ตามคาด แอปเปิล (Apple) ประกาศการอัปเดตครั้งใหญ่ให้สินค้ากลุ่มแท็บเล็ตของตัวเองอย่างไอแพด โปร (iPad Pro) ในงานอีเวนต์ที่ใช้ชื่อว่า “Spring Loaded” ท่ามกลางเสียงวิเคราะห์ว่า Apple กำลังพยายามทำทุกทางให้ iPad Pro กลับมาอยู่ในแสงสปอตไลต์ที่โลกให้ความสนใจอีกครั้ง
บางสำนักบอกว่า ตอนนี้ iPad กำลังถูกอาบน้ำแต่งตัวให้เด่นขึ้นกว่าเดิมหลังจากทำตลาดมานาน 11 ปี ที่ผ่านมา iPad ถูกวางตัวไว้หลังโทรศัพท์มือถือดาวรุ่งอย่างไอโฟน (iPhone) เล็กน้อย เหมือนที่แบรนด์อื่นก็เลือกจะไม่ชูแท็บเล็ตขึ้นมาแข่งกับสมาร์ทโฟนรุ่นหลักของตัวเอง แต่สิ่งเหล่านี้กำลังเปลี่ยนไปในระหว่างการแพร่ระบาดของโควิด-19
ช่วงก่อนโควิด-19 แท็บเล็ตถูกตราหน้าเป็นอุปกรณ์ที่ไม่สะดวกใช้พิมพ์งานจริงจัง ขณะเดียวกัน ก็แก้ไขเอกสารได้ไม่ถนัด การเปิดแอปพลิเคชันหลายหน้าจอก็ยังทำได้ไม่ดีนัก ทั้งหมดนี้ทำให้หลายคนมองว่าแท็บเล็ตไม่ใช่สิ่งจำเป็น โดยเฉพาะคนที่มีแล็ปท็อปหรือคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับทำงานอยู่แล้ว และมีสมาร์ทโฟน รวมถึงทีวีที่สามารถดูภาพยนตร์แบบไม่ต้องพึ่งแท็บเล็ต เวลานั้นการเติบโตของยอดขายแท็บเล็ตจึงลดลงทุกปีตั้งแต่ปี 2015 ตามรายงานของ Gartner
จนกระทั่งโควิด-19 ระบาด ตัวเลขนี้กลับดีดตัวเพิ่มขึ้น 23% เพราะการระบาดใหญ่ทำให้ลูกเด็กเล็กแดงต้องการอุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อเรียนออนไลน์ ขณะเดียวกัน ก็ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ยอดขายแท็บเล็ตพุ่งกระฉูดในช่วงปี 2020 ส่วนหนึ่งเพราะแท็บเล็ตสามารถตอบโจทย์วิถีนิว นอร์มอลได้ในราคาประหยัดกว่าการซื้อแล็ปท็อป หรือพีซีที่ใช้งานได้เต็มรูปแบบ แถมยังเหมาะกับการเข้าคลาสออกกำลังกายออนไลน์ที่บ้าน และการประชุมวิดีโอคอลล์ออนไลน์
ภาวะนี้ทำให้ค่ายแท็บเล็ตต้องแข่งกันสุดชีวิต หากมองในตาราง Top 5 ผู้จำหน่ายแท็บเล็ตรายใหญ่ที่สุดของโลก ต้องยอมรับว่า Apple เป็นต่อเหนือผู้เล่นรายอื่นเพราะสามารถโกยยอดขายได้มากกว่าใคร แต่ Apple ก็ไม่วางใจเพราะคู่แข่งทุกรายทำยอดขายแท็บเล็ตเพิ่มขึ้นถ้วนหน้า โดยก่อนหน้านี้ ซัมซุง (Samsung) เผยว่าแท็บเล็ตของบริษัทมียอดขายเติบโต 30% ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2020 โดยเฉพาะในเซกเมนต์ระดับเริ่มต้น-กลาง ที่เข้าไปตอบโจทย์การใช้เพื่อทำงาน และเรียนออนไลน์ในช่วงสถานการณ์โควิด-19
สำหรับตลาดแท็บเล็ตในประเทศไทย รายงานระบุว่า มีการเติบโตต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาส 3 ปี 2019 และหดตัวลงในช่วงเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ปี 2020 ก่อนที่จะกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งในเดือนมีนาคมและเมษายน ซึ่งเป็นการเติบโตในเชิงปริมาณ เบื้องต้น พบว่า 3 ฟีเจอร์หลักที่ผู้บริโภคจะพิจารณาเมื่อซื้อแท็บเล็ต คือ ปากกา ราคา และดีไซน์
*** iPad Pro ข่าวใหญ่ที่สุดที่ Apple เพิ่งประกาศ
6 ข่าวใหญ่ล่าสุดที่ Apple ประกาศในงาน Spring Loaded มีทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์แมคอินทอชอย่างไอแมค “iMac" ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมดพร้อมมีชิป Apple M1 การเปิดตัวเครื่องมือติดตามสิ่งของที่ชื่อว่า “แอร์แทค" (AirTag) อุปกรณ์รับสัญญาณสตรีมมิ่งแอปเปิลทีวี 4K (Apple TV 4K) ที่ปรับมาใช้งานชิป A12 Bionic พร้อมการปรับโฉมรีโมต Apple TV ใหม่ การเผยโฉม iPhone 12 สีม่วง และการเปิดตัวการสมัครสมาชิก Podcast ในแอปของ Apple
แต่ทุกข่าวต้องหลบให้แก่การเปิดตัวของ iPad Pro ใหม่ เจ้าพ่อ Apple ย้ำว่า iPad Pro รุ่นปี 2021 จะมากับหน้าจอ Liquid Retina XDR ขนาด 12.9 นิ้ว มาเป็นตัวเลือกสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานระดับมืออาชีพ โดยจอรุ่นใหม่นี้จะให้สีสันที่คมชัดขึ้น ความสว่างสูงสุดเพิ่มขึ้น และประหยัดพลังงานมากขึ้น และมีรุ่น 11 นิ้วที่ใช้หน้าจอ Liquid Retina ที่เน้นความสะดวกในการพกพาไปใช้งานมาให้เลือกด้วย
ภายในมากับหน่วยประมวลผล Apple M1 ที่เปิดตัวใช้งานกับ MacBook และ Mac Mini ในช่วงปีที่ผ่านมา พร้อมกับอัปเกรดพอร์ตเชื่อมต่อ USB-C ให้รองรับ Thunderbolt 4 ที่มีความเร็วในการส่งข้อมูลมากขึ้น นอกจากนี้ ยังรองรับการเชื่อมต่อ 5G เช่นเดียวกับใน iPhone 12 ซีรีส์
ข้อมูลหนึ่งที่ Apple ย้ำให้เห็นตลอดช่วงการเปิดตัว iPad Pro รุ่นใหม่ คือ ประสิทธิภาพของ iPad Pro ที่เพิ่มขึ้นจากการนำชิป M1 มาใช้คือเร็วขึ้นกว่ารุ่นเดิมถึง 50% และถ้าเทียบกับ iPad รุ่นแรก iPad Pro รุ่นใหม่นี้แรงกว่าถึง 75 เท่า นั่นแปลว่า iPad Pro แรงกว่าโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิปเซ็ต Intel ในระดับราคาเดียวกันไปเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงกล้องหน้า TrueDepth ให้กลายเป็นกล้องมุมกว้าง (Ultra Wide) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เพื่อนำไปใช้กับฟีเจอร์ จัดให้อยู่ตรงกลาง (Center Stage) ที่จะคอยตรวจจับใบหน้า และบริเวณไหล่ของผู้พูด เพื่อขยับเฟรมของภาพให้บุคคลอยู่กึ่งกลางแบบอัตโนมัติ และนำไปใช้งานกับการปลดล็อกด้วยใบหน้า Face ID ด้วย
iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว จะวางจำหน่ายในสีเงิน และสีเทาสเปซเกรย์ ในรุ่นความจุ 128GB, 256GB, 512GB, 1TB และ 2TB iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 27,900 บาท สำหรับรุ่น WiFi และ Cellular 32,900 บาท ส่วน iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว วางจำหน่ายในรุ่น WiFi เริ่มต้นที่ 37,900 บาท และ Cellular 42,900 บาท และเมื่อปรับสเปกสูงสุดจะขึ้นไปอยู่ที่ 81,400 บาท
คุณสมบัติเหล่านี้เหนือกว่าเมื่อครั้งที่ iPad ออกสู่ตลาดครั้งแรกในปี 2010 แบบไม่เห็นฝุ่น เวลานั้นผู้คนจำนวนมากควักกระเป๋าซื้อและตื่นเต้นกับแท็บเล็ตอย่าง iPad ก็จริง แต่แล้วก็ตระหนักถึงข้อจำกัดในการทำงานมากมาย แต่จาก iPad Pro รุ่นใหม่นี้ได้ทลายข้อจำกัดของการใช้งานเดิมๆ ไปทั้งหมดแล้ว
มิคาโกะ คิตากาวะ (Mikako Kitagawa) ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของการ์ทเนอร์ (Gartner) เคยวิเคราะห์ว่า แท็บเล็ตส่วนใหญ่ในเวลานั้นมีไว้สำหรับการชมคอนเทนต์ เช่น การอ่านหรือดูภาพยนตร์ แม้แต่เธอเองก็ยังใช้แท็บเล็ตเวลาทำงานบ้านด้วยการดูภาพยนตร์ขณะซักผ้า มีบ้างทีใช้วาดภาพเป็นงานอดิเรก หลายปีผ่านไป แท็บเล็ตยังคงเป็นอุปกรณ์ที่ไม่สะดวกในการใช้พิมพ์งานจริงจัง รวมถึงการแก้ไขเอกสาร หรือเปิดแอปพลิเคชันหลายหน้าจอ ทำให้หลายคนมองว่าไม่จำเป็นต้องใช้แท็บเล็ตเพราะมีแล็ปท็อปสำหรับทำงานอยู่แล้ว และมีสมาร์ทโฟนรวมถึงทีวีที่สามารถดูภาพยนตร์แบบไม่ต้องง้อแท็บเล็ต
เวลานั้นการเติบโตของยอดขายแท็บเล็ตลดลงทุกปีตั้งแต่ปี 2015 ตามรายงานของ Gartner จนกระทั่งโควิด-19 ระบาด ตัวเลขยอดขายแท็บเล็ตกลับดีดตัวเพิ่มขึ้นถึง 23%
***โอกาสดี "แท็บเล็ต" รุ่งแรงช่วงโควิด-19
จูลี่ อาสค์ (Julie Ask) นักวิเคราะห์จากฟอร์เรสเตอร์ (Forrester) กล่าวว่า การระบาดใหญ่ส่งผลกระทบต่อชาวโลกทุกคนในแง่ของการอยู่บ้านที่ต้องใช้อุปกรณ์เพิ่มขึ้น เด็กน้อยทั่วโลกล้วนต้องการอุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อเรียนออนไลน์ ขณะเดียวกัน ภาวะสินค้าขาดตลาดทำให้หลายช่วงในปีที่แล้วเป็นเวลาที่ผู้คนในบางประเทศหาซื้อแล็ปท็อปได้ยาก จึงเกิดปรากฏการณ์ยอดขายแท็บเล็ตพุ่งกระฉูดในช่วงปี 2020 ที่ผ่านมา
อีกปัจจัยเสริมที่ชัดเจนคือ ชาวโลกจำนวนไม่น้อยมองว่าการซื้อแท็บเล็ตโดยเฉพาะในระดับล่าง สามารถประหยัดได้มากกว่าการซื้อแล็ปท็อปหรือคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานได้เต็มรูปแบบ แถมแท็บเล็ตยังเหมาะกับบางสิ่งที่ผู้คนต้องทำทุกวันนี้มากกว่า เช่น การใช้ติดตามครูในคลาสออกกำลังกายระยะไกล และการโทร.ผ่านซูมเพื่อประชุมออนไลน์
ผู้เล่นทุกรายในตลาดแท็บเล็ตรู้ดีถึงภาวะนี้ จึงพยายามพัฒนารุ่นใหม่ให้เหนือกว่าคู่แข่งเพื่อจะได้โกยยอดขายได้เต็มที่ เฉพาะ Apple เองก็พยายามเพิ่มเสน่ห์ให้แก่ iPad ที่ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนมากนักในช่วงปี 2018 ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพให้ iPad Pro หลังจากปรับดีไซน์ iPad Air ด้วยชิป A14 Bionic รุ่นใหม่เมื่อกันยายน 2020 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ Apple ปรับราคา iPad 8 รุ่นเริ่มต้นให้ทุกคนเข้าถึงได้ง่ายขึ้นที่ 10,900 บาท
สำหรับคู่แข่ง Samsung นั้นมีกำหนดการจัดงานเปิดตัวแท็บเล็ตใหม่ล่าสุดในงาน Galaxy Unpacked ที่จะจัดขึ้นในปลายเดือนเมษายน 64 ถือเป็นงานที่มีกำหนดจัดขึ้นเพียง 1 สัปดาห์หลังจากงานของ Apple โดยแบ่งรับแบ่งสู้ว่างานนี้จะเป็นการแจ้งเกิดอุปกรณ์ Galaxy ที่ทรงพลังที่สุดของ Samsung
งานนี้ได้รับความสนใจจากนักสังเกตการณ์ไม่น้อย เพราะแม้แบรนด์ Galaxy ของ Samsung จะมีความเกี่ยวข้องกับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต แต่ในช่วงที่ผ่านมา บริษัทแดนกิมจิได้ลดน้ำหนักแบรนด์ในสินค้ากลุ่มอื่นที่มีในมือลง แล้วเปลี่ยนให้อุปกรณ์เสริมและแล็ปท็อปบางรุ่นทำตลาดภายใต้ชื่อ Galaxy อย่างจริงจัง สะท้อนว่าแท็บเล็ตคือสินค้าหลักที่เป็นความหวังของ Samsung
ด้านหัวเว่ย (Huawei) เจ้าพ่อไอทีแดนมังกรไม่เพียงขยันเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องถี่ยิบ แต่ยังพยายามปั้นทางเลือกให้ชาวโลกได้ตัดสินใจควักเงินซื้ออุปกรณ์ในรูปแบบอื่นบ้าง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ เมทเอ็กซ์ทู (Mate X2) สมาร์ทโฟนพับหน้าจอได้ที่สามารถกางออกเป็นแท็บเล็ตได้ในตัว
ที่สุดแล้ว ไม่ว่าแบรนด์แท็บเล็ตจะตื่นเต้นกับภาวะตลาดบูมอย่างไร แต่ทุกคนรู้ดีว่าเป็นเรื่องยากที่จะฟันธงว่ายอดขายแท็บเล็ตจะยังคงเติบโตในอัตราปัจจุบันหรือไม่ เพราะทุกสิ่งยังไม่ชัดเจนว่าชาวโลกจะกลับไปใช้ชีวิตหรือพฤติกรรมเดิมในช่วงหลังจากการระบาดหรือเปล่า
แม้จะยังไม่รู้หัวก้อย ทุกคนก็ต้องสู้สุดใจกันต่อไป เพื่อให้แท็บเล็ตของตัวเองโดดเด่นกว่าเดิมในยุคโควิด-19 รวมถึงในโลกยุคหลังวัคซีน!