LINE แนะนำฟีเจอร์ใหม่ให้นักพัฒนาได้นำไปปรับปรุงการให้บริการภายในงาน LINE Thailand Developer Conference 2020 โดยมีความสามารถอย่างเปิดให้ OA สามารถเปลี่ยนรูปโปรไฟล์แชตบอท ปรับปรุงการเลือกส่งข้อความให้ผู้ติดตาม และเตรียมวางจำหน่าย LINE Beacon ให้ธุรกิจซื้อไปติดตั้งเพื่อส่งโปรโมชันให้ลูกค้าได้
วีระ เกษตรสิน Head of Engineering บริษัท LINE ประเทศไทย กล่าวว่า สถานการณ์โรคระบาดโควิค-19 ได้เปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตและการดำเนินธุรกิจของทุกคน เมื่อต้องออกจากกรอบความคิดเดิมและข้อจำกัดที่มี ทำให้สามารถมองหาวิธีการแก้ปัญหาที่สร้างสรรค์ใหม่ๆ รวมถึงการจัดงาน LINE Thailand Developer Conference ที่ทุกคนบนโลกสามารถเข้าถึงได้
“LINE Developer Community มีจำนวนนักพัฒนาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปัจุบันมีมากกว่า 17,000 คน จากปีที่แล้วอยู่ที่ 8,000 คน เพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวภายในเวลาเพียง 1 ปี”
ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปี LINE API มีฟีเจอร์ใหม่ที่เปลี่ยนแปลงหลายจุดเพื่อให้นักพัฒนาสามารถนำไปต่อยอดในบริการ เมื่อจำนวนนักพัฒนาที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้จำนวนแชตบอทบน LINE เติบโตขึ้นเช่นกัน
โดยปัจจุบัน LINE มีแชตบอทรวม 130,000 ตัว เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ขณะที่ใน 1 วัน มีผู้ใช้งานแชตบอทบน LINE มากกว่า 43 ล้านข้อความ และ LIFF app (LINE Front-end Framework) มีจำนวนเกิน 5,500 แอป ส่งให้ยอดผู้ใช้งาน LIFF app เพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านคนต่อวัน
สำหรับไฮไลต์ของ Messenger API ที่ LINE อัปเดตภายในงาน คือ การเพิ่มความสามารถที่จะเปลี่ยนไอคอนและชื่อแอ็กเคานต์เนมของออฟฟิศเชียลแอ็กเคานต์ หรือแชตบอทได้ ทำให้ลูกค้าองค์กรสามารถนำ Live Agent หรือทีมงานคนเข้ามาร่วมให้บริการกับแชตบอทบน SCB Connect เพื่อให้สามารถตอบคำถามของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
เนื่องจากการเปลี่ยนรูปภาพและชื่อแอ็กเคานต์สลับระหว่างแชตบอทและแอดมินได้อย่างลงตัว ทำให้ธนาคารสามารถนำแชตบอทมาให้บริการได้อย่างประหยัดค่าใช้จ่าย และทำงานได้ 24 ชั่วโมง โดยที่ลดปัญหาลูกค้ารู้สึกว่าแชตบอทไม่ฉลาดเพราะตอบคำถามผิดพลาด
อีกทั้งทีม KBTG จากธนาคารกสิกรไทย ที่พัฒนาแชตบอท “ขุนทอง” ซึ่งถือเป็นกรณีศึกษาสำคัญเรื่องการสร้างแชตบอทในกลุ่ม LINE เป็นการพัฒนา LINE API ที่ตรงใจผู้ใช้ได้อย่างโดดเด่นเพราะผู้ใช้ไม่ต้องติดตั้งแอปพลิเคชัน และสามารถใช้ LINE LOGIN เพื่อยืนยันตัวตนว่าเป็นผู้ใช้ที่มาจาก LINE จริง ขณะที่ API ของ LINE ไม่เพิ่มต้นทุนให้บริการ
ฟีเจอร์อื่นที่มีการอัปเดตคือ LINE Emoji ที่เปิดให้นักพัฒนาสามารถที่ส่งอิโมจิน่ารักผ่านข้อความที่เป็น Text Massage ได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องแปลงเป็นโค้ด เพราะสามารถกำหนด Emoji ID แล้วแนบไปกับข้อความเพื่อส่งไปหาผู้ใช้ได้เลย นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ที่เปิดให้นักพัฒนารู้ว่าผู้ใช้ใช้งานภาษาอะไร ทำให้ส่ง Rich Menu ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ยังได้พัฒนา Narrowcast API ให้นักพัฒนาส่งข้อความถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่าเดิม สามารถเลือกส่งเฉพาะกลุ่มคนที่เคยเห็นข้อความก่อนหน้านี้เท่านั้น รวมถึง Multicast API ที่ปลดล็อกจากก่อนหน้านี้ที่สามารถส่งหาผู้ใช้ได้สูงสุด 150 คน มาเป็นการส่งได้สูงสุด 500 คนต่อ 1 รีเควสต์
Rich Menu ที่นิยมมากในผู้ใช้ LINE Official Account การอัปเดตทำให้ Official Account สามารถเปลี่ยนแปลง Rich Menu ด้วย API พร้อมกันสูงสุด 500 คน จากเดิมที่ทำได้ 150 คน ตอบโจทย์ Official Account ที่มีผู้ใช้จำนวนมาก
สำหรับผู้ประกอบการ SME คือ การประกาศเปิดตัว LINE Beacon สำหรับ SME เพื่อให้ธุรกิจขนาดย่อมสามารถซื้อฮาร์ดแวร์สำหรับปล่อยสัญญาณบลูทูธ แล้วนำมาติดหน้าร้าน เมื่อลูกค้าที่ใช้ LINE ซึ่งเปิด Bluetooth และโหมด LINE Beacon เดินผ่านมา ก็จะสามารถรับข้อความ หรือโปรโมชันจากร้านได้
เบื้องต้น ตัวอุปกรณ์กำลังเตรียมวางจำหน่ายในเร็ววันนี้ ซึ่งจะช่วยให้การสื่อสารระหว่างร้านค้าและลูกค้าเป็นไปปย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น
