผสานรวมระบบรักษาความปลอดภัยเชิงกายภาพและไซเบอร์เข้าด้วยกันภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยสูงนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ปัจจัยที่ 2 คือ Security as a Service (SaaS) บริการรักษาความปลอดภัยในรูปแบบสมัครสมาชิกกำลังเป็นที่นิยม ทำให้องค์กรสามารถเปลี่ยนการลงทุนจาก CAPEX ไปเป็น OPEX ที่ยืดหยุ่นกว่า และปัจจัยที่ 3 คือสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) เห็นได้จากองค์กรจำนวนมากให้ความสำคัญกับ ESG มากขึ้น ระบบรักษาความปลอดภัยจึงต้องสอดคล้องกับการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการตรวจสอบย้อนกลับที่สอดคล้องกับกรอบ ESG

Smart City ยังไม่ตัน
ในสภาพตลาดที่มีการแข่งขันสูง Convergint เชื่อว่าตัวเองสามารถสร้างความแตกต่างด้วยแนวทางที่เน้นผลลัพธ์ ไม่ใช่แค่ตัวผลิตภัณฑ์ แต่นำความเชี่ยวชาญระดับโลกมาผนวกกับความเข้าใจความต้องการของตลาดท้องถิ่น ทำให้สามารถออกแบบโซลูชันที่ปรับแต่งได้ตามความต้องการเฉพาะของลูกค้า

"สิ่งที่ทำให้ Convergint โดดเด่นคือการเปลี่ยนผ่านจากการให้บริการติดตั้งระบบแบบครั้งเดียวไปสู่โมเดลที่เน้นการบริการเป็นศูนย์กลาง (service-first) โดยใช้แพลตฟอร์มบนคลาวด์ (SaaS-based) และโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วยซอฟต์แวร์ เป็นแกนหลัก รวมถึงความสามารถในการตรวจสอบและดูแลระบบระยะไกล และการบำรุงรักษาเชิงป้องกันตามปกติ (RPM) พร้อมการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ"

ท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจและผลกระทบจากภาษีนำเข้า Convergint ยืนยันว่าจะยังคงดำเนินงานอย่างยืดหยุ่นและมุ่งเน้นการเติบโตในไทย กลยุทธ์ของบริษัทคือการกระจายอำนาจให้ทีมงานในท้องถิ่น เชื่อว่าสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกันก็ได้รับประโยชน์จากความแข็งแกร่งขององค์กรระดับโลก

"Convergint ยังคงเห็นการเติบโตที่แข็งแกร่งในธุรกิจหลักอย่างศูนย์ข้อมูล การผลิตขั้นสูง และโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ และใช้กลยุทธ์ห่วงโซ่อุปทานระดับภูมิภาค เพื่อลดผลกระทบด้านต้นทุน การเน้นข้อเสนอที่ขับเคลื่อนด้วยบริการ เช่น การบูรณาการระบบและความปลอดภัยที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์ ยังช่วยสร้างรายได้ต่อเนื่องที่มีเสถียรภาพอีกด้วย"

  ท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจและผลกระทบจากภาษีนำเข้า Convergint ยืนยันว่าจะยังคงดำเนินงานอย่างยืดหยุ่นและมุ่งเน้นการเติบโตในไทย
เมื่อพูดถึง Smart City หรือ Smart Education บริษัท Convergint ยังมองเห็นโอกาสสำคัญ โดยมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนโรงเรียนและมหาวิทยาลัยในประเทศไทย ในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัย และส่งเสริมประสบการณ์การเรียนรู้ที่เชื่อมโยงเทคโนโลยี จุดแข็งของ Convergint คือการรวมเทคโนโลยีล้ำสมัยไว้ในแพลตฟอร์มเดียวที่ใช้งานง่าย เช่น การวิเคราะห์วิดีโอด้วย AI ระบบควบคุมการเข้า-ออกอัตโนมัติ ระบบแจ้งเตือนภัยพิบัติฉุกเฉิน และระบบ AV สำหรับห้องเรียนอัจฉริยะ ทั้งหมดนี้สามารถปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการเฉพาะของแต่ละสถาบัน และสอดคล้องกับบริบททางวัฒนธรรมในท้องถิ่น

สำหรับแผนในอนาคต บริษัท Convergint ชี้ว่าจะลงทุนอย่างต่อเนื่องในเทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อส่งมอบโซลูชันที่ชาญฉลาดและปรับเปลี่ยนได้ เพื่อตอบรับยุค AI และ IoT

"หนึ่งในการลงทุนที่สำคัญคือการพัฒนา ServicePlus ซึ่งเป็นชุดบริการ Managed Services ของบริษัท โดยมีบริการที่สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มโครงสร้างแบบ IoT ทำให้สามารถเฝ้าระวังและบริหารจัดการอุปกรณ์ IT และเซนเซอร์จำนวนมหาศาล ตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักล้านตัว ด้วยการใช้ AI และ Machine Learning (ML) แพลตฟอร์มบนคลาวด์นี้สามารถรวบรวมข้อมูลแบบ Real-time monitoring เพื่อระบุและคาดการณ์ปัญหา ความล้มเหลว หรือความผิดปกติของระบบได้อย่างแม่นยำ" อดิศักดิ์ ทิ้งท้าย.

สำหรับแผนในอนาคต บริษัท Convergint ชี้ว่าจะลงทุนอย่างต่อเนื่อง


กำลังโหลดความคิดเห็น